รัสเซีย ยิงถล่มเมืองท่ายูเครน แม้เพิ่งบรรลุข้อตกลงส่งออกธัญพืช


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ข้อตกลงที่เปิดเส้นทางส่งออกธัญพืชของยูเครนตอนนี้อยู่ในความไม่แน่นอนเสียแล้ว หลังเมืองท่าสำคัญชายฝั่งทะเลดำของยูเครนถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากข้อตกลงดังกล่าวบรรลุได้เพียงหนึ่งวัน

สถานีวิทยุยูเครนถูกแฮก เผยแพร่ข่าวปลอม ปธน.ยูเครนกำลังป่วยหนัก

ส่งออกได้แล้ว! รัสเซีย-ยูเครนลงนามข้อตกลงส่งออกอาหาร-ธัญพืช

คลิปวิดีโอที่หน่วยบัญชาการกองทัพยูเครนภาคใต้เผยแพร่ออกมา อ้างว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากรัสเซียยิงขีปนาวุธใส่เมืองท่าโอเดสซาทางตอนใต้เมื่อวานนี้ (23 ก.ค.) ซึ่งจะเห็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังพยายามดับไฟที่กำลังไหม้เรือลำหนึ่ง 

โฆษกหน่วยบัญชาการกองทัพยูเครนภาคใต้ ระบุว่า รัสเซียได้โจมตีเมืองโอเดสซาด้วยขีปนาวุธร่อนคาลิบร์ (Kalibr) จำนวนหลายลูก ซึ่งยิงมาจากเรือรบในทะเลดำ

ปธน.ยูเครนขออาวุธจากชาติตะวันตกเพิ่ม หลังถูกถล่มหนัก

โดยกองกำลังป้องกันการโจมตีทางอากาศสามารถยิงสกัดได้ 2 ลูก ส่วนอีก 2 ลูกตกใส่ระบบสาธารณูปโภคของท่าเรือ ทำให้เกิดความเสียหายเล็กน้อย และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

โอเดสซาถูกโจมตีด้วยจรวด เป็นที่ชัดเจนว่าศัตรูเจตนาที่จะโจมตีท่าเรือโอเดสซา เพราะจรวดคาลิบร์ 4 ลูกถูกยิงจากทะเลดำมาทางนี้โดยเฉพาะ สองลูกถูกกองกำลังป้องกันการโจมตีทางอากาศสกัดไว้ได้ ขณะที่อีก 2 ลูกถูกระบบสาธารณูปโภคของท่าเรือ แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ระบบสาธารณูปโภคของท่าเรือไม่ได้รับความเสียหายหนัก จรวดตกใส่สถานีสูบน้ำ และทำให้เกิดไฟไหม้ซึ่งดับแล้ว

อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีกระทรวงโครงสร้างพื้นฐานของยูเครน ระบุว่า ทางการจะยังเตรียมการเพื่อเริ่มส่งออกผลิตผลการเกษตรจากท่าเรือในทะเลดำต่อไปตามข้อตกลง


 

เมื่อวันที่22 ก.ค. ผ่านมา รัสเซียและยูเครนได้บรรลุข้อตกลงยุติการปิดกั้นเส้นทางเดินเรือในทะเลดำเพื่อเปิดทางให้กับการส่งออกธัญพืช ที่กำลังเกิดปัญหาขาดแคลนและทำให้ประชากรโลกหลายสิบล้านคนตกอยู่สภาวะอดอยาก ซึ่งสหประชาชาติยกย่องข้อตกลงนี้ว่าเป็น “แสงแห่งความหวัง”

ภายใต้ข้อตกลง ซึ่งใช้เวลาเจรจาร่วม 2 เดือน รัสเซียตกลงที่จะไม่โจมตีเมืองท่าในทะเลดำขณะที่มีการขนส่งธัญพืช ขณะที่เจ้าหน้าที่ของตุรกี ยูเครน และสหประชาชาติจะประสานงานและติดตามการส่งออกตามเส้นทางที่วางแผนไว้ โดยข้อตกลงนี้มีระยะเวลาบังคับใช้ 120 วัน และจะมีการพิจารณาขยายเวลาเมื่อผ่านพ้นช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้ว หากทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน
 

ทั้งนี้รัสเซียและยูเครนเป็นประเทศส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ของโลก ขณะที่สงครามระหว่างสองประเทศทำให้ราคาอาหารทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นและทำให้ผู้คน 47 ล้านคนทั่วโลกเผชิญกับความหิวโหยฉับพลัน โดยคาดว่าธัญพืชที่เก็บเกี่ยวแล้วและรอส่งออกภายใต้ข้อตกลงล่าสุดนี้มีจำนวนประมาณ 20 ล้านตัน หรือคิดเป็นมูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ



ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวระหว่างพบปะกับคณะผู้แทนจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ที่กรุงเคียฟเมื่อวานนี้ว่า การโจมตีเมืองท่าโอเดสซาเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนและแสดงให้เห็นว่า รัสเซียนั้นเชื่อไม่ได้

"รัสเซีย ไม่ว่าจะพูดหรือสัญญาอะไร จะหาทางไม่ทำตามนั้น ในทางภูมิศาสตร์การเมือง ด้วยอาวุธที่มี จะนองเลือดหรือไม่ รัสเซียมีหลายฉากหน้า อย่างที่พวกเขาแสดงมาตลอด สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่ายูเครนจะเป็นประเทศที่อยู่ในความขัดแย้งที่ไม่มีทางออกทางการเมืองไม่ได้ เราต้องให้ยูเครนสามารถดำเนินการตามสมควรเพื่อปลดปล่อยดินแดนของเราได้" เซเลนสกี กล่าว

ทั้งนี้ ผู้นำยูเครนได้ให้คำมั่นด้วยว่า จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งระบบป้องกันภัยทางอากาศที่สามารถยิงสกัดขีปนาวุธประเภทดังกล่าวได้ในอนาคต


ด้านนายอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ซึ่งเป็นคนกลางประสานให้การลงนามข้อตกลงเปิดเส้นทางส่งออกธัญพืชร่วมกับประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป แอร์โดอัน ของตุรกี กล่าวประณามการโจมตีด้วยขีปนาวุธใส่เมืองโอเดสซาเมื่อวานนี้ และย้ำว่า รัสเซีย ยูเครน และตุรกี ต้องดำเนินการตามข้อตกลงอย่างเต็มที่

ขณะที่นายโจเซป บอร์เรลล์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป ระบุว่า การที่รัสเซียยิงขีปนาวุธใส่เมืองโอเดสซา ซึ่งเป็นจุดสำคัญของการส่งออกธัญพืชเพียงหนึ่งวันหลังบรรลุข้อตกลง เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจมาก และแสดงให้เห็นอีกครั้งว่า รัสเซียไม่เคารพกฎหมายระหว่างประเทศและคำมั่นสัญญาใดๆ เลย



เช่นเดียวกับนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่กล่าวประณามเหตุโจมตีดังกล่าวด้วยถ้อยคำรุนแรง โดยระบุว่าเป็นการทำลายความพยายามของสหประชาชาติ ตุรกี และยูเครนที่จะนำอาหารที่จำเป็นออกสู่ตลาดโลก และรัสเซียต้องรับผิดชอบที่ทำให้วิกฤตอาหารโลกเลวร้ายขึ้น

อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีกลาโหมของตุรกีกล่าวว่า เจ้าหน้าที่รัสเซียบอกว่า รัสเซียไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีท่าเรือเมืองโอเดสซาของยูเครน และกำลังตรวจสอบกรณีดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและโดยละเอียด ซึ่งทางการตุรกีมีความกังวลอย่างมากที่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นทันทีหลังจากที่บรรลุข้อตกลง
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่า ยังบอกไม่ได้ว่าการโจมตีของรัสเซียนั้นหมายความว่าข้อตกลงดังกล่าวพังทลายลงแล้วหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้ข้อตกลงอยู่ในความไม่แน่นอน

ขณะที่เกษตรกรยูเครน ก็ยังกังวลว่าข้อตกลงดังกล่าวจะเป็นหลักประกันให้ส่งออกธัญพืชอย่างปลอดภัยได้จริงหรือไม่ โดยพวกเขายังคงเคลือบแคลงในเจตนาของรัสเซีย



 โอเล็กซานดร์ ชูบุค หัวหน้าสมาคมผู้ครอบครองที่ดินและเกษตรกร ระบุว่า "ข้อตกลงนี้ไม่มีความหมายอะไรเลยสำหรับผม ตุรกีและสหประชาชาติลงนามข้อตกลงกับประเทศที่ใครๆ ก็รู้ว่าไม่เคยปฏิบัติตามได้อย่างไร ประเทศที่ไม่ทำตามข้อตกลง และจะละเมิดข้อตกลงเมื่อไหร่ก็ได้ มันเกิดขึ้นตลอดเวลา ทุกคนรู้ทุกคนเห็น แต่เราก็ยังทำข้อตกลง(กับรัสเซีย)"

นอกจากนี้ เกษตรกรหลายคนต้องขายธัญพีชของตัวเองโดยลดราคาลงมา เนื่องจากยังมีผลผลิตที่เก็บเกี่ยวเมื่อปีที่แล้วค้างสต็อกจำนวนมาก เนื่องจากระบบขนส่งและโลจิสติกยังไม่กลับมาเป็นปกติ ซึ่งถ้าข้อตกลงเปิดเส้นทางส่งออกทำได้จริง เกษตรกรก็น่าจะขายผลผลิตได้ราคาดีขึ้น

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