กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น ระบุว่า พบนักเดินทาง 2 คน ที่มีผลการตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก ติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่นี้ โดยรายแรกเป็นผู้หญิงในวัย 40 ปี เดินทางจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) มาที่สนามบินนานาชาตินาริตะ ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ส่วนอีกคนเป็นผู้หญิงในวัย 50 ปี เดินทางจากอังกฤษมาที่สนามบินนานาชาติโตเกียว (ฮาเนดะ) ช่วงต้นเดือนกรกฎาคม
ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลกเพิ่งออกรายงานจัดให้เชื้อสายพันธุ์ “มิว” หรือ B.1.621 เป็น “สายพันธุ์ที่ให้ความสนใจ”
WHO ยกระดับโควิด-19 สายพันธุ์โคลอมเบีย มอบโค้ดเนม “สายพันธุ์มิว”
แอฟริกาใต้ พบโควิดสายพันธุ์ใหม่ C.1.2 แพร่เร็ว-ต้านภูมิคุ้มกัน
ตัวล่าสุด เนื่องจากมีการกลายพันธุ์หลายส่วนที่บ่งชี้ถึงความสามารถที่จะต้านหรือหนีภูมิคุ้มกันได้ แต่ยังต้องศึกษาเพิ่มเติม สำหรับเชื้อสายพันธุ์มิวพบครั้งแรกในโคลอมเบีย เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และตรวจพบในหลายประเทศของทวีปอเมริกาใต้และยุโรป รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 39 ประเทศ ส่วนประเด็นสารปนเปื้อนในวัคซีนโมเดอร์นาที่ญี่ปุ่น ซึ่งล่าสุดพบแล้วในอย่างน้อย 8 จังหวัดทั่วประเทศ
ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขออกมาชี้แจง โดยอ้างอิงจากรายงานการสอบสวนของบริษัทโมเดอร์นา และทาเคดะ ฟาร์มาซูติคัล ซึ่งเป็นผู้แทนจำหน่ายในญี่ปุ่นว่า สิ่งแปลกปลอมที่พบในขวดวัคซีนบางล็อตที่มีการระงับใช้ไปก่อนหน้านี้ คือ สแตนเลส สตีล ที่ปะปนมาระหว่างขั้นตอนการผลิต โดยคาดว่าน่าจะเกิดจากเหล็ก 2 ชิ้น ที่อยู่ในเครื่องจักรของสายการผลิต เสียดสีกัน อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 บริษัทเชื่อว่า การฉีดอนุภาคโลหะที่พบในล็อตเหล่านี้จะไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงทางการแพทย์ใดๆ เพิ่มเติม เนื่องจากสแตนเลส สตีล มักถูกใช้เป็นองค์ประกอบในลิ้นหัวใจ และข้อต่อเทียมอยู่แล้ว
เบื้องต้น ทางบริษัทจะดำเนินการเรียกคืนวัคซีน 3 ล็อต (1.63 ล้านโดส) ที่ใช้ในญี่ปุ่น ซึ่งผลิตจากโรงงานในสเปน ในวันนี้ (2 ก.ย.)
ส่วนกรณีวัคซีนปนเปื้อนล็อตอื่นๆ เช่น ที่จังหวัดโอกินาวา กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันไปก่อนหน้านี้ว่า น่าจะปนเปื้อนจากการแทงเข็มฉีดยาเข้าไปในขวดวัคซีนอย่างไม่ถูกวิธี ทำให้เศษจุกยางที่ฝาปิดร่วงลงในขวดวัคซีน
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าโมเดอร์นาได้ยื่นเรื่องขออนุมัติใช้งานวัคซีนเข็มสาม หรือบูสเตอร์ กับองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ FDA แล้ว และคาดว่าจะส่งข้อมูลให้อย.ยุโรป หรือ EMA และอีกหลายประเทศทั่วโลกเร็วๆนี้
ปัจจุบัน FDA ยังอยู่ระหว่างพิจารณาอนุมัติใช้งานวัคซีนบูสเตอร์ของไฟเซอร์ ไบออนเทค โดยคาดว่าจะมีการหารือเพื่อลงมติในวันที่ 17 กันยายนนี้
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ นำร่องฉีดวัคซีนเข็ม 3 ทั้งของไฟเซอร์และโมเดอร์นา ให้กับกลุ่มคนที่มีปัญหาภูมิคุ้มกันต่ำไปตั้งแต่เดือนที่แล้ว โดยฉีดไปแล้วกว่า 1 ล้านคน ส่วนบุคคลทั่วไป คาดว่าจะเริ่มฉีดได้ 20 กันยายนนี้
แม่วอนช่วย ลูกถูกหลอกไปทำงานกัมพูชา
ประกันสังคมอัปเดต! เงื่อนไข ขั้นตอนยื่นทบทวนสิทธิเยียวยา ม.33 ม.39 ม.40 เคาะไทม์ไลน์ 2 ช่วง