อภิปรายไม่ไว้วางใจ 2568 : นายกฯ วันแรกมาดคุณหนู ก่อนยกระดับสู่นางพญา

โดย PPTV Online

เผยแพร่

วิเคราะห์หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ "ภราดร" ชี้ พรรครัฐบาลไม่กระเพื่อม แต่นายกฯ สั่นคลอน - "สมชัย" ตัดเกรดนายกฯ วันแรกมาดคุณหนู วันต่อมายกระดับสู่นางพญา

หลังสิ้นสุดการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พร้อมประกาศผลการลงมติไปเมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมีผลมติออกมาด้วยคะแนน 319 ต่อ 162 เสียง ที่ประชุมสภามีมติไว้วางใจนั้น ในแง่ของเสียงสนับสนุนไม่มีการกระทบกระเทือนอะไร แต่ในแง่ของความรู้สึกจะมีอะไรกระทบกระเทือนหรือไม่ ผลงานของผู้นำในสภา สอบผ่าน หรือสอบตก พร้อมวิเคราะห์ “7 งูเห่า” สะท้อนอะไรบ้าง?

คอนเทนต์แนะนำ
อภิปรายไม่ไว้วางใจ 2568 : เปิดรายชื่องูเห่า โหวตหนุนนายกฯ
อภิปรายไม่ไว้วางใจ 2568 : ฝ่ายค้านพบ "งูเห่า" 7 เสียง โหวตหนุนนายกฯอิ๊งค์
“เท้ง ณัฐพงษ์” ยืนยันซักฟอกไม่เสียของ เตรียมเอาผิดนายกฯ ต่อ!

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร่วมพูดคุยพร้อมวิเคราะห์กรณีดังกล่าว รายการคุยข้ามช็อต Exclusive Talk
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร่วมพูดคุยพร้อมวิเคราะห์กรณีดังกล่าว

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร่วมพูดคุยพร้อมวิเคราะห์กรณีดังกล่าวในรายการคุยข้ามช็อต Exclusive Talk ไว้อย่างน่าสนใจ

หลังอภิปรายฯ รัฐบาลไม่กระเพื่อม แต่นายกฯ สั่นคลอน

พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ในทางการเมือง หากดูประวัติศาสตร์ย้อนหลังก็ผ่านทุกครั้ง พอช็อตสองตัวผู้นำก็จะมีอันเป็นไปของตัวผู้นำเอง ถ้าเราดูประเด็นและกลยุทธ์ของฝ่ายค้าน จะเห็นได้ว่าเขาต้องการโรยเกลือบนบาดแผล ซึ่งคาดได้ว่าจะไปจบที่นิติสงคราม คือ สามารถไปจบที่องค์กรอิสระได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษี ที่ดินอัลไพน์ เขาใหญ่ และปมของชั้น 14 ที่อาจมีคนเฝ้าคอย

รวมถึงเรื่องของ “อุยกูร์” ที่มีปฏิกิริยาอื่น ๆ ที่ต้องจับตาจากนานาชาติ โดยเฉพาะสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ถ้าออกมาและส่งผลกระทบกับด้านการค้า ภาษี คุยกันไม่ลงตัว ผู้ค้าขายจะมีปัญหามาก สองชาตินี้เราเป็นคนได้ดุลการค้าร่วมหลายล้าน แต่กับจีนเราขาดดุลประมาณ 2 ล้านล้าน ทำให้จะเกิดภาวะที่ตัวผู้นำไปต่อไม่ได้ เป็นปัญหาหนัก ต้องเปลี่ยนรัฐบาล

ด้านนายสมชัย กล่าวว่า ฝั่งพรรครัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลคิดว่าจะยังไม่กระเพื่อมอะไร หลายคนที่บอกว่าหลังอภิปรายฯ จะมีการปรับ ครม. ต่าง ๆ ส่วนตัวมองว่าจะไม่เกิด ถ้าปรับจะปรับแค่ในซีกของเพื่อไทยฝ่ายเดียว ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของเขาอยู่แล้ว ในลักษณะของสมบัติผลัดกันชม ไม่มีอะไรตื่นเต้นในส่วนนี้

ส่วนตัวมองว่าตัวนายกฯ จะมีเรื่องที่ต่อเนื่องไป เพราะประเด็นที่ได้พูดไป เช่น การวางแผนภาษีแบบดุดัน นั้นไม่ใช่ เพราะเจตนาการไม่เสียกันตั้งแต่ตอนนั้น ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ที่ควรจะเกิดขึ้นเมื่อ 9 ปีที่แล้วหรือไม่ ภาษีมูลค่า 200 ล้านปีนี้กับปีหน้ามูลค่าก็ไม่เท่ากัน แล้ว 9 ปีที่ผ่านมานั้นทำอะไร ทำไมถึงบอกว่าไม่พร้อม

