กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหารพเมียนมา เข้าฝึกฝนการต่อสู้และการใช้อาวุธกับกลุ่มชาติพันธุ์ตามแนวชายแดน หลังหลบหนีการปราบปรามของกองกำลังความมั่นคงที่กวาดล้างผู้เห็นต่าง ซึ่งคร่าชีวิตพลเรือนไปกว่า 700 คน ตั้งแต่กองทัพยึดอำนาจ เมื่อ 1 กุมภาพันธ์
ผู้ก่อตั้งกลุ่มกองกำลังป้องกันสหพันธรัฐ เปิดเผยว่า ทุกคนที่นี่จะเข้ารับการฝึกทางทหารเป็นเวลา 3 เดือนและมีเป้าหมายเดียวกัน คือ การปฏิวัติ โดยสมาชิกส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนหนุ่มสาวในวัย 20 ปีขึ้นไป และมีบางส่วนที่อายุประมาณ 35 ปีถึง 40 ปี
ชาติพันธุ์กระเหรี่ยง ต่อสู้เพื่อความฝัน “รัฐกะเหรี่ยง”
กลุ่มชาติพันธุ์ ยังคงตกเป็นเป้า ถูกทหารเมียนมาโจมตี
นอกจากนี้ ทางกลุ่มยังมีการฝึกอาวุธในพื้นที่ที่ครอบครองโดยสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือกระเหรี่ยงเคเอ็นยู แต่ทางเคเอ็นยู ระบุว่า ไม่สามารถยืนยันหรือปฏิเสธได้ว่ามีการฝึกอาวุธจริงหรือไม่
จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีความคิดเห็นจากฝั่งกองทัพเมียนมา แต่ก่อนหน้านี้ กองทัพเคยกล่าวถึงผู้ประท้วงที่ต้องการฟื้นการปกครองของรัฐบาลพลเรือนที่นำโดยนางออง ซาน ซู จี ว่าเป็นผู้ก่อการจลาจลที่เป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติ
ขณะที่ชาวบ้านตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา หลบหนีการสู้รบ หลังกะเหรี่ยงเคเอ็นยู บุกโจมตีฐานที่มั่นของทหารเมียนมาและเกิดการปะทะกันอย่างดุเดือดเมื่อช่วงเช้ามืดวานนี้ (27 เม.ย.) ก่อนเข้ายึดค่ายทหารเมียนมาบนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสาละวิน พรมแดนติดกับประเทศไทย ได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม กองทัพเมียนมาตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศในเวลาต่อมา