สหรัฐฯ เผย รัสเซียเตรียมผนวกโดเนตสค์-ลูฮันสค์ ภายในเดือนนี้
สื่อท้องถิ่นรายงาน ฟินแลนด์จ่อลงมติเข้านาโต 12 พ.ค. นี้
การอพยพพลเรือนติดอยู่ในโรงงานเหล็กอาซอฟสตอล ในเมืองมาริอูปอล ประเทศยูเครน ซึ่งเป็นพื้นที่มั่นสุดท้ายที่ยังคงอยู่ภายใต้การครอบครองของกองทัพยูเครน ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อวานนี้ (3 พ.ค.65) โดยการอพยพนั้น ทหารจะช่วยคุ้มครองประชาชนไปขึ้นรถบัส และเดินทางออกมาจากที่นั่น ก่อนที่หน่วยงานกาชาดสากลพาพลเรือนเหล่านี้ไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ห่างจากเมืองมาริอูปอลไปประมาณ 30 กิโลเมตร และล่าสุดขบวนรถบัสที่อพยพพลเรือนจากที่นั่น เดินทางถึงเมืองซาโปริซเซียแล้ว
โควิดวันนี้ (3พ.ค.) ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่ำกว่า 1 หมื่นราย
หนึ่งในผู้อพยพคือ เยเลนา ไอทูโลว่า อายุ 44 ปี เป็นหนึ่งในพลเรือนที่ไปซ่อนตัวอยู่ที่โรงงานอาซอฟสตอล เปิดเผยว่า การอพยพครั้งนี้ และชีวิตการเป็นอยู่ในที่หลบภัยว่ามันลำบากขนาดไหน
“ทหารมาแล้วก็ช่วยคุ้มครอง 11 คนแรกออกไป คนที่ป่วยหนักมาก เป็นโรคหืดหรือต้องการอินซูลิน และก็เราสามคน เขาสุ่มเลือกเอา ประชาชนกว่า 40 คน รวมถึงเด็กเล็กได้ออกมาจากที่นั่น เป็นเดือนที่เราต้องกิน คนกว่า 40 คน อาหาร 6 กระป๋อง เราต้มถังซุปให้ได้สองถังจากอาหารกระป๋อง และนั่นก็คือสิ่งที่จะกินกันทั้งวัน” เยเลนา ไอทูโลว่า กล่าว
ขณะที่ฝั่งรัสเซียยืนยันว่า เมื่อวันเสาร์และอาทิตย์ที่ผ่านมา มีการอพยพประชาชนจากมาริอูปอลแล้ว 126 คน
ทั้งนี้ มาริอูปอล ถูกปิดล้อมมานานหลายสัปดาห์ และการสู้รบเข้มข้นที่นี่ จนกระทั่งสัปดาห์ที่ผ่านมา เหลือเพียงโรงงานเหล็กอาซอฟสตอลที่ทางทหารรัสเซียยังยึดไม่ได้ แต่ทางกองทัพรัสเซียเปลี่ยนกลยุทธ์มาปิดล้อมโรงงานแทน และในระหว่างที่นายแอนโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติเดินทางเยือนกรุงมอสโกของรัสเซีย ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินก็เห็นชอบในหลักการของสหประชาชาติและคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ ในการอพยพพลเรือนออกมาจากจุดดังกล่าว
วันนี้ โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดีของยูเครน ยืนยันว่า ปฏิบัติการอพยพคนออกจากมาริอูปอลจะยังคงเกิดขึ้นต่อไป และจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อปกป้องความปลอดภัยของประชาชน
อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการกองพิทักษ์ชาติของยูเครนเปิดเผยว่า มีการโจมตีเกิดขึ้นที่โรงงานเหล็กอาซอฟสตอลอยู่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยมีการยิงด้วยอาวุธหลากหลายประเภทเข้าใส่ และเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ก็มีภาพวิดีโอปรากฏออกมาว่า มีไฟไหม้เกิดขึ้นบริเวณอาซอฟสตอลอีกครั้ง
จนถึงตอนนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า มีพลเรือนติดค้างอยู่ในอาซอฟสตอลเท่าไหร่กันแน่ และอีกเรื่องที่ยังไม่ชัดเจนคือ หลังจากอพยพพลเรือนออกมาจากที่นั่นหมดแล้ว รัสเซียจะทำอย่างไรต่อกับกองกำลังยูเครนประมาณ 2,000 นาย ที่อยู่ในอาซอฟสตอล
โดยกองกำลังหลัก ๆ ประกอบไปด้วยหน่วยนาวิกโยธินกองพลน้อยที่ 36 และกองพันอาซอฟที่รัสเซียหมายหัวว่าเป็นกลุ่มนีโอนาซี และมีทหารอาสาจากต่างชาติอีกจำนวนหนึ่ง
