“มาริอูปอล” คือเมืองท่าหลักชองยูเครนทางตะวันออกเฉียงใต้ฝั่งทะเลอาซอฟ และเป็นหนึ่งในเป้าหมายการโจมตีที่สำคัญของกองกำลังรัสเซียที่หมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องยึดเมืองนี้มาให้ได้ ทั้งด้วยเหตุผลด้านยุทธศาสตร์ การเปิดเส้นทางเชื่อมไครเมียกับยูเครนตะวันออก การจัดการกลุ่มอาซอฟซึ่งรัสเซียนิยามว่าเป็นลัทธินีโอนาซี
วันที่ 20 พ.ค. หลังจากที่กองกำลังยูเครนในโรงงานเหล็กมาริอูปอลตัดสินใจยอมจำนวน และถูกนำตัวไปยังพื้นที่ควบคุมของรัสเซีย รัสเซียก็ได้ประกาศว่า สามารถยึดควบคุมเมืองมาริอูปอลได้สำเร็จแล้ว
“ศูนย์ข้อมูลเคลื่อนที่” รัสเซียเริ่มปฏิบัติการโฆษณาชวนเชื่อในมาริอูปอล
รัสเซียจ่อปรับโฉม "มาริอูปอล" เป็นเมืองรีสอร์ท ระบุเสียหายเกินเยียวยา
รัสเซียอาจทำประชามติเพื่อผนวก"มาริอูปอล"
ลบล้างความเป็นยูเครน เผยแพร่ความเป็นรัสเซีย
หลังจากนั้น ก็มีความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเกิดขึ้นกับเมืองท่าแห่งนี้ หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ คือป้ายต้อนรับหน้าเมืองที่ถูกทาสีเป็นสีขาว น้ำเงิน และแดง ซึ่งเป็นสีประจำธงชาติรัสเซีย อนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ตรงทางเข้าเมืองและตามถนนหนทางก็มีการรำธงรัสเซียมาประดับ ส่วนธงชาติยูเครนที่ประดับอยู่รอบเมือง ก็ถูกนำออกไป
อดีตปธน.รัสเซียพูดเป็นนัย อีก 2 ปี ไม่มียูเครนบนแผนที่โลก
ตรวจหวย - ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 มิถุนายน 2565 ลอตเตอรี่ 16/6/65
เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. เปโตร แอนดริวเชนโก ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีเมืองมาริอูปอลของยูเครน บอกผ่านเทเลแกรมว่า “ผู้รุกรานยังได้เปลี่ยนชื่อจัตุรัสอิสรภาพ (Freedom Square) ในมาริอูปอลเป็นจัตุรัสเลนิน (Lenin Square)”
ในส่วนของการปกครอง จากทางการท้องถิ่นของยูเครน ก็กลายเป็นเจ้าหน้าที่จากสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ที่ส่งเจ้าหน้าที่มาบริหารและกำกับดูแลเมืองแทน
นอกจากนี้ กองกำลังรัสเซียยังมีอำนาจการควบคุมเหนือชายฝั่งทะเลอาซอฟทั้งหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่โดเนสตก์ที่ปกครองมาริอูปอลอยู่ก็บอกว่า ท่าเรือต่าง ๆ ของมาริอูปอลพร้อมที่จะดำเนินงานตามปกติ และขณะนี้กำลังรับและส่งสินค้าระหว่างมาริอูปอลกับรัสเซีย
ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายประเมินว่า รัสเซียน่าจะต้องการผนวกเมืองมาริอูปอลเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย อย่างที่เคยทำกับไครเมียเมื่อปี 2014
ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า รัสเซียได้นำรถตู้โฆษณาชวนเชื่อแบบเคลื่อนที่พร้อมโทรทัศน์จอใหญ่มาวิ่งในเมืองมาริอูปอลที่ถูกรัสเซียยึด โดยใช้ชื่อว่า “ศูนย์ข้อมูลเคลื่อนที่” คอยฉายรายการข่าวช่องโทรทัศน์ของรัฐรัสเซีย และรายการสนทนาทางการเมืองที่จะมีผู้เชี่ยวชาญมาพูดสนับสนุนการบุกรุกยูเครนให้ชาวเมืองมาริอูปอลฟัง
