เมื่อวานนี้ สถานีโทรทัศน์ของรัสเซียเผยแพร่การสนทนาระหว่างประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน และเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการรกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย โดยประธานาธิบดีปูติน ได้สอบถามถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการบรรลุข้อตกลงกับชาติตะวันตกในการแก้ไขข้อกังวลด้านความมั่นคงของฝ่ายรัสเซีย ที่รวมถึงการสมัครเข้าเป็นสมาชิกนาโตของยูเครน
ท่าทีดังกล่าวของ ปูติน ถูกมองว่าเป็นการลดโอกาสที่รัสเซียจะบุกโจมตียูเครนในเร็ววัน ตามที่สหรัฐฯ ออกมาเตือนอย่างต่อเนื่อง
รัสเซีย-ยูเครน ยังตึงเครียด ทุกฝ่ายกำลังเจอจุดวัดใจ
ทูตรัสเซียชี้ไม่คิดบุกยูเครนเตือนอย่ายั่วยุ
ขณะที่ ลาฟรอฟ ระบุว่า เขาแนะนำว่า รัสเซียควรเดินหน้าใช้วิธีทางการทูตต่อไปในการหาทางทำให้ชาติตะวันตกยอมปฏิบัติตามข้อเรียกร้อง หลังจากนั้น ประธานาธิบดีปูตินได้ตอบสั้นๆว่า fine หรือ ดี
ส่วนประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และ นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ผู้นำอังกฤษ ซึ่งได้สนทนาทางโทรศัพท์เป็นเวลา 40 นาที โดยผู้ช่วยโฆษกทำเนียบขาวได้แถลงในเวลาต่อมาว่า ทั้งสองผู้นำได้หารือกันว่ายังมีความเป็นไปได้ที่ความตึงเครียดกรณียูเครนจะได้รับการแก้ไขด้วยวิธีการทางการทูต โดยทั้งคู่ระบุว่าขณะนี้เป็นสำคัญสำหรับการเจรจา และรัสเซียควรยุติการคุกคามต่อยูเครน
เปิด 3 เส้นทาง รัสเซียอาจใช้บุกยูเครน หลังเจรจาการทูตไม่คืบ
"ดังนั้นเราจึงเปิดการทูต ประตูทางการทูตเปิดอยู่ และเหมือนที่เราได้บอกไว้ และนั่นคือสิ่งที่เราเป็น และสิ่งที่เราต้องการให้มันเดินหน้า อย่างที่คุณทราบ ถ้าหากเราจะ เราจะพร้อมสำหรับทุกการตัดสินใจที่ประธานาธิบดีปูตินเลือก แต่ชัดเจนว่าเราให้วิธีทางการทูตมีความสำคัญอันดับแรก"
เมื่อวานนี้ รัฐบาลสหรัฐฯยังได้สั่งปิดสถานทูตในกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ โดยได้ให้เหตุผลในเรื่องความกังวลที่รัสเซียเร่งเสริมกำลังทหารบริเวณพรมแดนที่ติดกับยูเครน หลังก่อนหน้านี้ออกแถลงการณ์แนะนำให้พลเมืองชาวอเมริกันเดินทางออกจากยูเครน และได้ย้ายสถานทูตจากกรุงเคียฟ ไปยังเมืองโอวีฟ ซึ่งอยู่ยูเครนฝั่งตะวันตก ไกลจากชายแดนรัสเซีย โดยตั้งอยู่ห่างจากชายแดนโปแลนด์ราว 70 กิโลเมตร
ส่วนนับจนถึงขณะนี้ มีประเทศต่างๆกว่า 10 ประเทศที่เรียกร้องให้พลเมืองของตนเองเดินทางออกจากยูเครน โดยบางประเทศสั่งถอนเจ้าหน้าที่ในสถานทูตออกจากกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน และหลายชาติยังได้ย้ายสถานทูตจากกรุงเคียฟ ไปยังเมืองโอวีฟ นอกจากสหรัฐแล้วที่สั่งย้ายสถานทูตไปเมืองโอวีฟ ก็ยังมีแคนาดา และออสเตรเลียที่ทำแบบนั้นเช่นกัน ส่วนเยอรมนีตัดสินใจย้ายสถานกงสุลที่อยู่ในเมืองดนีโปรมายังเมืองโอวีฟเช่นกัน แต่ทางกระทรวงต่างประเทศของเยอรมนียืนยันว่า สถานทูตในกรุงเคียฟยังคงเปิดให้บริการอยู่
ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้จ่อ 100 เหรียญ จากความตรึงเครียด"รัสเซีย-ยูเครน"
ประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน ออกมาเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ นักการเมือง และนักธุรกิจ ซึ่งเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว กลับเข้ามาภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อแสดงความสามัคคี ท่ามกลางความหวาดกลัวว่า อาจเกิดการรุกรานจากรัสเซีย
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีของยูเครนยังบอกด้วยว่า เขาได้รับคำเตือนว่า วันที่ 16 กพนี้จะเป็นวันโจมตี แต่เขาขอให้วันนั้นเป็นวันแห่งความสามัคคี ให้ทุกคนแขวนธงชาติเอาไว้ วางริบบิ้นสีเหลืองและน้ำเงิน เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อแสดงออกว่ายูเครนต้องการเสรีภาพและพร้อมแล้วที่จะสู้
สื่อของยูเครนรายงานว่า นักการเมืองและนักธุรกิจบางคนของยูเครนเดินทางออกนอกประเทศไปแล้วตั้งแต่เมื่อช่วงวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากที่สหรัฐและชาติตะวันตกต่างๆแนะนำพลเมืองของตนให้ออกจากยูเครน ขณะที่ทางรัฐบาลยูเครนมองว่า การที่ประเทศต่างๆประกาศเช่นนั้น คล้ายเป็นการลงโทษต่อยูเครน และไม่ได้มีผลดีต่อพวกเขาเลย