ก่อนหน้านี้รัสเซียมีการยื่นคำขาดด้วยการขีดเส้นตายถึง 2 ครั้งเพื่อให้กองกำลังเหล่านี้ยอมแพ้ แต่ได้รับการปฏิเสธ นอกจากจะไม่ยอมวางอาวุธยอมจำนวนแล้ว กองกำลังยูเครนยังประกาศสู้ตายถึงแม้ว่าจะมีหลายร้อยนายได้รับบาดเจ็บ และอาวุธและเครื่องกระสุนเริ่มหมด
ขณะที่เมื่อวานนี้ยังมีรายงานว่า มีการโจมตีด้วยมิสไซล์ในเมืองโอเดสซ่า เมืองท่าทางตอนใต้ของประเทศ ทำให้อาคารแห่งหนึ่งได้รับความเสียหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังเข้าไปดับไฟ และประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครนยืนยันว่า มีเด็กชายวัย 14 ปีเสียชีวิต และเด็กสาวอายุ 17 ปีได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว
รัสเซียเปลี่ยนอินเทอร์เน็ตภูมิภาคเคอร์ซอน ให้ใช้เครือข่ายของรัสเซียแทน
รมต.ต่างประเทศรัสเซีย ชี้ “ฮิตเลอร์” เป็นยิว
อย่างไรก็ตาม มีอีกหนึ่งประเด็นที่เกิดขึ้นในเวลานี้ หลังอิสราเอลประณามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียที่อ้างว่า อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ อดีตผู้นำนาซีของเยอรมนีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มีเชื้อสายยิว พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลรัสเซียขอโทษต่อคำพูดดังกล่าว
เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุว่า อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ อดีตผู้นำเยอรมนี และพรรคนาซีมีสายเลือดชาวยิว โดยลาฟรอฟไปให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์อิตาลี ซึ่งมีการตั้งคำถามว่าเหตุใดรัสเซียจึงอ้างว่าการบุกยูเครนเป็นการกำจัดลัทธินาซี ทั้งที่ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซลินสกี ผู้นำยูเครน มีเชื้อสายยิว
โดยลาฟรอฟ ตอบผ่านล่ามภาษาอิตาลีว่า ฮิตเลอร์ ซึ่งเป็นผู้สั่งฆ่าชาวยิวหลายล้านคนในยุโรป ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็มีเชื้อสายยิวเช่นกัน
ด้านยาอีร์ ลาปิด (Yair Lapid) รัฐมนตรีว่าการระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลให้สัมภาษณ์กับสถานีข่าววายเน็ต (Ynet) เปิดเผยว่าจะเรียกเอกอัคราชทูตรัสเซียเข้าพบเพื่อชี้แจงกรณีที่ โดย ลาปิด กล่าวว่า คำพูดดังกล่าวของ ลาฟรอฟเป็นสิ่งที่น่าละอาย ไม่สามารถให้อภัยได้ และ ฮิตเลอร์ไม่ใช่ชาวยิวอย่างแน่นอน ซึ่งอิสราเอลต้องการคำขอโทษต่อคำพูดของลาฟรอฟ
ขณะที่ทางประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครนก็ออกมาประณามเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า การให้สัมภาษณ์ของลากรอฟแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลรัสเซียลืม หรือไม่เคยเรียนรู้บทเรียนจากสงครามโลกครั้งที่สองเลย และเขาก็ไม่มีคำจะพูดจริง ๆ
“เมื่อวานนี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศรัสเซียพูดอย่างเปิดเผยและไม่ลังเลเลยว่า กลุ่มที่ต่อต้านชาวยิวมากที่สุดถูกกล่าวหาว่าเป็นยิวเสียเอง และฮิตเลอร์ก็ถูกกล่าวหาว่ามีเชื้อสายยิว เรื่องแบบนี้พูดออกมาได้อย่างไรในช่วงก่อนวันครบรอบชัยชนะต่อพวกนาซี คำพูดพวกนี้หมายความว่า นักการทูตระดับสูงของรัสเซียกำลังกล่าวโทษชาวยิวสำหรับอาชญากรรมที่นาซีก่อ ไม่มีคำจะพูดเลย” เซเลนสกี กล่าว
อิสราเอลฉุน หลังรมว.ต่างประเทศรัสเซียพูดว่า “ฮิตเลอร์มีเชื้อสายยิว”