รอบกรุงเคียฟถูกโจมตีหนักหน่วง หลังกองทัพรัสเซียล้อมทุกด้าน แต่ยังทะลวงเข้าเมืองไม่ได้


โดย PPTV Online

เผยแพร่




สงครามเข้าสู่วันที่ 19 แล้ว รัสเซียยังคงโจมตียูเครนอย่างหนัก สมรภูมิที่สำคัญคือ กรุงเคียฟ เมืองหลวงที่รัสเซียต้องยึดให้ได้ ตอนนี้กำลังของรัสเซียล้อมไว้แล้ว แต่ยังเข้าไม่ถึงข้างในเมือง ขณะที่ทางใต้ เมืองมาริอูปอลที่ถูกรัสเซียล้อมไว้เกือบ 2 สัปดาห์แล้วกำลังเผชิญวิกฤตด้านมนุษยธรรม คนขาดน้ำและอาหาร อีกจุดที่เราต้องจับตาคือ ด้านตะวันตกของยูเครนที่ติดกับโปแลนด์ หลังจากเมื่อวานรัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีศูนย์ฝึกทหารของยูเครน ใกล้กับชายแดนโปแลนด์ซึ่งเป็นสมาชิกนาโตเพียง 10 กิโลเมตรเท่านั้น

จับตารัสเซีย-ยูเครน เจรจารอบใหม่วันนี้

ยูเครนเผย นับตั้งแต่รัสเซียบุก มีเด็กเสียชีวิตแล้ว 90 ราย

 อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่สำคัญคือ บทบาทของจีน หลังจากมีรายงานว่ารัสเซียขอความช่วยเหลือด้านอาวุธจากจีน  นี่คือสัปดาห์อันตรายที่อะไรก็เกิดขึ้นได้

การเจรจาระดับผู้แทนรัสเซีย-ยูเครน เกิดขึ้นอีกรอบในวันนี้ ซึ่งเป็นครั้งที่ 5 แล้ว โดยครั้งนี้เป็นการหารือผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ การหารือครั้งก่อน ๆ ไม่ได้ข้อสรุปและไม่มีผลในทางบวกออกมา ข้อเรียกร้องหลักของรัสเซีย

ซึ่งรัสเซียบอกเป็นคำขาดคือ ข้อแรกคือ ยูเครนต้องแก้รัฐธรรมนูญระบุว่าจะไม่เข้าเป็นสมาชิกนาโตและอียู  ข้อสอง คือต้องให้การรับรองเอกราชของโดเนตสก์และลูฮันสก์ และสุดท้ายคือ รับรองว่าไครเมียเป็นของรัสเซีย ส่วนข้อเรียกร้องหลักในการเจรจาครั้งนี้ของยูเครนคือ รัสเซียต้องหยุดยิงทันที และถอนทหารออกจากยูเครนซึ่งเป็นข้อเรียกร้องยูเครนต้องการมาโดยตลอด

ท่ามกลางการเปิดโต๊ะเจรจา แต่สถานการณ์การสู้รบก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะยุติ เริ่มจากที่เคียฟ เมื่อวานนี้ทางกระทรวงกลาโหมอังกฤษ ระบุว่า ทหารรัสเซียได้ล้อมเคียฟจากทุกด้านแล้ว โดยจุดที่กองทัพรัสเซียพยายามจะตีฝ่ามาให้ได้คือ ชานกรุงเคียฟทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 25 กิโลเมตร

สำนักข่าว The Guardian รายงานว่า ในบรรดากองกำลังรัสเซีย มีนักรบจากสาธารณรัฐเชเชนอยู่ด้วย โดยปรากฏภาพของผู้นำคือ รามซาน คาดิรอฟ ในภาพชุดทหารร่วมประชุมกับทหารรัสเซียใกล้ฐานทัพอากาศฮอสโตเมลที่อยู่ชานกรุงเคียฟ

เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยของยูเครนกำลังพยายามนำร่างของผู้ได้รับบาดเจ็บออกจากอาคารที่ถูกขีปนาวุธรัสเซียถล่มจนพังหลายลงมา อาคารดังกล่าวเป็นอพาร์ทเมนต์ความสูง 9 ชั้นที่อยู่ในเขตโอโบลอน (Obolon) ของกรุงเคียฟ บริเวณดังกล่าวที่เขตที่อยู่อาศัย รายงานผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 2 คน บาดเจ็บจำนวนมาก การลำเลียงผู้บาดเจ็บเป็นไปอย่างทุลักทุเล เพราะตัวอาคารสูง เสียงไซเรนดังต่อเนื่องทั้งวันในกรุงเคียฟตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เป็นสัญญานให้ระวังการโจมตีทางอากาศ
ส่วนทางภาคพื้นดินทหารราบและขบวนรถถังที่ล้อมกรุงเคียฟตั้งแต่ 2 วันก่อนไว้เริ่มรุกเข้ามา