คาเทอรินา (ไม่เปิดเผยนามสกุล) ชาวเมืองมาริอูปอล เล่าว่า “พวกเขาติดจอพวกนี้ไว้รอบจัตุรัสหลักทั้งหมด ตอนที่ฉันกับแม่อยู่ในแถวเพื่อรอซื้ออาหารและน้ำ เราถูกบังคับให้ฟังเรื่องราวว่าเราได้รับการปลดปล่อยจากพวกนาซีอย่างไร”
เสียงจากผู้ประกาศของสถานีโทรทัศน์รัสเซียบอกว่า “การทำให้ยูเครนปลอดนาซีประสบความสำเร็จแล้วในมาริอูปอล”
ด้าน ทาเทียนา (ไม่เปิดเผยนามสกุล) ชาวเมืองมาริอูปอลที่อพยพออกมาจากเมือง แต่ยังติดต่อกับแม่และน้องสาวที่ยังอยู่ในเมืองอยู่ เล่าว่า บรรยากาศภายในเมืองทุกวันจะมีคิวยาวสำหรับรอรับอาหารและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม “ลองนึกถึงช่วงที่สหภาพโซเวียตล่มสลาย แต่แย่กว่านั้น 5 เท่า”
เธอเสริมว่า ไม่นานหลังจากกลุ่มแบ่งแยกดินแดน (โดเนตสก์) ที่สนับสนุนรัสเซียเข้ามาในมาริอูปอล พวกเขาก็สัญญากับชาวเมืองว่า จะจ่ายเงินในลักษณะของการเยียวยาหรือสนับสนุนการดำรงชีพให้กับชาวเมือง
แต่ทาเทียนากล่าวว่า มีเพียงไม่กี่คนในเมืองเท่านั้นที่ได้รับสิทธิประโยชน์ดังกล่าว โดยมีเพียงผู้ที่ยอมเปลี่ยนหนังสือเดินทางยูเครนเป็นหนังสือเดินทางของรัสเซียเท่านั้นที่สามารถยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ได้
นโยบายต่าง ๆ เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนธงชาติในเมือง การนำสื่อโฆษณาชวนเชื่อมาให้ประชาชนฟัง หรือการเสนอประชาชนให้เปลี่ยนหนังสือเดินทาง ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ที่ค่อนข้างชัดเจนว่า รัสเซียน่าจะหมายตาที่จะผนวกรวมมาริอูปอลเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียจริง
ปัญหาสุขภาพ-ปากท้อง
หนึ่งในปัญหาที่หลายฝ่ายกำลังกังวลในขณะนี้ คือเรื่องของสถานการณ์ด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะเรื่องของอหิวาตกโรคและโรคร้ายแรงอื่น ๆ ที่อาจคร่าชีวิตผู้คนได้อีกมาก เนื่องจากมีรายงานว่า ศพของผู้เสียชีวิตในมาริอูโปไม่ได้ถูกเก็บกู้ และอากาศในฤดูร้อนทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์คละคลุ้งในหลายพื้นที่ของเมือง
“กลิ่นในเมืองนั้นรุนแรงมากไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน” คาเทอรินากล่าว
วิดีโอที่โพสต์บนเทเลแกรมช่อง “Mariupol Now” ซึ่งตั้งขึ้นโดยอาสาสมัครชาวยูเครนเผยภาพที่น่าสยดสยอง มีคนเห็นศพหลายสิบศพนอนเกลื่อนอยู่ในลานจอดรถโดยไม่ได้รับการจัดการที่ถูกต้องเหมาะสม
องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่า หากไม่มีการจัดการศพอย่างเหมาะสม มาริอูปอลอาจเสี่ยงเจอการระบาดของอหิวาตกโรค
ด้าน เดนิส ปูชิลิน หัวหน้าสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ (DPR) กล่าวว่า การเคลื่อนย้ายศพของทหารที่เสียชีวิตระหว่างการต่อสู้นั้น “อยู่ภายใต้การควบคุม” และบอกว่า ไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดของอหิวาตกโรค
ปัจจุบันมีประชากรประมาณ 90,000 คนที่ยังคงอยู่ในเมืองมาริอูปอล เมื่อเทียบกับช่วงก่อนสงครามที่มีประชากร 500,000 คน ทั้งนี้ ประชากรหลายคนแก่เกินกว่าที่จะเดินทางอพยพย้ายเมือง และบางส่วนก็ไม่อยากละทิ้งบ้านเรือนของตน
เรียบเรียงจาก The Guardian
ภาพจาก AFP