เหตุสังหารปธน.เฮติ จับกุมหัวหน้าการ์ด อดีตส.ว.อาจมีเอี่ยว
ตำรวจเฮติจับ “หมอ” บงการลอบสังหารประธานาธิบดี
นี่คือโฉมหน้าของ อาเรียล อองรี นายกรัฐมนตรีเฮติคนปัจจุบัน ที่ล่าสุดเพิ่งจะถูก เบด-ฟอร์ด โคลด หัวหน้าอัยการเฮติ ยื่นคำร้องต่อศาลให้ตั้งข้อหาผู้นำประเทศคนนี้ โดยระบุว่า พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่า นายกรัฐมนตรีเฮติเชื่อมโยงกับแผนลอบสังหาร โฌเวเนล โมอิส ประธานาธิบดีเมื่อ 2 เดือนก่อน รวมถึงขอให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองห้ามไม่ให้ผู้นำเดินทางออกนอกประเทศในช่วงนี้
เอกสารที่เบด-ฟอร์ด โคลด หัวหน้าอัยการส่งให้ศาลมีความหนาเพียง 2 แผ่น ระบุว่า พบบันทึกการติดต่อทางโทรศัพท์ระหว่าง อาเรียล อองรี นายกรัฐมนตรีเฮติ กับ โจเซฟ บาดิโอ ที่ขณะนี้เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัย ทั้งคู่ติดต่อกันผ่านโทรศัพท์ถึง 2 ครั้งในคืนลอบสังหาร ช่วงเวลา 4.03 น. และเวลา 4.20 น. โดยการพูดคุยครั้งสุดท้ายนั้นยาวถึง 7 นาที สัญญาณจากโทรศัพท์บ่งชี้ว่าในเวลานั้น โจเซฟ บาดิโอ อยู่ใกล้กับบ้านพักของประธานาธิบดี สถานที่เกิดเหตุ ส่วน อาเรียล อองรี อยู่ที่โรงแรมมอนทานา ในกรุงปอร์โตรแปงซ์ เมืองหลวง
ทางรัฐบาลระบุว่า นายกรัฐมนตรีอาเรียล อองรี ไม่เคยพูดคุยกับ โจเซฟ บาดิโอ ส่วนเจ้าตัวเอง นายกรัฐมนตรีอาเรียล อองรี ระบุว่า การสั่งฟ้องเขาว่ามีส่วนในการลอบสังหารเกิดขึ้นจากเป้าหมายทางการเมือง
ล่าสุดนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศไล่หัวหน้าอัยการคนดังกล่าวออกจากตำแหน่งเป็นที่เรียบร้อย พร้อมตั้งคนใหม่แทน โดยให้เหตุผลสั้น ๆ เพียงว่า เบด-ฟอร์ด โคลด ดำเนินการบริหารงานที่ผิดพลาดร้ายแรง ไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติม และยังไม่ชัดเจนว่าการไล่ออกอัยการแบบฟ้าผ่านี้จะส่งผลต่อรูปคดีอย่างไร เมื่อในขณะนี้นายกรัฐมนตรีกลายมาเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยด้วย
ย้อนรอยความขัดแย้ง เหตุลอบสังหารปธน.เฮติ ดับคาบ้านพัก
เกิดอะไรขึ้นกับประธานาธิบดีเฮติผู้ล่วงลับ? ย้อนคดีลอบสังหารที่อุกอาจอย่างมาก เพราะเกิดขึ้นภายในบ้านพักของผู้นำประเทศ สถานที่ที่ควรจะปลอดภัยมากที่สุด
ย้อนไปเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ ตี 1 ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีโฌเวเนล โมอิส และมาร์ติน โมอิส ผู้เป็นภรรยาเพิ่งจะเดินทางกลับมาถึงบ้านไม่นาน จากนั้นภาพจากกล้องวงจรก็ปิดเผยให้เห็นว่า จู่ ๆ ก็มีขบวนรถปริศนาพุ่งเข้ามาในบ้าน แล้วกลุ่มชายติดอาวุธก็ลงมา พวกเขาระบุตัวว่าเป็น เจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามยาเสตพติดของสหรัฐฯ หรือที่เรียกกันว่า DEA ตะโกนให้ทุกคนในบ้านอยู่ในความสงบ ก่อนจะสาดกระสุนสังหารประธานาธิบดี
ประธานาธิบดีโฌเวเนล โมอิสถูกกระสุนเจาะเข้าร่างถึง 12 นัด ด้านสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งก็ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกส่งตัวไปรักษาที่รัฐฟลอริดา ในสหรัฐฯ และรอดมาได้
มาร์ติน โมอิส กลายมาเป็นพยานสำคัญ เพราะเธอเป็นคนเดียวที่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งเธอเล่าว่า คนร้ายลั่นกระสุนอย่างรวดเร็วจนสามีของเธอไม่ทันที่จะเอ่ยพูดอะไร และพวกเขาพูดทั้งภาษาอังกฤษและสเปน ในวันที่ 20 กันยายนนี้ เธอจะขึ้นศาล เพื่อเข้าร่วมการพิจารณาคดี ก่อนหน้านั้นในการสัมภาษณ์ เธอระบุว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการนำความยุติธรรมกลับคืนมาให้สามีผู้ล่วงลับ
ปัจจุบันคดีคืบหน้าไปแล้วมากน้อยแค่ไหน?