ทวิตเตอร์ของกระทรวงกลาโหมอังกฤษ ระบุว่า จุดที่มีการสู้รบหนักคือ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ จากจุดนั้น ทหารราบและรถถังของรัสเซียอยู่ห่างจากใจกลางกรุงเคียฟประมาณ 25 กิโลเมตรหรือ 16 ไมล์
ประชาชนที่อยู่แถบนั้นอย่างเช่นในเขตเวลิกา ไดเมอร์กา (Velyka Dymerka)อยู่ไม่ได้ หลายคนเสี่ยงตายหนีออกมา และเล่าให้ฟังว่า การต่อสู้บริเวณดังกล่าวค่อนข้างหนัก มีการใช้อาวุธหนัก ปืนใหญ่ และเฮลิคอปเตอร์

อีกจุดที่มีการต่อสู้หนักคือ เออร์พิน เมืองหน่าด่านก่อนถึงกรุงเคียฟ ประชาชนยังหนีออกจากเมืองต่อเนื่อง ด้วยการข้ามน้ำหลังสะพานถูกถล่มพังเสียหายมาหลายวันแล้ว บริเวณนี้คือจุดที่ เบรนท์ เรโนด์ ผู้สื่อข่าวชาวอเมริกันโดนกองกำลังรัสเซียยิงเข้าที่คอจนเสียชีวิตในขณะที่ไปทำข่าวเมื่อวานนี้ ในเหตุการณ์นี้ยังมีนักข่าวอีกคนได้รับบาดเจ็บ

ฮวน อาร์เรดอนโด (Juan Arredondo) เปิดเผยว่า หลังพวกเขาข้ามสะพานไปเก็บภาพผู้ลี้ภัย ได้ขึ้นรถไปยังสะพานอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเมื่อผ่านจุดตรวจ ปรากฎว่าทหารรัสเซียได้เริ่มยิงมาที่รถ คนขับพยายามกลับรถหนี แต่ไปไม่พ้น โดยตัวเขาได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหลังด้านล่าง ในขณะที่เรโนด์ ถูกยิงเข้าที่บริเวณคอ


เบรนท์ เรโนด์ ทำงานให้กับสื่อหลายสำนักในสหรัฐ รวมถึงนิวยอร์กไทมส์ โดยมีประสบการณ์ทั้งในอัฟกานิสถาน อิรัก และ เฮติ อีกทั้งได้รับรางวัลด้านสื่อมวลชน “พีบอดี อวอร์ด” ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดของสื่อมวลชนในสหรัฐ นั่นคือสถานการณ์รอบนอกที่รัสเซียกำลังพยายามโจมตีอย่างหนักเพื่อบุกเข้ากรุงเคียฟให้ได้

ส่วนในเมือง กองกำลังยูเครนประจำการตามจุดต่างๆเพื่อเตรียมรับมือ ถนนหนทางเงียบเชียบ มีเพียงเสียงไซเรนเป็นระยะๆ ประชาชนหลบอยู่รถไฟใต้ดินหรือหลุมบังเกอร์ มีเพียงทหารและอาสาสมัครที่เตรียมรับมือกับการบุกของรัสเซีย

เมื่อวานเป็นวันอาทิตย์ หลายคนออกไปโบสถ์เพื่อสวดภาวนา พวกเขาบอกว่าคนที่ยอมตายเพื่อปกป้องเมืองหลวง

ในวันที่กองกำลังรัสเซียจ่อเมืองหลวง ปรากฏภาพประธานาธิบดีเซเลนสกี ออกมาเดินในกรุงเคียฟ ระบุว่า พร้อมแล้วที่จะสู้ตาย ก่อนจะไปเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

และในวันนี้สำนักข่าว The Guardian รายงานว่า รามซาน คาดิรอฟ ประกาศว่าเขาเดินทางเข้าถึงยูเครนแล้วเพื่อช่วยทหารรัสเซียยึดกรุงเคียฟ
รามซาน คาดิรอฟ (Ramzan Kadyrov) คือ ผู้นำสาธารณรัฐเชเชน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย เป็นคนที่องค์กรสิทธิมนุษยชนทั่วโลกขึ้นชื่อในฐานะคนที่มีประวัติละเมิดสิทธิประชาชนอย่างรุนแรง

รามซาน คาดีรอฟ และพ่อของเขา ซึ่งเป็นอดีตผู้นำของสาธารณรัฐ เคยเป็นฝ่ายต่อต้านรัฐบาลมอสโกมาก่อน ในช่วงที่มอสโกส่งกำลังไปปราบปรามเชเชน ช่วงปี 1994-1996 ก่อนจะเปลี่ยนข้างมาอยู่ฝ่ายรัสเซียในความขัดแย้งระหว่างกันครั้งที่ 2 ในปี 1999

