กองทัพเมียนมา ตัดอินเตอร์เน็ต-ปิดหนังสือพิมพ์ เดินหน้าปราบประชาชน

เมียนมาประท้วงเดือด! ตร.ไล่ยิงผู้ชุมนุมกลางย่างกุ้ง - จับนักข่าวญี่ปุ่น

ท่ามกลางการประท้วงและการปราบปรามที่ยังคงดำเนินมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาเดือนกว่า ทางกองทัพเองก็ยังคงเดินหน้าควบคุมประชาชนและสร้างความชอบธรรมให้กับตนเองในการทำรัฐประหาร

ล่าสุดในช่องของทหารมีการเผยโฉมหน้าของผู้ที่ระบุตัวว่า เป็นคนมอบเงินให้กับอองซาน ซูจี หรืออีกนัยหนึ่งนี่คือพยานและหลักฐานในการเอาผิดข้อกล่าวหาที่ว่านางซูจีรับเงินผิดกฎหมาย

ย้อนดูความเสียหายที่เกิดขึ้นเมื่อวาน สำนักข่าวอิรวดี สื่อท้องถิ่นของเมียนมารายงานว่า เมื่อวานนี้มีประชาชนอีกอย่างน้อย 6 คนถูกเจ้าหน้าที่ทหารยิงเสียชีวิต

4 ราย ถูกยิงเสียชีวิตในเขตซะไกง์ ภาคกลางของเมียนมา เป็นคนอายุต่ำกว่า 30 ปีทั้งหมด คือชายอายุ 28 ปี 25 ปี และ 20 ปี กับอีกรายอายุ 41 ปี

พวกเขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ หรือท้อง หลังจากเจ้าหน้าที่กว่า 50 รายบุกเข้าไปกราดยิงประชาชน เนื่องจากพวกเขาได้จับกุมชายรายหนึ่งที่ทำหน้าที่เป็นคนรายงานข่าวให้กับทหาร ประชาชนในพื้นที่เปิดเผยว่า ชายรายนี้จะคอยถ่ายรูปผู้ชุมนุม และคอยโทรรายงานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่

ขณะที่อีกรายถูกยิงเข้าที่ศีรษะในย่างกุ้ง นครย่างกุ้งเป็นเมืองที่มีการปราบปราม และจับกุมผู้ชุมนุมทุกวัน ขณะที่ผู้ชุมนุมเองเริ่มตอบโต้กลับด้วยการปาระเบิดขวดใส่เจ้าหน้าที่ จึงทำให้สถานการณ์รุนแรงยิ่งขึ้น หลายพื้นที่ได้กลายเป็นสงครามกลางเมือง

ตำรวจเมียนมา หนีคำสั่งให้ฆ่าคน ลี้ภัยไปอินเดีย

เมื่อวานนี้สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติสรุปยอดผู้เสียชีวิตไว้ที่ 149 ราย ผู้ถูกจับกุมมากกว่า 2,080 ราย โดยเปิดเผยว่า ตั้งแต่เมียนมาประกาศใช้กฎอัยการศึกในนครย่างกุ้ง รอบนครย่างกุ้ง และเมืองมัณฑะเลย์ การรวบรวมยอดผู้เสียชีวิตและผู้ถูกจับกุมเป็นไปอย่างลำบาก เนื่องจากพื้นที่เหล่านี้ถูกตัดสัญญาณ ซึ่งพื้นที่เหล่านี้เป็นที่ที่มีการปราบปรามผู้ชุมนุมมากที่สุด

มีหลักฐานชัดเจนที่บันทึกช่วงเวลาที่ทหารเมียนมายิงผู้ประท้วงเสียชีวิตเมื่อวานนี้ ภาพจากนครย่างกุ้ง ชาวเมียนมารายหนึ่งบันทึกภาพผ่านช่องตาแมว จะเห็นความวุ่นวายด้านนอก จากนั้นจู่ๆ ชายคนหนึ่งที่กำลังมองหาที่หลบก็ล้มกองลงกับพื้น รายงานระบุว่าเขาถูกกระสุนยิงเข้าที่ศีรษะ

ส่วนสถานการณ์ในวันนี้การประท้วงบนท้องถนนยังคงเกิดขึ้น ความน่าสนใจคือมีการรประท้วงแบบใหม่ที่เรียกว่าการประท้วงไร้คน

เมื่อวานมีรายงานการประท้วงที่เขตเมืองอินเซน ในนครย่างกุ้ง พบป้ายประท้วงจำนวนมากเรียงเป็นแถวยาว ที่มีข้อความว่า ประท้วงโดยไม่มีผู้ประท้วง (Protests without Protesters)

"อองซาน ซูจี" ถูกตั้งข้อหาเพิ่มอีก 2 ข้อหา

วันนี้ปรากฏการณ์ดังกล่าวบนเพิ่มขึ้นในหลายเมือง เช่นที่เขตตวันเต ในย่างกุ้ง ที่เขตปยินมานา ในกรุงเนปิดอ และที่เมืองพระโค โดยชาวเมียนมาใช้วัสดุต่างๆ ที่หาได้ ไม่ว่าจะเป็นกระดาษ ขวดน้ำ

