ในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา โลกเผชิญกับอุณหภูมิเฉลี่ยที่เพิ่มสูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับยุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม จากพฤติกรรมการปล่อยคาร์บอนและมลพิษต่าง ๆ จนทำให้เกิดภาวะโลกร้อน และยังมีผลสืบเนื่องเป็นเรื่องของวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ด้วยเหตุนี้ การหาวิธีบรรเทาหรือย้อนกลับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจึงยังคงเป็นเรื่องสำคัญที่นักวิทยาศาสตร์หลายคนพยายามหาทางออก
มัลดีฟส์สร้างเมืองลอยน้ำ รับมือวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
“พลังงานนิวเคลียร์” จำเป็นต่อการลดภาวะโลกร้อนของเอเชีย?
ไม่ใช่แค่โลกร้อน มนุษย์กำลังทำให้สภาพภูมิอากาศโลก “โกลาหล”
ล่าสุด นักวิทยาศาสตร์ที่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) เชื่อว่า ในที่สุดพวกเขาอาจพบวิธีที่จะ “รีเวิร์ส” หรือ “ย้อนกลับ” วิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก หรืออย่างน้อยก็น่าจะช่วยบรรเทาได้ส่วนหนึ่ง
โดยนักวิจัยมองว่า การแก้ปัญหาจากในอวกาศน่าจะปลอดภัยกว่าหากหาวิธีป้องกันรับมือบนโลก ตัวอย่างเช่น ถ้าเราสามารถเบี่ยงเบนรังสีจากดวงอาทิตย์ที่ตกกระทบบนโลกได้ 1.8% ก่อนที่มันจะกระทบโลกของเรา เราจะสามารถย้อนกลับภาวะโลกร้อนในปัจจุบันได้อย่างเต็มที่
วิธีดังกล่าวคือการสร้าง “ฟองอวกาศ (Space Bubble)” หรือฟองสบู่ซิลิกอนที่มีลักษณะคล้ายฟิล์มบาง ๆ นำมาเชื่อมต่อกันให้เป็นเหมือนแพขนาดใหญ่เท่ากับประเทสบราซิล จากนั้นส่งออกไปในอวกาศเพื่อช่วยป้องกันหรือเบี่ยงเบนรังสีที่เป็นอันตรายจากดวงอาทิตย์
วิธีนี้อาจช่วยโลกได้อย่างมาก เมื่อพิจารณาว่า ไม่นานมานี้ นักวิทยาศาสตร์เพิ่งค้นพบ “รู” ในชั้นโอโซนของโลกเพิ่มขึ้นอีกรู ทำให้โลกมีเกราะป้องกันรังสีจากดวงอาทิตย์น้อยลงไปอีกขั้นหนึ่ง
เป้าหมายของ “ฟองอวกาศ” เหล่านี้คือการบรรเทาหรือ “ย้อนกลับ” การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
แผนใหม่เรื่องการสร้างฟองอวกาศนี้ เป็นแนวคิดที่เสนอโดยนักดาราศาสตร์ โรเจอร์ แองเจิล เดิมทีแองเจิลเคยแนะนำให้นำยานอวกาศขนาดเล็กมาทำเป็น “เมฆ” ที่จะคอยบดบังรังสีจากดวงอาทิตย์
นักวิจัยที่ MIT ได้ใช้แนวคิดเดียวกันนี้มาเป็นพื้นฐานในการต่อยอด และเปลี่ยนจากการทำเมฆยานอวกาศมาเป็นฟองซิลิกอน
ความสามารถในการย้อนกลับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะเป็นก้าวสำคัญในทิศทางที่ถูกต้อง การป้องกันโลกจากการแผ่รังสีของดวงอาทิตย์เป็นเพียงส่วนหนึ่งของมันเท่านั้น เรายังต้องลดสิ่งอื่นด้วย
อาจมีคนสงสัยว่า “แพฟองอวกาศ” จะป้องกันโลกจากการแผ่รังสีของดวงอาทิตย์ได้อย่างไร? แนวคิดเบื้องต้นคือ จะส่งแพฟองอากาศไปที่จุดลากรองจ์ L1 (L1 Lagrangian Point) ซึ่งเป็นตำแหน่งระหว่างโลกและดวงอาทิตย์ซึ่งแรงโน้มถ่วงระหว่างดาวทั้งสองจะตัดกันพอดี ดังนั้น ในทางทฤษฎีแล้ว ฟองอวกาศจะสามารถลอยอยู่ได้ในอวกาศโดยไม่ถูกดวงอาทิตย์หรือโลกดึงดูดไป และจะอยู่ในตำแหน่งที่สามารถป้องกันหรือบดบังรังสีจากดวงอาทิตย์บางส่วนได้
แผนใหม่จากนักวิจัย MIT นี้ อาจทำให้มนุษย์เรามีโอกาสที่ดีในการย้อนกลับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรืออย่างน้อยก็ทำให้การเปลี่ยนแปลงช้าลง อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องมีการศึกษาความเป็นไปได้ รวมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นด้วย เช่น คนบางส่วนกังวลว่า การบดบังรังสีจากดวงอาทิตย์นี้ จะส่งผลถึงพืชที่ต้องดำรงชีวิตด้วยกระบวนการสังเคราะห์แสงหรือไม่
ทั้งนี้ MIT ไม่ได้มองว่าสิ่งนี้เป็นทางแก้ปัญหาในสถานการณ์ปัจจุบัน แต่เป็นแผนสำรองในกรณีที่สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเลวร้ายลงไปสู่ระดับที่ไม่สามารถควบคุมได้อีกแล้ว
ราคาน้ำมันโลกแกว่งตัว ไม่แน่นอนสูง อุปทานตึงตัวแต่เสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย
โควิดวันนี้ (14ก.ค.65) คร่าเสียชีวิตพุ่ง ป่วยปอดอักเสบกว่า 700 ราย
ภาพจาก MIT / Shutterstock