ปัจจุบัน รามซาน คือ ผู้ซึ่งมีความใกล้ชิดและภักดีต่อประธานาธิบดีปูตินมากที่สุดคนหนึ่ง  ก่อนหน้านี้คาดิรอฟประกาศส่งนักรบเชเชน 12,000 ไปยูเครน เพื่อช่วยทหารรัสเซีย และล่าสุดมีรายงานว่า คาดิรอฟได้โพสต์คลิปวิดีโอในเทเลแกรม เป็นภาพตัวเขาในชุดทหาร กำลังศึกษาแผนการรบกับกลุ่มทหารในห้อง โดยอ้างว่า ได้ร่วมประชุมกับทหารรัสเซียใกล้กับฐานทัพอากาศฮอสโตเมลที่อยู่ห่างจากกรุงเคียฟเพียง 20 กิโลเมตรเท่านั้น

โดยเมื่อค่ำวานนี้กระทรวงกลาโหมรัสเซียปล่อยภาพพลร่มที่กำลังเข้าไปในสนามบินแห่งหนึ่งใกล้กับกรุงเคียฟ แต่ไม่มีการระบุว่า สนามบินดังกล่าวคือสนามบินอะไร

ส่วนที่มาริอูปอล เมืองท่าที่สำคัญทางตอนใต้ของยูเครนที่กองทัพรัสเซียต้องยึดให้ได้เพื่อสร้าง Land bridge ต่อไปยังตะวันออก กำลังเผชิญกับวิกฤตด้านมนุษยธรรม ประชาชนกว่า 400,000 คนถูกปิดล้อมและน้ำ อาหาร กำลังขาดแคลน มาริอูปอลถูกปิดล้อมมา 12 วันแล้ว โดนโจมตีทางอากาสอย่างหนักจนเมืองเหลือแต่ซาก จากภาพถ่ายดาวเทียมที่แสดงให้เห็นถึงสภาพของเมือง อาคารบ้านเรือนของประชาชน โครงสร้างพื้นฐานของเมือง รวมถึงโรงพยาบาลหลายแห่งเสียหายย่อยยับ

มีรายงานพลเรือนเสียชีวิตแล้วกว่า 2,100 คนในเมืองนี้ ประชาชนกว่า 400,000 คน ไม่สามารถออกจากพื้นที่ได้ เพราะถูกกองทัพรัสเซียขัดขวางการอพยพ ต้องขาดแคลนอาหาร น้ำ และไม่มีไฟฟ้าใช้ ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้นำยูเครนอ้างว่า มีเด็กเสียชีวิตจากการขาดน้ำแล้ว



ประธานคณะกรรมการกาชาดสากล ออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และเรียกร้องให้มีการเปิดทางให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปที่นั่น รวมถึงเรียกร้องให้รัสเซียยุติการพุ่งเป้าโจมตีไปที่โครงสร้างพื้นฐาน โรงพยาบาลหรือบุคลากรทางการแพทย์ หลังจากเมื่อวันพุธที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา มีขีปนาวุธของรัสเซียยิงถล่มโรงพยาบาลแม่และเด็กทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คนรวมถึงเด็กด้วย

ในวันที่โรงพยาบาลแม่และเด็กถูกถล่ม มีภาพหญิงท้องคนหนึ่งชื่อ มาเรียนา วิเชกีร์สกายา หนีตายจากโรงพยาบาล ภาพนี้ถูกแชร์ไปทั่วโลก หลังจากนั้นเธอก็ให้กำเนิดลูกสาวเมื่อวันศุกร์ที่ 11 มีนาคม  ล่าสุดสำนักข่าว AP รายงานว่า มาเรียนาและลูกน้อยเสียชีวิตแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น

ก่อนหน้านั้นทางการรัสเซียออกมาบอกว่า ภาพของมาเรียนา ที่หนีตายเป็นภาพที่ทางการยูเครนจัดฉาก เธอเป็นนักแสดง ไม่ได้ท้องจริง ๆ และภาพเหตุการณ์ถล่มโรงพยาบาลก็เป็นแค่ฉากที่จัดขึ้น แต่คำกล่าวอ้างของรัสเซียถูกหักล้างเมื่อมีผู้นำภาพของมาเรียนาใน social media ว่าเธอตั้งท้องจริง ๆ และเธอมีตัวตนจริง ๆ ไม่ใช่นักแสดง



รัสเซียต้องยึดเมืองมาริอูปอลให้ได้เพราะเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการเชื่อมกำลังไปทางตะวันออกและปิดทางออกทางทะเลของยูเครนด้วย ล่าสุดกระทรวงกลาโหมของอังกฤษรายงานว่า ขณะนี้กองทัพรัสเซียสามารถสร้างแนวป้องกันไม่ให้ยูเครนมีทางออกทางทะเลดำได้เรียบร้อยแล้ว นับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครน เมื่อวันที่ 24 กุมภา มีรายงานผู้เสียชีวิตรวมแล้วประมาณ 2,000 คน และเกือบ 2.7 ล้านคน ต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัย

 

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