จากกรณีศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนใน คดีโครงการรับจำนำข้าว เป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 10,028,861,880.83 บาท นั้น
ล่าสุดนายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายอิสระ ให้สัมภาษณ์วิเคราะห์คำวินิจฉัยศาลปกครองสูงสุดที่ออกมา เป็นการยืนยันหลักกฏหมายที่ถูกต้องส่วนแรกคือ การที่เอาผิดนายกรัฐมนตรีจากการดำเนินโครงการเชิงนโยบาย หรือ เชิงเศรษฐกิจนั้นทำไม่ได้ ซึ่งถือเป็นข้อดีกับ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
แต่ขณะเดียวกันคำตัดสินของศาลก็มีอีกส่วนหนึ่งที่ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ยังคงต้องรับผิด ศาลเพ่งเล็งไปที่กระบวนการระบายข้าว โดยให้เหตุผลว่า มีการประมาทเลิ่นเล่อ ปล่อยปละละเลยให้ข้าราชการที่ทำการระบายข้าวทุจริตกัน ทำให้ น.ส. ยิ่งลักษณ์ต้องรับผิดด้วย
นายวีรพัฒน์ บอกว่า ส่วนนี้ก็ต้องตั้งคำถามต่อว่าในทางกฎหมาย มีการตีความเป็นเหตุเป็นผลแค่ไหน หน้าที่ของนายกรัฐมนตรีต้องดูแลภาพรวมของประเทศ ทั้งเรื่องน้ำท่วม เรื่องเศรษฐกิจ นักท่องเที่ยว อาชญากรรม และสิ่งแวดล้อมต่างๆ จะให้ดูแลทุกอย่างใกล้ชิด จนไม่มีการทุจริตเลยก็เป็นเรื่องยาก
“ถ้าโครงการที่กำกับดูแลมีการทุจริตจริง แล้วนายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบไปด้วยนั้น ก็ต้องเป็นบรรทัดฐานเดียวกันกับทุกพรรค ทุกยุคสมัย เช่น การซื้อยุทโธปกรณ์ทางทหารแล้วพบการทุจริต หรือ ซื้อเรือดำน้ำมาแล้วใช้การไม่ได้ นายกรัฐมนตรีสมัยนั้นก็ต้องออกมารับผิดชอบด้วยหรือไม่”
ขณะเดียวกันกรณีที่ทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์เรื่องการยื่นของศาลตั้งคดีใหม่นั้น นายวีรพัฒน์ บอกว่ามีช่วงที่น่าสนใจ ในมุมกฎหมายการจะคิดค่าเสียหาย ต้องคิดจากความเสียหายจริง ถ้าท้ายที่สุดมีการระบายข้าว ได้เงินกลับเข้ามาที่รัฐบาล ก็เท่ากับว่าเงินที่เข้ามาเป็นภาษีของประชาชน ซึ่งถือว่าความเสียหายส่วนนั้นได้รับการเยียวยาแล้ว ทั้งนี้การขายข้าวในยุคที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อาจจะเกิดขึ้นหลังจากที่ศาลยุติการแสวงหาข้อเท็จจริงแล้ว ทางทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงออกมาแถลงข่าวว่า อาจจะนำหลักฐานตรงนี้ไปต่อสู้ให้ศาลพิจารณา นายวีรพัฒน์ มองว่า ฝ่ายที่ต้องนำคำพิพากษาไปบังคับใช้คือกระทรวงการคลัง
ซึ่งในวันนี้ก็อยู่ภายใต้รัฐบาลของพรรคเพื่อไทย และ เชื่อว่าคงไม่บังคับใช้กฎหมายแบบเอาเปรียบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แน่นอน แต่ก็จะมีคำถามตามมาอีกว่าถ้าเกิดกระทรวงการคลัง นำรายได้จากการขายข้าวมาหักกลบลบหนี้ จนท้ายที่สุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายเลย ก็อาจจะมีคนบางกลุ่มที่ไม่เข้าใจมองว่าเป็นการเล่นแร่แปรธาตุ ท้ายที่สุดเรื่องนี้ก็อาจจะเป็นปัญหา อาจเป็นระเบิดอีกลูกหนึ่งที่รอ น.ส.ยิ่งลักษณ์อยู่
นายวีรพัฒน์ บอกว่า คำว่า จำนำข้าว เป็นคำทางการเมืองที่ถูกหยิบมาใช้โจมตีรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งนำไปสู่การเป่านกหวีด ก่อนที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะใช้เรื่องนี้มาอ้างในการยึดอำนาจ และตั้งพวกพ้องตัวเองอยู่ในกระทรวงการคลัง ก็ต้องตั้งคำถามว่า นอกจากความน่ากังขาเรื่องการตีความกฎหมายแล้ว ยังมีกรณีความไม่เป็นธรรมทางด้านการเมืองด้วยหรือไม่
นายวีรพัฒน์ เชื่อว่า จะมีคนจับตาว่ารัฐบาลชุดนี้ว่าจะเอื้อประโยชน์ให้ น.ส. ยิ่งลักษณ์หรือไม่ น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร จะสั่งการช่วยเหลืออาตัวเองหรือไม่ ซึ่งจะทำให้ปัญหาทางการเมืองซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
ส่วนเรื่องจะมีดีลให้ น.ส. ยิ่งลักษณ์กลับบ้านหลังการพิจารณาเรื่องนี้ นายวีรพัฒน์ บอกว่า ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องมีการพิจารณาหลายส่วน ทั้งคดีการรักษาตัวที่ชั้น 14 ของนายทักษิณ ชินวัตร เรื่องผลงานของรัฐบาล รวมถึงความสงบเรียบร้อยบ้านเมือง เพราะฉะนั้น น.ส. ยิ่งลักษณ์จะได้กลับบ้านหรือไม่เป็นเรื่องที่ต้องคิดหนัก
นายวีรพัฒน์ มองว่า นายทักษิณน่าจะทราบดีว่า ถ้าขยับบางอย่างเร็วเกินไปก็จะมีคนหาช่องทางมาโจมตีลูกสาว เพราะตอนนี้ ตัวอดีตนายกทักษิณ และ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ก็มีเหมือนมีบ่วงติดหลังอยู่ ถ้าทำอะไรผิดพลาดไป น.ส.แพรทองธาร ก็อาจจะโดนคดีไปด้วย ทำให้ต้องทำอะไรอย่างระมัดระวังมากขึ้น