สิ่งนี้จะนำไปสู่คำว่า “ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์” แสดงให้เห็นว่ามีเจตนาปิดบังอำพราง ไม่อยากให้เกิดการเสียภาษีเกิดขึ้นภายในครอบครัวตนเอง ดังนั้นการไม่เสียภาษีคือการปกป้องประโยชน์คนในครอบครัว ซึ่งคำว่า ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ เป็นคุณสมบัติของรัฐมนตรี โดนร้องมาตรา 160 (4) (5) ซึ่งเป็นเรื่องที่คนสามารถไปร้องได้ คำถามคือ ใครจะไปร้อง? ส่วนตัวมองว่า พรรคประชาชนไม่ร้อง เพราะเขามีสไตล์ไม่อยากใช้อำนาจองค์กรอิสระ ไปพูดกันในสภา ก็ได้เท่านี้

นายสมชัย กล่าวว่า กระบวนการที่จะนำไปถึงศาลรัฐธรรมนูญก็ดี หรือ ป.ป.ช. ก็ดี ต้องอาศัยมือคนนอกว่าจะไปร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือ ป.ป.ช. โดยตรง คิดว่าน่าจะมีหลายมือที่พร้อม และเป็นโจทย์ที่จะทำให้นายกฯ ลำบาก เชื่อว่าพรรคร่วมไม่กระเพื่อม แต่ตัวนายกฯ สั่นคลอน

ปมภาษี - ชั้น 14 เป้าหลักโจมตีนายกฯ คนสานต่ออาจไม่ใช่พรรคประชาชน

พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ในส่วนของดีลแลกประเทศสุดท้ายโยงไปเห็นประเด็นของพ่อของนายกฯ ที่กลับมาแล้วทำให้ประเทศสั่นคลอน ส่วนเรื่องชั้น 14 เหมือนเป็นเรื่องเปิดหัวโรยเหลือ หรือจะเป็นเรื่องภาษีก็ตาม คนที่เปิดประเด็นคือระดับ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร แสดงให้เห็นว่าจริง ๆ แล้วนี่คือเป้าหมายหลัก และยอมอธิบายซ้ำซากเพื่อความเข้าใจได้ง่าย ถ้าไม่มีการอภิปรายคงไม่มีการหลุดปากออกมาว่าปีหน้าจะจ่ายคืน

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) รายการคุยข้ามช็อต Exclusive Talk
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)

ซึ่งเป็นข้อสังเกตที่น่าสนใจ เป็นปลายเปิดที่ไปต่อให้จบได้ แต่คงไม่ใช่พรรคประชาชน จะเป็นบุคคล คณะบุคคลอะไรไม่รู้ มารับประเด็นนี้ไปยื่นและสานต่อแน่ โดยจะเป็นผู้ที่นำเนื้อหาสาระของพรรคประชาชนและพรรคพลังประชารัฐไปจัดการต่อที่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งศัตรูนั้นรวมถึงพรรคสีน้ำเงิน ลุงป้อม และมีศัตรูอื่น ๆ มากกว่าที่เห็น

พล.ท.ภราดร กล่าวต่อว่า ศัตรูของพ่อนายกฯ ไม่ได้หายไปไหน และยังมาเจอศัตรูใหม่ สีน้ำเงินก็ตั้งป้อมอยู่ เพราะถ้าไม่ตั้งป้อมก็ถูกเล่นงาน เพราะเขาเห็นท่วงทำนองการเดินของ ดีเอสไอ ของกระทรวงยุติธรรม ยังไงก็เล่นงานแน่ ซึ่งเขาก็มีทีเด็ดที่จะต้องเล่นงานก่อนแล้วค่อยไปว่ากัน จึงต้องจัดการดีเอสไอ และได้อำนาจรัฐไปจัดการเรื่องเขากระโดง ทว่าเรื่องอัลไพน์ของพรรคเพื่อไทยนั้นเสร็จก่อนและเป็นเฉพาะปัญหาของครอบครัวนายกรัฐมนตรี

“7 งูเห่า” โหวตแสดงน้ำใจ เตรียมหาแหล่งพักพิงในรัฐบาล

นายสมชัย กล่าวว่า ในส่วนของงูเห่าทั้งหมด 7 เสียง ไม่ได้เป็นอะไรที่มากมาย และเป็นการเพิ่มโดยตัวเขาเอง คนกลุ่มนั้นต้องการจะมา ไม่ใช่เรื่องของการเจรจาต่อรอง หรือการแจกกล้วย ณ เวลานี้ ฝ่ายรัฐบาลมีเสียงเยอะมากเพียงพอแล้ว จะมีเสียงเพิ่มมาอีกกี่เสียงก็ไม่มีความหมายไม่มีความสำคัญสักเท่าไร

ส่วนคนที่จะแจกกล้วยเองก็อยู่ในสถานะที่รู้สึกว่าแจกไปทำไม เพราะแจกไปก็ไม่ได้ตำแหน่งอะไร ดังนั้นคนที่ดำเนินการก็ไม่ได้มีแรงจูงใจอะไร

