ความสำคัญ “โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย” ของยูเครน ใหญ่ที่สุดในยุโรป

เช้าวันนี้ (4 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ของยูเครนรายงานเหตุเพลิงไหม้ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย (Zaporizzhia) โดยชี้ว่าเกิดจากการโจมตีของกองกำลังรัสเซีย จนหลายฝ่ายพากันจับตา เพราะหากเกิดระเบิดหรือกัมมันตรังสีรั่วไหลขึ้นมา คงเป็นเรื่องใหญ่ที่ยากจะคาดเดาความเสียหาย

เหตุที่เกิดขึ้นทำให้ผู้นำโลกหลายประเทศต่อสายหาโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนกันจ้าละหวั่น ขณะที่สหราชอาณาจักรถึงขั้นวางแผนเรียกประชุมสหประชาชาติเป็นการด่วน

ด่วน! รัสเซียโจมตี “โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป”

รู้จัก “เชอร์โนบิล” โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ตัวประกันของรัสเซีย

รัสเซียยึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลสำเร็จ หวั่นหายนะครั้งใหม่

ที่ต้องกังวลกันนั่นก็เป็นเพราะ ซาปอริซเซียนั้น “เป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป” และ “ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 9 ของโลก”

โรงไฟฟ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองแอแนร์ฮอดาร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน ใกล้กับแม่น้ำนีเปอร์ มีเครื่องปฏิกรณ์ผลิตพลังงาน 6 เครื่อง เริ่มผลิตไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี 1984

ทหารรัสเซียยอมแพ้-ซึ้งใจชาวยูเครนแบ่งอาหาร

โรงไฟฟ้าซาปอริซเซียผลิตไฟฟ้าได้ 4-4.2 หมื่นล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งคิดเป็น 20-25% ของการผลิตไฟฟ้าเฉลี่ยต่อปีในยูเครน และคิดเป็นเกือบ 47% ของไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นโดยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของยูเครน

โรงไฟฟ้าแห่งนี้ยังมีมาตรฐานและความสามารถในการตรวจสอบรังสีอย่างต่อเนื่อง การป้องกันด้านสุขอนามัย และเขตควบคุมรังสี 30 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีห้องเก็บของแห้งสำหรับเก็บเชื้อเพลิงใช้แล้ว

โดยตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา เครื่องปฏิกรณ์ที่ 1 ถึง 4 ยังคงทำงานปกติ แต่เครื่องปฏิกรณ์ที่ 5 และ 6 หยุดทำงานชั่วคราวเพื่อปรับปรุง และในต่อมาก็มีรายงานว่า กองกำลังรัสเซียที่อยู่ทางใต้ จากบริเวณไครเมีย ได้เคลื่อนพลขึ้นเหนือ มุ่งหน้ามายังโรงไฟฟ้าซาปอริซเซีย

จนในวันที่ 28 ก.พ. กระทรวงกลาโหมรัสเซียอ้างว่าสามารถยึดเมืองแอแนร์ฮอดาร์และโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ดังกล่าวได้แล้ว แต่ดมิทรี ออร์ลอฟ นายกเทศมนตรีปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง

จนช่วงดึกของวันที่ 3 มี.ค. มีรายงานว่าโรงไฟฟ้าถูกโจมตี เกิดเพลิงไหม้ในโรงไฟฟ้า บางรายงานบอกว่าไหม้ในจุดที่ใกล้กับเครื่องปฏิกรณ์เครื่องหนึ่งที่ปิดปรับปรุงอยู่

โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เตือนว่า การโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียในครั้งนี้ อาจนำไปสู่หายนะ โดยเตือนว่าเมื่อครั้งเกิดโศกนาฏกรรมโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลในปี 1986 เป็นการระเบิดของปฏิกรณ์เครื่องที่ 4 เพียงเครื่องเดียว โดยครั้งนั้นก็ทำให้อาคารระเบิดเป็นเสี่ยง และมีสารกัมมันตรังสีรั่วไหลออกมาจำนวนมาก แต่หากเครื่องปฏิกรณ์ทั้ง 6 เครื่องของซาปอริซเซียระเบิด หายนะจะรุนแรงกว่านั้น 6 เท่า

ด้าน ดมิโทร คูเบลา รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศยูเครน เตือนว่า หากโรงไฟฟ้าระเบิด ผลกระทบอาจมากกว่าภัยพิบัติเชอร์โนบิลถึง 10 เท่า

ยังไม่มีใครทราบสาเหตุแน่ชัดว่า ทำไมจึงมีการโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย แต่วิเคราะห์กันว่า หากไม่ใช่ต้องการสร้างหายนะจากกัมมันตรังสี ก็น่าจะเป็นกลยุทธ์ในการควบคุมแหล่งพลังงานไฟฟ้าของยูเครน

เพราะดังที่ระบุไว้ข้างต้นว่า โรงไฟฟ้าซาปอริซเซียนี้ คิดเป็น 20-25% ของไฟฟาทั้งหมดในยูเครน หากสามารถยึดควบคุมไว้ได้ จะส่งผลกับยูเครนอย่างใหญ่หลวง

รัสเซีย-ยูเครน เดินหน้าเจรจราสงบศึกรอบสอง

แต่นั่นก็ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า หากต้องการควบคุมไฟฟ้าของยูเครนจริง ทำไมจึงเลือกใช้วิธีเสี่ยงอย่างการโจมตีด้วยปืนใหญ่หรือรถถัง ทำไมไม่ใช้กำลังคนบุกเข้าไปควบคุมภายใน

โจ ซิริซิโอน นักวิเคราะห์ความมั่นคงแห่งชาติบอกว่า เขา “กังวลมาก” เกี่ยวกับ ”ไฟ”

เขาเสริมว่า หากกองทัพรัสเซียต้องการทำให้โรงไฟฟ้าไม่ทำงาน พวกเขาควรยึดโรงไฟฟ้ามากกว่าที่จะโจมตีทางกายภาพ เนื่องจากอาจมีอันตราย

ด้าน เกรแฮม อัลลิสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายนิวเคลียร์ บอกว่า “ไม่ใช่ไฟทั้งหมดที่จะทำให้เกิดผลร้ายแรง ... หายนะจะเกิดขึ้นหรือไม่ เจ้าหน้าที่สามารถใช้มาตรการที่เหมาะสมได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของเพลิงไหม้และปัจจัยอื่น ๆ อีกหลายอย่าง รวมถึงจำนวนเครื่องปฏิกรณ์ที่ได้รับผลกระทบ”

ล่าสุด เมื่อเวลา 06.20 น. ตามเวลายูเครน (11.20 น. ตามเวลาประเทศไทย) หน่วยฉุกเฉินแห่งรัฐยูเครนรายงานว่า เพลิงไหม้ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียถูกระงับไวได้แล้วแล้ว

“เมื่อเวลา 06:20 น. ไฟที่อาคารฝึกอบรมในโรงไฟฟ้าซาปอริซเซียดับลงแล้ว ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ" คำแถลงระบุ

ICC เริ่มสอบสวนคดีอาชญากรรมสงครามในยูเครน

เรียบเรียงจาก CNN

ภาพจาก Getty Image