หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยร่วมชุมนุมกับกลุ่มที่คัดค้านร่างดังกล่าว
ซึ่งหนึ่งในคนที่ไม่เห็นด้วยคือ นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวในการแถลงจุดยืนคัดค้านร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หลังที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบให้เสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างที่ผู้ชุมนุมรวมตัวบริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ
โดยนายจตุพร บอกตอนหนึ่งว่า ในวันนี้ถ้าเราหยุดกาสิโนไม่ได้ การพนันออนไลน์ก็จะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ เราจะไม่ถอยเราจะสู้ไม่ยอมถอย เพราะฉะนั้นอยากให้เสียงนี้ไปถึงนายกรัฐมนตรีว่ากำลังจะโดนประชาชนเกลียดชัง และโดนประชาชนขับไล่ ซึ่งจะไม่ต่างกับอาและพ่อของนายกรัฐมนตรี ที่จุดจบก็คือจะไม่มีแผ่นดินอยู่
นายจตุพร ยังกล่าวว่า การเมืองตอนนี้ร้อนเหมือนอากาศในตอนนี้ และอยากฝากถึงนายกรัฐมนตรีว่า การแถลงครั้งนี้เป็นเพียงก้าวแรกเพียงเท่านั้น และอนาคตรัฐบาลนี้เหมือนอย่างที่เหมือนกับพ่อและอาของนายกรัฐมนตรีที่ชนะเพียงช่วงแรก และสุดท้ายจะพ่ายแพ้ในช่วงท้ายเสมอ
" รัฐบาลได้เดินหน้า พ.ร.บ.นี้ เปรียบเหมือนคนที่พยายามจะฆ่าตัวตาย ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่อยู่ ก็พยายามดื้อจะฆ่าตัวตายให้ได้เสมอ" นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร ยังบอกอีกว่า รัฐบาลไม่คำนึงนโยบายที่ใช้ในการหาเสียงไม่คำนึงว่าสิ่งที่ทำกำลังหากินกับความเดือดร้อนซึ่งอาจจะเป็นสิ่งที่กระทบต่อภาพใหญ่ของประชาชน แม้รัฐบาลกำลังจะสื่อความว่ามีกาสิโนเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ แต่มองว่า 10 เปอร์เซ็นต์ คือหัวใจของการเดินหน้าในเรื่องนี้ รวมถึงได้ตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมนายกรัฐมนตรีกลับไม่เชื่อประธานาธิบดีจีนที่มีการตักเตือนประเทศไทยเกี่ยวกับเรื่องการตั้งกาสิโนในประเทศ
ขณะที่นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) กล่าวว่า ทั้ง คปท.และ ศปปส. กองทัพธรรม ได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจน และเตือนรัฐบาลมาโดยตลอดว่าหากมีนโยบายที่อาจนำไปสู่ความเสียหายของประเทศ ประชาชนจะต้องตั้งคำถามกับรัฐบาล แต่เพียงหนึ่งวันหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ครม. กลับมีมติรับร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่รวมถึงการเปิดให้มีกาสิโน ด้วยถือเป็นมติ ครม. สีดำ ซึ่งสะท้อนว่ารัฐบาลกำลังสนับสนุนธุรกิจสีเทา และอาจทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางของอบายมุข ซึ่งการผลักดันกฎหมายฉบับนี้เป็นการกระทำของ รัฐบาลสีเทา นักการเมืองสีเทา และสายความมั่นคงสีเทา ที่รวมตัวกันเพื่อผลักดันผลประโยชน์ของธุรกิจสีเทา
ดังนั้นต่อไปนี้จะยกระดับการเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อนำไปสู่การโค่นล้มรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งวันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้น เป็นก้าวแรกของการเดินหน้าขับไล่รัฐบาลแพทองธาร พร้อมเดินหน้าเรียกร้องความยุติธรรมให้กลับคืนสู่ประเทศไทย
นายพิชิต กล่าวอีกว่า จะปักหลักประจำชุมนุมอยู่ที่นี่ โดยที่จะมีนักวิชาการมีเพื่อนในคณะมาพบปะพูดคุยกับพี่น้องมากขึ้น และจะมีพี่น้องประชาชนมาสมทบร่วมมากขึ้น ส่วนในส่วนอื่นก็รอการแจ้งว่าจะมีกิจกรรมที่จะต้องขยับขยายกันอย่างไรต่อ ซึ่งจะมีปฏิกิริยาเพิ่มขึ้น ส่วนการขับเคลื่อนมิติต่าง ๆ เชื่อว่าพี่น้องประชาชนพร้อมที่จะร่วมขับเคลื่อนอยู่แล้ว