ส่วนบนโลกออนไลน์ชาวเมียนมาพากันโพสต์ข้อความ Internet Blackout เพราะทางกองทัพได้ตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตอีกครั้งเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเป็นวันที่ 3 แล้ว ที่กองทัพเมียนมาตัดเน็ตในช่วงกลางคืน ตั้งแต่ราวตี 1 ไปจนถึงช่วงสายๆ ของวัน

ข้อมูลดังกล่าวมาจากหลายผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต รวมถึง NetBlocks องค์กรเพื่ออินเตอร์เน็ตเสรี ระบุว่า การตัดสัญญาณที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการตัดสัญญาณที่ส่งผ่านสายเคเบิลและสัญญาณที่ให้บริการบนอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมเคลื่อนที่

คาดกันว่าเป้าประสงค์ของการตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตนี้มีขึ้นเพื่อให้ชาวเมียนมานัดหมายการชุมนุม ตลอดจนติเต่อสื่อสารกันได้ยากลำบากมากยิ่งขึ้น อีกหนึ่งความพยายามในการปิดกั้นข่าวสารคือการปิดหนังสือพิมพ์

เมื่อวานนี้มีรายงานว่า หนังสือพิมพ์ The Standard Time จะให้บริการเป็นวันสุดท้าย นั่นหมายความว่านับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เมียนมาจะไม่มีหนังสือพิมพ์ที่เป็นสำนักข่าวอิสระอีกต่อไป เหลือเพียงแต่สำนักข่าวที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพ

ทาง The Standard Time ระบุว่า จำเป็นต้องปิดตัวลงเนื่องจากความยากลำบากในการรวบรวมข่าวสาร รวมถึงเป็นห่วงสวัสดิภาพของนักข่าวภาคสนาม

คำประกาศปิดตัวลงของ The Standard Time เกิดขึ้นตามหลังหนังสือพิมพ์ The Myanmar Times, The Voice, 7Day News ถูกถอนใบอนุญาตไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามในหลายสำนักข่าว ยังคงให้บริการออนไลน์อยู่

ที่ผ่านมาจะเห็นความพยายามควบคุมข่าวสารของกองทัพ เริ่มตั้งแต่การปรามสื่อมวลชนในช่วงแรกๆ หลังรัฐประหาร ว่าไม่ให้ใช้คำว่ารัฐประหาร

ตามมาด้วยการจับกุมผู้สื่อข่าวภาคสนามที่รายงานข่าวการประท้วง และถอนในอนุญาตของหลายสำนักข่าว ซึ่งส่วนใหญ่มักรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเมียนมาเป็นสองภาษา คือภาษาพม่า และภาษาอังกฤษ

กองทัพเมียนมาเคลื่อนรถหุ้มเกราะคุมเมือง-ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต

ย้อนไปในปี 2013 เมียนมาภายใต้การปกครองของนายพลเต็ง เส่ง ซึ่งขณะนั้นเป็นรัฐบาลกึ่งพลเรือน เพิ่งจะปฏิรูปกฎหมายสื่อ เปิดให้มีสำนักข่าวอิสระ สิ่งที่เกิดขึ้นล่าสุดจึงไม่ต่างอะไรกับการพาประเทศถอยหลัง

ด้านช่องข่าวของกองทัพเอง ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา มีการเผยแพร่ภาพของนักธุรกิจรายหนึ่ง ที่ออกมาสารภาพว่า ตัวเขาได้ติดสินบนให้กับนางอองซาน ซูจี

นักธุรกิจคนดังกล่าวมีชื่อว่า อู มะ วิค ระบุว่า ตัวเขาได้จ่ายเงินใต้โต๊ะให้แก่ซูจี 4 ครั้ง ในช่วงปี 2018 - 2020 รวมจำนวน 550,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 17 ล้านบาท

โดยในช่วงเวลานั้นนางอองซาน ซูจีดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของรัฐ อย่างไรก็ตามไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับสินบนดังกล่าว

การออกมาของนักธุรกิจรายนี้จึงอาจเรียกได้ว่าเป็นหลักฐานชิ้นล่าสุด ของหนึ่งในคดีที่นางซูจีถูกกองทัพตั้งข้อหา ซึ่งจะมีกำหนดขึ้นศาลในวันที่ 24 มีนาคมนี้

ด้านสำนักข่าว Myanmar Now รายงาน ล่าสุดทางกองทัพได้ปล่อยตัวคณะกรรมการเลือกตั้งทั้งหมดออกมาแล้ว หลังถูกคุมขังมานานถึง 1 เดือน การปล่อยตัวเกิดขึ้นเมื่อวาน แต่ข่าวเพิ่งจะถูกยืนยันได้ในวันนี้

รายงานจากสมาชิกคณะกรรมการเลือกตั้งที่ไม่เผยชื่อเล่าว่า ก่อนที่ทุกคนจะถูกปล่อยตัว ทหารเมียนมาให้พวกเขาลงชื่อในเอกสารยืนยันว่า พบความผิดปกติในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมาจริง ซึ่งในตอนนั้นพรรค NLD ของนางอองซาน ซูจี คว้าชัยชนะไปอย่างถล่มทลาย

กองทัพเมียนมาสั่งปิดสื่อ 5 สำนัก