หวังจีเซียน คือหนึ่งในชาวจีนที่พำนักอยู่ในยูเครน โดยตัวเขาเป็นโปรแกรมเมอร์พัฒนาซอฟต์แวร์วัย 36 ปี อาศัยอยู่ที่เมืองโอเดสซา ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่สำคัญของกองทัพยูเครน
เมื่อรัสเซียเริ่มบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ชาวจีนที่อยู่ในยูเครนกว่า 6,000 คน ตัดสินใจเดินทางออกนอกยูเครน แต่หวังไม่ทำเช่นนั้น เขาตัดสินใจอยู่ต่อ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเขากลับพบว่า กระแสในโซเชียลมีเดียของจีนกลับเทไปเข้าข้างรัสเซียหรือสนับสนุนให้มีการบุกรุก
ปูตินฉลองครบรอบ 8 ปีผนวกไครเมีย ชี้การบุกยูเครนเป็นเรื่องโดยชอบธรรม
“ผมโกรธมาก เลยคิดว่าจะบันทึกวิดีโอให้พวกเขาได้เห็น ว่าสนามรบที่แท้จริงคืออะไร” เขากล่าว
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงถ่ายวิดีโออัปเดตสถานการณ์ในยูเครนลงในโซเชียลมีเดีย ทั้งโซเชียลมีเดียของตะวันตกอย่างเฟซบุ๊ก ยูทูบ และโซเชียลมีเดียในจีนอย่าง WeChat และ โต่วอิน (TikTok ของจีน) ให้ผู้ติดตามของเขาได้ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ติดตามที่อยู่ในจีน จนกลายเป็นเหมือนนักข่าวพลเมืองกลาย ๆ
วิดีโอประจำวันของเขาได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ในฐานะมุมมองของเรื่องราวที่หาได้ยากในสื่อจีน ทำให้ชาวจีนได้เห็นภาพของยูเครนที่ถูกทำลายจากสงคราม ตรงกันข้ามกับสื่อของรัฐบาลจีนซึ่งสนับสนุนการบิดเบือนข้อมูลของรัสเซีย เช่น รายงานข้อมูลที่ไม่มีมูลความจริง เรื่องที่ทหารยูเครนเป็นนาซี ฯลฯ
ในวิดีโอคลิปหนึ่ง หวังกล่าวว่า “ทหารยูเครนเหล่านี้ไม่ใช่นาซี พวกเขาเป็นโปรแกรมเมอร์ เป็นฝ่ายไอที เป็นคนธรรมดา เป็นช่างตัดผม คนเหล่านี้คือประชาชนทั้งนั้น”
ในระดับชาติ จีนปฏิเสธที่จะประณามการรุกรานยูเครนของรัสเซีย และยังจำกัดและเซ็นเซอร์เนื้อหาที่วิพากษ์วิจารณ์รัสเซียออกไป ซึ่งเป็นสิ่งที่หวังต้องการจะเปลี่ยนแปลง
คลิปวิดีโอของเขาบ้างถ่ายตอนดึก โดยมีเสียงระเบิดและเสียงไซเรนเตือนภัยเป็นแบ็กกราวด์ บางคลิปแสดงภาพรวมของชีวิตประจำวันในโอเดสซา เช่น ถนนที่ว่างเปล่า ธงชาติยูเครนที่แขวนอยู่นอกอาคาร
“นี่คือเสียงสัญญาณเตือนภัยเหรอ ไอ้เวรพวกนั้นกำลังจะมาอีกแล้ว ... แต่ผู้คนต่างกำลังทำธุระของตัวเอง เพื่อนบ้านของผมออกไปเดินเล่นกับสุนัขของเขา นี่คือโอเดสซาของเรา” เขากล่าวในคลิปวิดีโอหนึ่ง
