ธนาคารโลกกล่าวว่า จากการรุกรานของรัสเซียและผลกระทบของ “วิกฤตด้านมนุษยธรรม” ประเมินว่า ในปีนี้ เศรษฐกิจของยูเครนจะหดตัวถึง 45% จากการปิดท่าเรือแถบทะเลดำทางตอนใต้ของยูเครน และความเสียหายที่เกิดกับภาคอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก
เศรษฐกิจของยูเครน เดิมทีต้องพึ่งพาการเกษตรเป็นอย่างมาก ซึ่งไฟสงครามก็ส่งผลกระทบต่อภาพการเกษตรยูเครนอย่างแน่นอนอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้อาจได้รับผลกระทบมากกว่านี้ หากการเข้าถึงทะเลดำทั้งหมดถูกตัดขาดโดยกองกำลังของรัสเซีย
รัสเซียบุกยูเครนให้ผลตรงข้าม? ฟินแลนด์-สวีเดนเข้าร่วมนาโตภายในครึ่งปี
ยูเครน กลับมาเผชิญวิกฤตอีกรอบ หลังกองทัพรัสเซีย ระดมโจมตีทางตะวันออก
“อเล็กซานเดอร์ ดวอร์นิคอฟ” รัสเซียแต่งตั้งผู้บัญชาการบุกยูเครนคนใหม่
ท่าเรือของยูเครนประสบปัญหาการสัญจรลดลงมากกว่า 75% จากสงครามที่เกิดขึ้น และกองกำลังรัสเซียที่เข้าควบคุมน่านน้ำส่วนใหญ่ของยูเครนไว้แล้ว นอกจากนี้ หากรัสเซียสามารถยึดหรือควบคุมเมืองโอเดสซา อีกหนึ่งเมือท่าที่สำคัญของยูเครนได้ ก็อาจทำให้อัตราการสัญจรลดลงมากกว่าตัวเลขข้างต้น
อย่างไรก็ตาม ธนาคารโลกกล่าวว่า รัสเซียจะเข้าสู่ภาวะถดถอยเช่นกัน โดยคาดว่าจะหดตัว 11.2% ในปีนี้
จีดีพีที่คาดว่าจะลดลงนี้เกิดจากมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียของนานาชาติ ที่ทำให้จำนวนเรือขนส่งสินค้าที่มาถึงท่าเรือรัสเซียลดลงเกือบครึ่งหนึ่งตั้งแต่เริ่มมีการบุกรุก
นอกจากยูเครนและรัสเซียแล้ว ธนาคารโลกประเมินว่า หลายประเทศรอบ ๆ ยูเครนจะประสบกับความยากลำบากอย่างหนัก โดยเฉพาะผลกระทบต่อประเทศเพื่อนบ้านที่พึ่งพาการส่งออกของรัสเซียและยูเครนเป็นหลัก
“สงครามกำลังส่งผลกระทบร้ายแรงต่อชีวิตมนุษย์และก่อให้เกิดการทำลายล้างทางเศรษฐกิจในทั้งสองประเทศ และจะนำไปสู่ความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่สำคัญในยุโรปและภูมิภาคเอเชียกลาง และส่วนอื่น ๆ ของโลก” ธนาคารโลกกล่าว
ขณะที่ผลผลิตในกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก ซึ่งรวมถึงมอลโดวา เบลารุส และยูเครน คาดว่าจะลดลง 30.7% โดยบางประเทศได้ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานระหว่างประเทศเพื่อบรรเทาวิกฤตแล้ว
เดวิด มัลพาส ประธานธนาคารโลก และคริสทาลินา จอร์จีวา หัวหน้ากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า พวกเขาวางแผนที่จะให้การสนับสนุนทางการเงินเพิ่มเติมแก่ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการรุกรานยูเครน ซึ่งหลายแห่งกำลังประสบปัญหาต้นทุนอาหารที่เพิ่มขึ้น
ธนาคารโลกกล่าวว่า การรุกรานยูเครนสร้างผลกระทบครั้งใหญ่ครั้งที่ 2 ในรอบ 2 ปีรองการระบาดใหญ่ ซึ่งจะทำให้ผลผลิตทางเศรษฐกิจทั่วทั้งภูมิภาคลดลง 4.1% ซึ่งสูงเป็น 2 เท่าเมื่อเทียบกับภาวะถดถอยในปี 2020 จากวิกฤตโควิด-19
รายงานระบุว่า ผลกระทบจากสงครามจะส่งผลกระทบต่อบรรดาชาติที่เป็นอดีตสหภาพโซเวียตมากที่สุด และหลายประเทศจะถูกบีบให้ต้องกู้เงินเพิ่มเติมจากธนาคารโลกและ IMF
“ผลกระทบของสงครามกำลังลดหลั่นกันไปตามความเชื่อมโยงทางการค้า การเงิน และการอพยพของภูมิภาค ส่งผลให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมากต่อประเทศเพื่อนบ้าน” รายงานของธนาคารโลกระบุ
ธนาคารโลกบอกว่า หากสงครามดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง อาจต้องทบทวนการคาดการณ์การลดลงของจีดีพีที่มากขึ้น โดยระบุว่า ในสถานการณ์เลวร้าย จีดีพีของทั้งยุโรปในปีนี้อาจลดลงอีก 3%
“สถานการณ์สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดอาจทำให้จีดีพีของรัสเซียหดตัวได้ถึง 20% ส่วนจีดีพียูเครนอาจหดตัวได้ถึง 75%” ธนาคารโลกระบุ
ระดับกัมมันตรังสีในบางพื้นที่ของเชอร์โนบิลสูงขึ้น หลังรัสเซียถอนกำลัง
เงินบาทซื้อขายในกรอบ 33.40-33.85 ลุ้นเงินเฟ้อสหรัฐฯ-ประชุมอีซีบี
เรียบเรียงจาก The Guardian
ภาพจาก AFP