พนักงานสถานีโทรทัศน์ Channel One ของรัสเซียรายหนึ่ง ขัดจังหวะรายการสดของช่อง ด้วยการออกมาถือป้ายประท้วงต่อต้านการรุกรานยูเครน
มารินา ออฟไซยานิโควา พนักงานของช่อง Channel One บุกเข้าไปในฉากขณะที่มีการถ่ายทอดสดรายการข่าวในเย็นวันจันทร์ (14 มี.ค.) ที่ผ่านมา และตะโกนว่า “หยุดสงคราม ไม่เอาสงคราม”
เธอยังถือป้ายที่เขียนว่า “อย่าเชื่อโฆษณาชวนเชื่อ พวกเขากำลังโกหกคุณ” และบางส่วนเป็นภาษาอังกฤษเขียนว่า “Russians against the war (คนรัสเซียต่อต้านสงคราม)”
ยูเครนเผย นับตั้งแต่รัสเซียบุก มีเด็กเสียชีวิตแล้ว 90 ราย
ขณะเกิดเหตุ ผู้ประกาศข่าวยังคงพยายามอ่านข่าวให้ดังขึ้น เพื่อพยายามกลบเสียงของออฟไซยานิโควา แต่ประชาชนทั่วรัสเซียก็ยังสามารถเห็นและได้ยินเสียงของออฟไซยานิโควาเป็นเวลาหลายวินาที ก่อนที่ท้ายที่สุดช่องจะตัดเข้าการรายงานข่าวที่บันทึกไว้ล่วงหน้า
จับตารัสเซีย-ยูเครน เจรจารอบใหม่วันนี้
ก่อนหน้านี้ ออฟไซยานิโควาได้เผยแพร่วิดีโอที่บันทึกไว้ล่วงหน้าผ่านกลุ่มสิทธิมนุษยชน OVD-Info ซึ่งเธอออกมาแสดงความละอายในการทำงานให้กับ Channel One และเผยแพร่ “โฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลรัสเซีย”
“น่าเสียดาย เป็นเวลาหลายปีที่ฉันทำงานในช่อง Channel One และทำงานเกี่ยวกับการโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาล ตอนนี้ฉันรู้สึกละอายใจมากกับเรื่องนี้ ละอายใจที่ต้องพูดเท็จออกสื่อโทรทัศน์ ละอายใจที่ยอมให้คนรัสเซียกลายเป็นซอมบี้ เราเงียบเสียงของเราในปี 2014 เราไม่ได้ออกไปประท้วงเมื่อรัฐบาลวางยาพิษผู้นำฝ่ายค้าน อเล็กซี นาวัลนี” เธอกล่าว
เธอเสริมว่า “เราทำแค่เฝ้าดูระบอบการปกครองนี้ที่ต่อต้านมนุษย์อย่างเงียบ ๆ และตอนนี้โลกทั้งโลกได้หันเหไปจากเรา และลูกหลานเราอีกสิบรุ่นต่อจากนี้จะไม่สามารถชำระล้างตนเองจากความอับอายของสงครามนี้ได้”
ออฟไซยานิโควากล่าวในวิดีโอว่า พ่อของเธอเป็นชาวยูเครน และแม่ของเธอเป็นชาวรัสเซีย “สิ่งที่เกิดขึ้นในยูเครนเป็นอาชญากรรม และรัสเซียเป็นผู้รุกราน ... ความรับผิดชอบของการรุกรานนี้อยู่บนบ่าของคนเพียงคนเดียว วลาดิเมียร์ ปูติน”
เธอเรียกร้องให้เพื่อนชาวรัสเซียออกมาประท้วงต่อต้านสงครามเพื่อยุติความขัดแย้ง “มีเพียงเราเท่านั้นที่มีพลังที่จะหยุดความบ้าคลั่งทั้งหมดนี้ ไปประท้วง อย่ากลัวสิ่งใด พวกเขาไม่สามารถกักขังพวกเราทุกคนได้”
OVD-Info กล่าวว่า ออฟไซยานิโควาถูกจับกุมไม่นานหลังจากการประท้วงออกรายการสด อย่างไรก็ตาม ดมิทรี แซกวาตอฟ ทนายความของออฟไซยานิโควาเปิดเผยว่า หลังถูกจับกุม เขากลับหาลูกความของเขาไม่เจอ แม้จะมีรายงานว่าเธออยู่ในสถานีตำรวจแห่งหนึ่งในกรุงมอสโกก็ตาม
ด้านประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวว่า เขารู้สึกขอบคุณต่อชาวรัสเซียที่ไม่กลัวที่จะประท้วง และกล้าที่จะบอกความจริงเกี่ยวกับการรุกรานยูเครนของรัสเซีย
“ผมรู้สึกขอบคุณชาวรัสเซียที่ไม่หยุดพยายามถ่ายทอดความจริง ขอบคุณผู้ที่ต่อสู้กับการบิดเบือนข้อมูลและบอกความจริง ข้อเท็จจริงที่แท้จริง ต่อเพื่อนฝูงและคนที่คุณรัก” เขากล่าว
ตะวันตกแซงชั่นรัสเซีย โอกาส "ยักษ์ใหญ่ไฮเทคจีน" ชิงส่วนแบ่งการตลาด
เรียบเรียงจาก The Guardian
ภาพจาก AFP