เมื่อวิดีโอของหวังเริ่มได้รับความสนใจ จนบางครั้งมีผู้เข้าชมมากกว่า 140,000 ครั้ง สิ่งที่ตามมาคือจำนวนผู้วิจารณ์ที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยมีบางความคิดเห็นเรียกเขาว่า “เป็นคนทรยศชาติ”
คอมเมนต์หนึ่งบอกว่า “คุณไม่จำเป็นต้องใช้หนังสือเดินทางของจีนอีกต่อไปแล้ว คุณลืมกำพืดไปแล้วว่าคุณมาจากประเทศอะไร”
“ผมไม่เข้าใจว่าผม 'ทรยศ' ประเทศอย่างไร” หวังบอก เขากล่าวว่า เขาไม่เข้าใจในจุดยืนของจีนหรือรัสเซีย ทั้งหมดที่เขารู้ก็คือ “เมืองนี้ถูกไฟไหม้ทุกวัน หลายคนถูกฆ่าตาย”
ความคิดเห็นของคนแปลกหน้าทางออนไลน์ไม่ได้ทำให้เขารำคาญ แต่ความคิดเห็นจากคนที่เขาห่วงใย เช่น เจ้าหน้าที่สถานทูตจีนในมาซิโดเนียเหนือ กลับทำให้เขาเจ็บปวกอย่างมาก
เขาบอกว่า เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวเพิ่งติดต่อมาหาเขา แล้วกล่าวหาว่า หวังได้รับค่าจ้างเพื่อโพสต์วิดีโอสภาพของยูเครน และถามว่า “ใครส่งคุณมา”
เมื่อหวังยืนยันว่าเขาไม่ได้ทำเพื่อเงิน เจ้าหน้าที่ตอบว่า “พฤติกรรมในปัจจุบันของคุณไม่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของชาติ ผมต้องการตัดความสัมพันธ์กับคุณ บล็อกผมซะ ผมจะบล็อกคุณด้วย”
การเซ็นเซอร์ของจีนยังลามมาถึงคลิปวิดีโอของเขาในแพลตฟอร์มออนไลน์เช่นกัน โดยแม้ว่าวิดีโอทั้งหมดของเขาจะยังคงอยู่บนยูทูบ แต่ใน WeChat กลับมีวิดีโอเหลือเพียง 80% และบนโต่วอินยิ่งหนักกว่า เพราะเหลือคลิปเพียง 20% ของที่เขาเคยลงเอาไว้
หวังบอกว่า เขาไม่รู้ว่าเขาทำผิดกฎอะไร เขาหงุดหงิดมากจนในคลิป ๆ หนึ่งเมื่อวันที่ 7 มี.ค. เขาตัดสินใจติดเทปสีดำเป้นเครื่องหมาย X ที่ปากของเขา และชี้ไปที่กล้องอย่างเงียบ ๆ
นอกจากนี้ บัญชีโซเชียลมีเดียในจีนของเขาถูกแบน ทำให้เขาไม่สามารถติดต่อกับครอบครัวของเขาที่บ้านได้
เขาได้รับข้อความนับไม่ถ้วนจากหลาย ๆ คนที่กดดันให้เขาหยุดโพสต์วิดีโอเหตุการณ์ในยูเครน แต่หวังบอกว่า เขาจะไม่หยุด
“ผมต้องการเป็นเสียงให้กับประชาชนในยูเครน ให้กับวีรบุรุษ ให้กับเพื่อนบ้านของผม เพราะในสายตาของผม พวกเขาเป็นวีรบุรุษทั้งหมด ... ผมอยากให้คุณรู้ว่า ใครกำลังจะตาย ใครถูกฆ่า” เขากล่าว
หวังจีเซียนบอกว่า เขาไม่มีแผนที่จะออกจากเมืองโอเดสซา “จนกว่าโอเดสซาจะถูกทำลายเกินกว่าที่เราจะใช้ชีวิตอยู่ได้ ... หากผมหันหลังและจากไป มันอาจจะเป้นเรื่องที่ทำให้ผมเสียใจไปตลอดชีวิต ... ผมไม่มีความคิดที่จะออกจากยูเครน จนกว่าสงครามจะยุติและยูเครนชนะ”
ใครต้องการรับชมคลิปของหวังจีเซียนในยูทูบ สามารถชมได้ที่นี่
เรียบเรียงจาก CNN
ภาพจาก CNN