“ยูกอฟ” (YouGov) บริษัทวิจัยตลาดและวิเคราะห์ข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตระดับนานาชาติของอังกฤษ ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน 2,488 คน ทันทีหลังจากพรรคอนุรักษ์นิยม ประกาศให้ ลิซ ทรัสส์ เป็นผู้ชนะในการโหวตเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ ที่จะดำรงแหน่งนายกรัฐมนตรีแทน บอริส จอห์นสัน ที่ลงจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการวันนี้ ( 6 กันยายน 2565)
โดยผลการสำรวจพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม 50 % รู้สึกผิดหวังที่ได้ ลิซ ทรัสส์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่
“ลิซ ทรัสส์”ชนะโหวต ขึ้นเป็นนายกฯอังกฤษคนใหม่
แก้ราคาพลังงานพุ่ง ภารกิจใหญ่ผู้นำสหราชอาณาจักรคนใหม่
ส่วนประเด็นค่าครองชีพที่พุ่งสูงจนเข้าขั้นวิกฤต มีเพียง 20 % เท่านั้นที่มั่นใจว่าเธอจะแก้ไขปัญหานี้ได้ ขณะที่ 67 % ไม่เชื่อว่าเธอมีความสามารรถพอแก้ปัญหานี้ได้
ขณะที่เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับ บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีที่จะพ้นจากตำแหน่งวันนี้ มีเพียง 14 % ที่เชื่อวาเธอทำงานได้ดีกว่า และ 27 % เชื่อว่าเธอจะทำงานได้แย่กว่า บอริส จอห์นสัน
ขณะที่ เออร์ซูลา วอน เดอ เลย์เยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ได้แสดงความยินดีกับ ลิซ ทรัสส์ ที่ได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ พร้อมย้ำว่าทั้งสหราชอาณาจักร และ สหภาพยุโรปยังต้องทำงานร่วมมือดันในหลายเรื่องตั้งแต่ปัญหาโลกร้อนไปจนถึงสงครามในยูเครน แต่ย้ำว่ารัฐบาลชุดใหม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อตกลงถอนตัวจากสหภาพยุโรป หรือ Brexit ที่ทำไว้ก่อนหน้านี้
ส่วนจอห์น แคมฟ์เนอร์ (John Kampfner) ผู้อำนวยการบริหารโครงการยูเคอินเดอะเวิลด์ อินิชิเอทีฟ (UK in the World Initiative ) ของ "ชาธัมเฮาส์" (Chatham House) ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยนโยบายระหว่างประเทศให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ว่า ตลอดหลายปีที่เฝ้าติดตามการเมืองในสหราชอาณาจักร เขาไม่เคยคิดว่าจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่คนใดที่จะต้องรับตำแหน่งในช่วงที่มีปัญหามากมายท่ามกลางสถานการณ์เลวร้ายเช่นนี้ ซึ่งแม้ว่าทุกประเทศทั่วโลกและยุโรปกำลังเผชิญปัญหามากมาย แต่อังกฤษกำลังเกิดปัญหาต่าง ๆ ที่รุนแรงกว่าประเทศอื่น ๆ ที่มีขนาดเศรษฐกิจขนาดใหญ่
โควิดวันนี้ (6ก.ย.65) ติดเชื้อเพิ่ม 1,062 ราย ปอดอักเสบ 694 ราย