พอคนมามาด้วยตัวเขาเอง โดยอาจมีเหตุผลที่ว่าต่อไปในอนาคตข้างหน้าคงต้องหาแหล่งพักพิงที่อยู่ในฝ่ายรัฐบาล ที่อยู่เดิมของตนเองไม่มั่นคงแล้ว ก็ต้องหาแหล่งพักพิงใหม่ เป็นการแสดงน้ำใจผ่านการโหวต

คำถามคือทำไมพรรคพลังประชารัฐถึงมากันน้อย เป็นเพราะพรรคพลังประชารัฐแต่ละคนเป็น สส. เขต ที่มีเสียงจากฐานคะแนนของตนเอง มีบารมีในพื้นที่ ดังนั้นเป็นคนที่พรรคการเมืองต้องวิ่งหา และไม่จำเป็นต้องรีบเปลี่ยนในตอนนี้

นายสมชัย กล่าวว่า พรรครัฐบาลไม่ต้องออกแรงอะไร ลมพัดก็มาแล้ว เป็นข่าวที่เฉย ๆ สำหรับรัฐบาล ไม่ได้ส่งผลดีอะไร

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รายการคุยข้ามช็อต Exclusive Talk
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

ตัดเกรดนายกฯ อภิปรายวันแรกมาดคุณหนู วันต่อมายกระดับสู่นางพญา

พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ณ ตอนนี้หากถามว่านายกรัฐมนตรีสามารถเอาตัวรอดได้หรือไม่นั้น หากเราไปดูตามโพล หรือสื่อที่ประเมิน คือไม่ผ่านทั้งนั้น แม้จะยกมือให้ผ่าน แต่การตอบคำถามคือไม่ผ่าน ไม่สามารถอธิบายความอะไรได้อย่างชัดแจ้ง ถ้าไม่มีประสบการณ์ ไม่มีความสามารถ ไม่มีวุฒิภาวะ ไม่มีพรสวรรค์พิเศษ ในระยะเวลาอันสั้นที่มาเป็นผู้นำระดับนี้นั้นยากมากโดยเนื้องานอยู่แล้ว

พล.ท.ภราดร กล่าวต่อว่า ทีนี้ต้องมาดูว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยอดีตหรือไม่ คือการยกมือนั้นผ่าน แต่สุดท้ายก็ต้องไปอยู่ดี แต่ถ้าไปอาการจะน่าเป็นห่วง เพราะ 2-3 ครั้งที่ผ่านมาไปด้วยการยุบสภา ไม่มีนิติสงครามตามมาเป็นชนักปักหลัง แต่ครั้งนี้ตัวเองพ้นแล้ว จะมีชนักปักหลัง และเป็นวิบากกรรม

ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีใครสามารถตอยอะไรได้ เพราะเรื่องอาจเดินต่อไปในประเด็นอื่น ๆ ได้ เพราะโดนข้อหาหลากหลาย

นายสมชัย กล่าวว่า นายกฯ มีพัฒนาการในแง่ของการตอบคำถาม ถ้าดูการอภิปราย 5 ครั้งของการตอบในสภาฯ ครั้งแรกแซวลุงป้อมด้วยความมั่นใจ เตรียมสคริปต์มา แต่โดนด่า เหมือนกับว่าตัวเองเตรียมมาเพื่อประชด ไม่ดูบรรยากาศ ไม่ดูว่าพูดอย่างไร ทั้งที่แกพูดชมด้วยซ้ำ ครั้งที่สองที่มาตอบเรื่องการชำระภาษี ยังตอบไม่ดี เพราะตอบแล้วเข้าตัว เช่น ณ วันที่ขายกันดิฉันยังไม่มีความพร้อม ตอบได้ไม่ดี ไม่พ้นตัว

การตอบครั้งที่สามเรื่อง PM 2.5 เป็นการอ่านพาวเวอร์พอยต์ที่ทำโดยพวกราชการ ซึ่งรู้สึกว่าธรรมดาเฉย ๆ เหมือนเด็กพรีเซนต์หน้าห้อง และคิดว่าพัฒนาการในวันแรกยังไม่ดีเท่าไหร่

วันต่อมาในการพูดช่วงบ่ายตนรู้สึกว่าเข้าท่ามากขึ้น มีการพูดอย่างเป็นธรรมชาติ สามารถเรียกร้องความเห็นใจจากคนได้ ส่วนมาช่วงตกกลางคืนเหมือนนางพญา ที่ตอบคำถามและท้าทายต่าง ๆ เช่น พรรคประชาชนบอกมาสิว่าคราวหน้าจะร่วมกับใคร ลักษณะของการตอบโต้นั้นดุเดือดมาก ๆ มีพัฒนาการใน 1 วัน 1 คืน พัฒนาจากคุณหนู กลายเป็นจอมยุทธ์ เป็นนักการเมืองผู้เชี่ยวชาญ เป็นนักการเมืองรุ่นเก่าที่สามารถพัฒนาได้เร็วมาก

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