ขณะนี้มีผู้ต้องสงสัยและผู้ที่ถูกจับกุมแล้วราว 40 คน ในจำนวนนี้มีทั้งทหารรับจ้างชาวโคลอมเบีย แพทย์จากรัฐฟลอริดา ไปจนถึงเจ้าหน้าที่ในรัฐบาล ในช่วงสองสัปดาห์แรกหลังเกิดเหตุ ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนที่คาดว่าก่อเหตุได้จำนวนหนึ่งส่วนใหญ่ของผู้ต้องสงสัยเป็นทหารรับจ้างชาวโคลอมเบีย และมีชาวเฮติอยู่ในขบวนการด้วย 3 คน โดย 2 ใน 3 เป็นชาวอเมริกัน-เฮติ ตามมาด้วยการประกาศจับผู้ต้องหาที่ทำให้คดีขยายใหญ่มากขึ้น เมื่อมีคนนอกประเทศมาเกี่ยวข้อง นั่นคือ คริสเตียน เอมมานูเอล ซานอน นายแพทย์ชาวเฮติที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์ในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐฯ
ตำรวจเฮติ คาดว่า คน ๆ นี้คือคนกลางในการประสานแผนลอบสังหาร หรืออาจเป็นคนต้นคิด เพราะตัวเขาเคยวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลเฮติว่าเต็มไปด้วยการคอร์รัปชันและทำให้ผู้คนยากจนในปี 2011 รวมถึงเพื่อนของเขาก็เล่าว่า ชายคนนี้มีความทะเยอทะยานที่จะเป็นประธานาธิบดีเฮติ
นอกจากนั้นตำรวจยังจับกุม ดิมิทรี เฮราด หัวหน้าบอดี้การ์ดของประธานาธิบดี ซึ่งคาดกันว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะขบวนรถของกลุ่มมือปืนบุกเข้าไปได้อย่างง่ายดาย และหลังเกิดเหตุไม่พบว่ามีบอดี้การ์ดคนใดได้รับบาดเจ็บ ตามมาด้วยการประกาศจับกุม จอห์น โจเอล โจเซฟ อดีตสมาชิกวุฒิสภาเฮติที่เคยวิจารณ์การบริหารงานของประธานาธิบดีโมอิส
จะเห็นว่าในบรรดาผู้ต้องสงสัยมีเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลด้วยหลายคน เช่น โจเซฟ บาดิโอ ที่ถูกตรวจพบบันทึกการพูดคุยโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีนั้น คน ๆ นี้ก็เคยเป็นอดีตสมาชิกวุฒิสภา
ล่าสุดการที่ อาเรียล อองรี กลายมาเป็นผู้ต้องสงสัยนี้ยิ่งสร้างความประหลาดใจ เนื่องจากเขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรี จาก โฌเวเนล โมอิส ประธานาธิบดีผู้ล่วงลับ
ย้อนไปวันที่ 6 กรกฎาคม ก่อนหน้าเหตุลอบสังหารเพียงวันเดียว ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเฮติในตอนนั้นเป็นของ โคลด โจเซฟ แต่ในวันนั้น จู่ ๆ นายโจเซฟก็ถูกประธานาธิบดีโมอิสถอดถอนออกจากตำแหน่ง โดยเป็นไปตามอำนาจของประธานาธิบดีที่ให้สิทธิไว้ในรัฐธรรมนูญจากนั้นก็แต่งตั้งอาเรียล อองรี อดีตรัฐมนตรีมหาดไทยและศัลยแพทย์ด้านประสาทขึ้นแทน
ปัญหาคือ ประธานาธิบดีถูกลอบสังหารก่อนที่ อาเรียล อองรี จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ขณะนี้การเมืองเฮนติจึงวุ่นวาย เพราะทั้งสองคน รวมถึงผู้สนับสนุนต่างอ้างสิทธิในการขึ้นดำรงตำแหน่งรักษาการแทนประธานาธิบดีที่ถูกลอบสังหาร แต่ในทางปฏิบัติ ปัจจุบัน อาเรียล อองรี ซึ่งมีตำแหน่งเป็นนายกฯ จากการแต่งตั้ง ยังคงดำรงตำแหน่งรักษาการแทนประธานธิบดีที่ล่วงลับ
ซึ่งล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา อาเรียล อองรีเพิ่งจะลงนามในข้อตกลงใหม่ ที่จะจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับฝ่ายค้านและตัวแทนจากภาคประชาชน เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ต้องติดตามกันต่อว่าคดีลอบสังหารนี้ ตลอดจนความวุ่นวายทางการเมืองในเฮติจะจบลงอย่างไร
ทั้งนี้ เฮติถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีรายได้น้อยที่สุดของภูมิภาคลาตินอเมริกา เพราะร้อยละ 60 ของประชากรในประเทศยังคงยากจน หนึ่งในสาเหตุมาจากความปั่นป่วนวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา เพราะโฌเวเนล โมอิส ไม่ใช่ผู้นำคนแรกที่ถูกลอบสังหาร และที่ผ่านมายังเกิดรัฐประหารหลายครั้ง ซ้ำเติมด้วยภัยพิบัติอย่างเฮอร์ริเคน และแผ่นดินไหว เนื่องจากเฮติตั้งอยู่บนแผ่นเปลือกโลกสองแผ่นที่มักชนเคลื่อนชนกัน โดยเหตุแผ่นดินไหวล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นแผ่นดินไหวขนาด 7.2 แมกนิจูด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 2,000 ราย