เมื่อเวลา 21.30 น. ของวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น (09.30 น. ตามเวลาประเทศไทย) โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีกำหนดการแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภา (State of the Union) โดยเนื้อความช่วงหนึ่งพูดถึงสถานการณ์ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน
ไบเดน กล่าวว่า ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน “มีราคาที่ต้องจ่าย” สำหรับการกระทำของเขากับยูเครน
เกิดอะไรขึ้นกับทัพฟ้ารัสเซีย ทำไมไม่ใช้เครื่องบินรบในการบุกยูเครน?
รัสเซียโจมตีหอส่งสัญญาณโทรทัศน์ในเมืองหลวงยูเครน เสียชีวิต 5 ราย
สื่อทางการรัสเซียอ้างเปิดเจรจายูเครนรอบสอง วันที่ 2 มี.ค.
ไบเดนระบุว่า ให้แสดงความยินดีต่อ “ปณิธานอันแน่วแน่ของสหรัฐฯ ว่า เสรีภาพจะมีชัยเหนือการปกครองแบบเผด็จการเสมอ
“เมื่อ 6 วันก่อน วลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซีย พยายามเขย่ารากฐานของโลกเสรี เขาคิดว่าเขาสามารถทำให้โลกโค้งงอไปตามการคุกคามของเขาได้ แต่เขาคำนวณผิดมหันต์
2 นักเตะยูเครน เสียชีวิต จากการถูกรัสเซียถล่ม
“เขาคิดว่าเขาสามารถเข้าสู่ยูเครนได้ และโลกจะพลิกคว่ำ แต่เขากลับพบกับกำแพงอันแข็งแกร่งที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน เขาได้พบกับชาวยูเครน
“ตลอดประวัติศาสตร์ของเรา เราได้เรียนรู้บทเรียนหนึ่ง หากเผด็จการไม่เสียอะไรเลยสำหรับการรุกราน พวกเขาจะทำให้เกิดความโกลาหลมากขึ้น พวกเขาจะยังคงเคลื่อนไหว และภัยคุกคามต่อสหรัฐฯ และโลกก็จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
“นั่นเป็นเหตุผลที่พันธมิตรนาโตถูกสร้างขึ้นเพื่อรักษาสันติภาพและความมั่นคงในยุโรปหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐฯ เป็นสมาชิกร่วมกับอีก 29 ประเทศ มันสำคัญ การทูตอเมริกันมีความสำคัญ
ICC จ่อสอบสวนรัสเซียบุกยูเครน “ปูติน” เสี่ยงเข้าข่ายอาชญากรสงคราม
“สงครามของปูตินได้รับการไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าและไร้เหตุผล เขาปฏิเสธความพยายามในการทูต เขาคิดว่าชาติตะวันตกและนาโตจะไม่ตอบโต้ และเขาคิดว่าเขาจะแบ่งแยกเราได้ ปูตินคิดผิดแล้ว เราพร้อม
“ปูตินได้สร้างความรุนแรงและความโกลาหล แต่ในขณะที่เขาได้ประโยชน์จากสนามรบ เขาก็มีราคาที่ต้องจ่ายสูงอย่างต่อเนื่องในระยะยาว”
สหรัฐฯ กำลังเตรียมประกาศห้ามเที่ยวบินรัสเซียจากเข้าน่านฟ้าสหรัฐฯ หลังก่อนหน้านี้แคนาดาและหลายประเทศในสหภาพยุโรปประกาศใช้มาตรการดังกล่าว
ยังไม่แน่ชัดว่า มาตรการนี้ของสหรัฐฯ จะมีผลบังคับใช้เมื่อไร แต่คาดว่าจะเริ่มภายในวันที่ 2 มี.ค. นี้
“เซเลนสกี” ประธานาธิบดีผู้ปลุกใจชาวยูเครน ให้ลุกขึ้นสู้รัสเซีย
เรียบเรียงจาก The Guardian
ภาพจาก AFP