เป็นที่ทราบกันดีว่า เป้าหมายในการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนและวิกฤตสภาพภูมิอากาศโลกในปัจจุบัน คือการพยายามควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับยุคก่อนอุตสาหกรรม ด้วยการพยายามลดการปล่อยคาร์บอน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดพฤติกรรมและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่จะส่งผลเสียต่อโลก โดยการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกในปัจจุบันอยู่ที่ราว 1.1-1.2 องศาเซลเซียส
น้ำแข็งกรีนแลนด์ ละลายในอัตรา “6 พันล้านตันต่อวัน”
น้ำแข็งละลายที่ไอซ์แลนด์ แต่ทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นที่อีกฟากของโลก
น้ำแข็งบนเอเวอเรสต์ที่ใช้เวลา 2,000 ปีในการก่อตัว ละลายหายไปใน 25 ปี
และแม้จะมีการประชุม COP26 ไปเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งหลายชาติต่างรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะลดสิ่งที่เป็นภัยต่อโลก แต่ทั้งโควิด-19 และสงครามรัสเซีย-ยูเครนก็ส่งผลลบต่อความพยายามเหล่านั้น อย่างเช่น เยอรมนี ที่เจอมาตรการตอบโต้จากรัสเซียที่ลดการส่งก๊าซธรรมชาติ ทำให้อาจต้องหันไปพึ่งพาโรงไฟฟ้าถ่านหินมากขึ้น ทั้งที่ตามแผนควรจะลดลง
อย่างไรก็ตาม แม้อุณหภูมิโลกขณะนี้จะยังเพิ่มขึ้นไปไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส แต่ผลกระทบจากโลกร้อนที่เกิดขึ้นบางอย่าง ก็กลายเป็น “สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้” ไปแล้ว
การศึกษาวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Climate Change ระบุว่า จากสภาพการณ์ในปัจจุบัน “น้ำแข็งจากกรีนแลนด์จะละลายจนทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้น 27 เซนติเมตรอย่างแน่นอนแล้ว โดยไม่สามารถแก้ไขได้แม้จะลดการปล่อยมลพิษก็ตาม”
ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวคาดว่าจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ โดยหากโลกเย็นลง ระดับน้ำทะเลก็จะเพิ่มขึ้นเท่านี้อยู่ดี และหากโลกร้อนขึ้นไปอีก ระดับน้ำทะเลก็อาจเพิ่มขึ้นไปสูงถึง 78 เซนติเมตร
ระดับน้ำทะเลที่จะเพิ่มขึ้น 27 เซนติเมตรนี้ เป็นปริมาณเท่ากันกับที่ทะเลทั่วโลกได้เพิ่มขึ้นในช่วงศตวรรษที่ผ่านมาจากการละลายของน้ำแข็งในกรีนแลนด์และแอนตาร์กติกา และการขยายตัวของน้ำทะเลเจากอุณหภูมิที่อุ่นขึ้น
เจสัน บ็อกซ์ นักวิทยาศาสตร์จากสำนักการสำรวจทางธรณีวิทยาของเดนมาร์กและกรีนแลนด์ (GEUS) หัวหน้าทีมวิจัย กล่าวว่า ประมาณ 3.3% ของแผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์ ซึ่งเทียบเท่ากับน้ำแข็ง 110 ล้านล้านตัน จะละลายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นแล้ว
“ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นจากน้ำแข็งที่ละลายนี้จะเกิดขึ้นโดยไม่คำนึงถึงทิศทางภูมิอากาศในอนาคตอันใกล้ในศตวรรษนี้” บ็อกซ์กล่าว โดยคาดการณ์ว่า การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเลนี้อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ปัจจุบันไปจนถึงปลายศตวรรษนี้
มีการประเมินว่า หากน้ำแข็งในกรีนแลนด์ละลายหมด จะทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นประมาณ 7.5 เมตรทั่วโลก แต่การเพิ่มขึ้นนี้จะไม่ได้เพิ่มขึ้นเท่ากันทั่วทั้งโลก จะมีบางพื้นที่น้ำเพิ่มขึ้นกว่าที่อื่นและบางพื้นที่ระดับน้ำทะเลลดลง
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ระหว่างวันที่ 15-17 ก.ค. ที่ผ่านมา น้ำแข็งกรีนแลนด์ละลายไปในอัตราสูงถึง 6 พันล้านตันต่อวัน จากสภาพอากาศที่อบอุ่นผิดปกติในภาคเหนือของกรีนแลนด์
นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีแนวโน้มกำลัง “เร่งตัวขึ้น” ค่อนข้างชัดเจน และหากไม่มีการควบคุมการปล่อยมลพิษอย่างทันท่วงที เหตุการณ์ที่รุนแรงอีกมากจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
เรียบเรียงจาก CNN
ภาพจาก AFP
ภาวะโลกร้อน ทำให้ลูกเต่าทะเลในฟลอริดาฟักออกมาเป็นตัวเมียทุกตัว 4 ปีติด