เมียนมา-รัสเซีย กระชับความร่วมมือด้านนิวเคลียร์และการทหาร

ในช่วงที่ผ่านมา มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา ได้เดินทางไปเยือนรัสเซียเป็นการส่วนตัว เพื่อหารือในประเด็นความร่วมมือด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านความมั่นคง ทั้งความมั่นคงทางพลังงาน และความมั่นคงทางทหารและการป้องกันประเทศ

โดยมีรายงานว่า เมื่อวันจันทร์ (11 ก.ค.) มิน อ่อง หล่าย ได้พบกับ อเล็กเซ ลิคาเชฟ  ผู้อำนวยการทั่วไปของบริษัทโรซาตอม (Rosatom State Corporation) บริษัทด้านพลังงานนิวเคลียร์ของรัสเซียที่ควบคุมโดยรัฐ

ยูเครนโจมตีเมืองทางใต้ที่รัสเซียยึดไว้ ขณะที่สมรภูมิดอนบาสยังดุเดือด

ปูตินลงนาม ให้ชาวยูเครนสามารถขอสัญชาติรัสเซียแบบเร่งด่วนได้

สหรัฐฯ เผย อิหร่านเตรียมจัดหาโดรน-UAV ส่งให้รัสเซีย

จากนั้นทั้งสองได้หารือกันเกี่ยวกับความร่วมมือเพื่อความมั่นคงในด้านต่าง ๆ เช่น การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การผลิตยา การเกษตร ปศุสัตว์และอุตสาหกรรม และภาคอาหาร โดยการใช้พลังงานนิวเคลียร์ “อย่างสันติ” และที่สุดก็ได้ลงนามในบันทึกความร่วมมือด้านพลังงานนิวเคลียร์

หลังจากนั้น มิน อ่อง หล่าย ยังได้พบกับ ดมิทรี โรโกซิน หัวหน้ารอสคอสมอส (Roscosmos) หรือองค์การอวกาศของรัสเซีย และได้หารือเกี่ยวกับการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

ผู้นำรัฐประหารเมียนมาร์ยังให้คำมั่นที่จะกระชับความร่วมมือด้านเทคนิคทางทหารกับรัสเซียในระหว่างการพบปะกับเจ้าหน้าที่กลาโหมระดับสูงของรัสเซียด้วย

โดยเมื่อวานนี้ (12 ก.ค.) กระทรวงกลาโหมรัสเซียรายงานว่า รัสเซียและเมียนมาตกลงที่จะต้องกระชับความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศภายหลังการประชุมในกรุงมอสโก ระหว่าง มิน ออง หล่าย และเจ้าหน้าที่กลาโหมระดับสูงของรัสเซีย

“จากการประชุมนี้ … เราได้ยืนยันทัศนคติที่เรามีร่วมกันเพื่อสร้างความร่วมมือหลายแง่มุมอย่างต่อเนื่องระหว่างกำลังทหารของทั้งสองประเทศ” กระทรวงระบุ

เมื่อเดือน ก.พ. โธมัส แอนดรูว์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติในเมียนมา กล่าวว่า ที่ผ่านมา รัสเซียได้จัดหายุทโธปกรณ์บางอย่างให้กับรัฐบาลทหารเมียนมา เช่น โดรน เครื่องบินขับไล่ และยานเกราะ

นับตั้งแต่กองทัพเมียนมาก่อการรัฐประหารเมื่อ ก.พ. 2021 ความโกลาหลก็ได้เข้าครอบงำเมียนมา และทำให้ระบอบประชาธิปไตยหยุดะงัก เกิดการประท้วงจากประชาชนในประเทศ ซึ่งจบลงด้วยการถูกปราบปรามด้วยกำลังอย่างรุนแรง

นับตั้งแต่ ก.พ. 2021 มีพลเรือนเสียชีวิตไปแล้ว 2,077 คน และถูกจับกุมอีก 14,549 คน

 

เรียบเรียงจาก Bloomberg / Reuters

ภาพจาก AFP

ปมรักฝังแค้น! หนุ่มเมียนมาโหด เชือดคอคู่ขาหนุ่ม

“ทวิตเตอร์” ยื่นฟ้องศาลแล้ว กรณี “อีลอน มัสก์” ล้มดีลซื้อกิจการ