ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ยุโรปเผชิญกับคลื่นความร้อนที่ทำให้อุณหภูมิพุ่งแตะระดับ 40 องศาเซลเซียส ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า เป็นส่วนหนึ่งของผลกระทบที่เกิดจากภาวะโลกร้อนและวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอกาศ และในช่วงเวลาเดียวกัน ที่อีกภูมิภาคหนึ่งก็ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติเช่นกัน
นักวิทยาศาสตร์รายงานว่า สภาพอากาศที่อบอุ่นผิดปกติในภาคเหนือของกรีนแลนด์ทำให้น้ำแข็งเกิดการละลายอย่างรวดเร็ว โดยละลายกลายเป็นแม่น้ำที่ไหลลงสู่มหาสมุทร
“พลังงานนิวเคลียร์” จำเป็นต่อการลดภาวะโลกร้อนของเอเชีย?
ไม่ใช่แค่โลกร้อน มนุษย์กำลังทำให้สภาพภูมิอากาศโลก “โกลาหล”
ครั้งแรกในประวัติศาสตร์! ฝนตกบนยอดภูเขาน้ำแข็งของกรีนแลนด์
นักวิทยาศาสตร์บอกว่า ช่วงวันที่ 15-17 ก.ค. ที่ผ่านมา อุณหภูมิของกรีนแลนด์ได้พุ่งไปสูงถึง 15 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าปกติถึง 5 องศาเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ๆ
ผลจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น ทำให้ปริมาณน้ำแข็งที่ละลายในกรีนแลนด์ระหว่างวันที่ 15-17 ก.ค. สูงถึง “6 พันล้านตันต่อวัน” ซึ่งเพียงพอที่จะเติมสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิกได้ถึง 7.2 ล้านสระ ตามข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลหิมะและน้ำแข็งแห่งชาติสหรัฐ (NSIDC) หรือเทียบได้กับ 1 ใน 3 ของพื้นที่ประเทศไทย
เท็ก สแคมโบส นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยอาวุโสของ NSIDC มหาวิทยาลัยโคโลราโด กล่าวว่า “การละลายของน้ำแข็งในพื้นที่ทางเหนือของกดรีนแลนด์ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องปกติ เมื่อดูจากค่าเฉลี่ยสภาพอากาศในช่วง 30-40 ปีที่ผ่านมา ... การละลายได้เพิ่มขึ้น และเหตุการณ์นี้ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในการหลอมละลาย"
คูทัลมิส เซย์ลัม นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยของมหาวิทยาลัยเทกซัส ซึ่งปัจจุบันประจำการอยู่ที่กรีนแลนด์ กล่าวว่า ความอบอุ่นที่เกิดขึ้นในกรีนแลนด์เป็นเรื่องที่น่าตกใจ “มันทำให้ฉันกังวล เมื่อวานนี้ เราสามารถเดินเล่นไปรอบ ๆ โดยใส่แค่เสื้อยืดได้ ซึ่งเราไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่ามันจะเกิดขึ้น”
ทุกครั้งที่ฤดูร้อนเวียนมาถึง นักวิทยาศาสตร์จะกังวลว่า พวกเขาจะเห็นการละลายของน้ำแข็งกรีนแลนด์มากน้อยเพียงใด โดยสถิติการละลายมากที่สุดเกิดขึ้นในปี 2019 เมื่อน้ำแข็งจำนวน 5.32 แสนล้านตันไหลลงสู่ทะเล จากคลื่นความร้อนในเดือน ก.ค. ในปีนั้น ทำให้พื้นผิวของแผ่นน้ำแข็งละลายเกือบทั้งหมด ผลลัพธ์ของมันทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มขึ้นถาวร 1.5 มิลลิเมตร
ก่อนหน้านี้มีการประเมินว่า หากน้ำแข็งบนกรีนแลนด์ละลายทั้งหมด จะทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นถาวร 7.5 เมตรทั่วโลก
ในปี 2020 นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐโอไฮโอพบว่า แผ่นน้ำแข็งของกรีนแลนด์กำลังละลายในอัตราที่ไม่มีวันหวนกลับ และกล่าวว่า ไม่มีความพยายามใดที่จะหยุดยั้งภาวะโลกร้อนได้อีกแล้ว พร้อมระบุว่า อัตราการละลายของน้ำแข็งกรีนแลนด์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้นสูงกว่าทุกสิ่งที่กรีนแลนด์เคยประสบในช่วง 12,000 ปีที่ผ่านมา
ภาวะโลกร้อนและวิกฤตสภาพภูมิอากาศกำลังส่งผลเสียร้ายแรงต่อสถานการณ์โลก เหตุการณ์ “น้ำท่วมโลก” ที่เราเคยได้อ่านจากหนังสือหรือเคยเห็นจากแค่ในภาพยนตร์ ในวันนี้มันอาจใกล้จะเป็นจริงขึ้นไปทุกทีแล้ว
เรียบเรียงจาก CNN
ภาพจาก AFP