“หมอเพื่อน” พญ.กอบกุลยา จึงประเสริฐศรี คุณหมอนางงาม แพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์ป้องกัน (Preventive Medicine) ผู้อำนวยการศูนย์พรีเมียร์ไลฟ์เซ็นเตอร์ โรงพยาบาลพญาไท 2 แขกรับเชิญสุดพิเศษที่มาจะมาเปิดใจกับพิธีกร “น้าเน๊ก-เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา”
ถึงเส้นทางชีวิต การทำงานแบบสุดโต่ง เพราะนอกจากความสวยและความสามารถในวงการแพทย์แล้ว อะไรที่ทำให้เธอคนนี้พบกับจุดเปลี่ยนในชีวิตบ้าง ติดตามได้ในรายการ “จุดเปลี่ยนสายแข็ง by BDMS” ทาง พีพีทีวี ช่อง 36
9 อาการเบาหวาน สัญญาณที่อาจมองข้าม เช็กก่อนคุมไม่ได้อันตรายถึงชีวิต
อเมริกาโน่ (Americano) เมนูกาแฟเพื่อสุขภาพสั่งแบบ“ไม่หวาน”ดีมากกว่า!
วิธีอ่านค่าผลตรวจสุขภาพ เช็กไขมันปริ่มเพดาน เสี่ยงเบาหวาน ตับผิดปกติ
จากจุดเริ่มต้นชีวิตที่เคยอยากเรียนด้านวิศวะ เนื่องจากครอบครัวดำเนินธุรกิจก่อสร้าง พอถึงเวลาสอบเข้ามหาวิทยาลัยจริง ๆ คุณแม่ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้ชีวิตพลิกผันมาเลือกเรียนแพทย์ อีกทั้งยังพบจุดเปลี่ยนจากสิ่งที่ได้ร่ำเรียนมา จากนักเรียนแพทย์ที่ทำคะแนนวิชาศัลยศาสตร์ อันดับ 1 ของห้อง จนมาถึงแพทย์เฉพาะทางผิวหนัง ตามด้วยแพทย์ด้านอายุรกรรม กระทั่งสุดท้ายมาสิ้นสุดที่ความสนใจเรื่องเวชศาสตร์ชะลอวัย หรืออีกหนึ่งศาสตร์ที่ทำให้หมอเพื่อนมีความมุ่งมั่นที่จะทำงาน และศึกษาทางด้านนี้แบบโดยตรง ปัจจุบันเทคโนโลยีด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยสามารถดูแลได้ในระดับลึก เป็นการสะท้อนความสุขภาพดีได้โดยไม่ต้องพึ่งยาด้วย
ส่วนฉายา “คุณหมอนางงาม” นั้น ก็มาจากในสมัยอดีตเมื่อปี 2552 หมอเพื่อนเคยคว้าตำแหน่งรองอันดับ 1 จากเวทีประกวดนางสาวไทย อีกทั้งคุณหมอได้มีความมุ่งมั่นที่ใช้มงกุฏและสายสะพายเป็นสะพานเชื่อมให้เข้าถึงกลุ่มผู้ป่วยด้อยโอกาส และทำคุณประโยชน์ให้กับสังคมได้ง่ายขึ้นอีกด้วย โดยเฉพาะช่วงเวลาที่คุณหมอเดินทางออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เดินเท้า เป็นหนึ่งในทีมของหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ พอ.สว ในการลงพื้นที่ไปให้บริการประชาชนในพื้นที่ทุรกันดาร
โดย หมอเพื่อน เล่าว่า “สิ่งนี้เป็นการที่ทำให้เราได้ใช้วิชาชีพแพทย์ที่เรียนมาได้แบบคุ้มค่าที่สุดในชีวิต เป็นความสุขที่เติมเต็มให้กับตัวเองมาก ทำให้การทำงานของเรากลับมามีพลังมากยิ่งขึ้น และเป็นวิธีการรีสตาร์ทที่ดีที่สุดสำหรับหมอเพื่อน”
แน่นอนว่ามาเป็นแขกรับเชิญรายการ “จุดเปลี่ยนสายแข็ง” ทั้งที หมอเพื่อนยังจัดเต็มข้อแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับเคล็ดลับการดูแลสุขภาพให้ทั้งพิธีกร น้าเน๊ก และผู้ชม อีกทั้งยังเตือนภัยสำหรับผู้ที่ชื่นชอบ “ความหวาน” เพราะน้ำตาลคือยาพิษ ตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดความเสื่อมสภาพของเซลล์ต่างๆ ภายในร่างกาย
หมอเพื่อน กล่าวต่ออีกว่า “ทุกคนคิดว่าน้ำตาลจะช่วยทำให้สดชื่น ซึ่งจริง ๆ แล้ว น้ำตาลมีดีและไม่ดี ส่วนน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวเป็นสิ่งที่ยิ่งทาน ยิ่งแก่ หากเราดื่มน้ำหวาน 2 แก้ว ที่คาดการณ์ว่ามีน้ำตาลราว ๆ 100 กรัม สิ่งนี้จะทำให้หยุดการเคลื่อนไหวของเม็ดเลือดขาวถึง 5 ชั่วโมง นั่นแสดงว่าเมื่อร่างกายได้รับเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียอะไรเข้าไป ร่างกายก็สามารถติดเชื้อได้ง่ายขึ้น หมอเพื่อนแนะนำให้ค่อยๆ ปรับวิถีชีวิตในการงดทานหวาน หากทำได้ภายใน 21 วัน ร่างกายก็จะเกิดความเคยชินไปเอง”
โดยเรื่องราวทั้งหมดนี้สามารถติดตามชมกันต่อได้กับ หมอเพื่อน พญ.กอบกุลยา รวมถึงวิธีการดูแลสุขภาพให้ห่างไกลโรคจากแพทย์ในเครือ BDMS “อย่าให้อดีตเคยสุด ต้องมาหยุดอยู่กับหมอ” ในรายการ “จุดเปลี่ยนสายแข็ง by BDMS” วันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม นี้ เวลา 22.00 น. เป็นต้นไป ทางพีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 หรือรับชมผ่านเว็บไซต์ www.pptvhd36.com หรือแอปพลิเคชัน และ YouTube ช่อง PPTVHD36
รู้จัก "Golden Boy" ประติมากรรมสำริด ที่พลิกหน้าประวัติศาสตร์ขอมโบราณ!