ลิซ ทรัสส์ ที่เพิ่งได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมคนใหม่เดินทางไปยังสก็อตแลนด์ และเข้าเฝ้าฯสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่2 ที่ปราสาท “แบล-มอ-รัล” (Balmoral) เพื่อให้พระองค์ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ โดยมี ลิซ ทรัสส์ เป็นนายกรัฐมนตรี โดย ทรัสส์ จะทำหน้าที่ผู้นำสหราชอาณาจักร แทน บอริส จอห์นสัน ซึ่งเข้าเฝ้าพระองค์ที่ปราสาท “แบล-มอ-รัล”เช่นกันเพื่อทูลเกล้าฯถวายหนังสือลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
"อนุทิน" ปฏิเสธรับไม้ต่อ "ประยุทธ์" สืบทอดตำแหน่งนายกฯ เผย สัมพันธ์ 3 ป. ไม่มีปัญหา
"ประวิตร"นั่งหัวโต๊ะนำถกคณะกรรมการฉุกเฉินชายแดนใต้ ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวว่ารัฐบาลอังกฤษชุดใหม่มีแผนจะเสนอเงินกู้ให้กับบริษัทผู้ผลิตพลังงานเพื่อตรึงอัตราค่าไฟเป็นระยะเวลา 18 เดือน หลังจากมีแนวโน้มว่าในเดือน ต.ค.นี้ ชาวอังกฤษจะต้องเผชิญกับค่าไฟที่พุ่งสูงขึ้นอีก 80 เปอร์เซนต์
นอกจากปัญหาราคาพลังงาน ที่ทรัสส์ ยืนยันว่าจะลงมือแก้ไขโดยทันทีแล้ว เธอระบุว่ายังมีอีก 2 วาระร่งด่วนที่เธอต้องเร่งผลักดัน คือการปรับลดอัตราภาษีเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ และ การสร้างหลักประกันว่าประชาชนจะสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ของสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติได้เมื่อจำเป็น
โดยนายกรัฐมนตรี คนใหม่ของสหราชอาณาจักรแสดงความมั่นใจว่าหากทุกฝ่ายร่วมมือกัน ประเทศก็จะสามารถผ่านพ้นอุปสรรคที่เกิดขึ้นในเวลานี้ไปได้และก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่รุ่งเรือง
ขณะเดียวกัน โผคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของ ทรัสส์ ยังสร้างประวัติศาสตร์ให้กับการเมืองอังกฤษ เพราะเป็นครั้งแรกที่ไม่มีผู้ชายผิวขาวดำรงตำแหน่งสำคัญทั้ง 4 ทั้งตำแหน่ง
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังตกเป็นของ ควาซี ควาเต็ง (Kwasi Kwarteng) ซึ่งจะเป็นนักการเมืองผิวสีคนแรกที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าว เช่นเดียวกับ เจมส์ เคลฟเวอลี (James Cleverly) ที่กลายเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศผิวสีคนแรกของสหราชอาณาจักร
ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้แก่ นักการเมืองหญิง ซูเอลลา เบรเวอร์แมน (Suella Braverman) และ เพนนี มอร์ดันท์ (Penny Mordaunt ) จะทำหน้าที่เป็นผู้นำสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งดูแลงานด้านการออกกฎหมายให้รัฐบาล
ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “หินหนามหน่อ” ถล่มเกาหลีใต้ ตาย 2 สูญหาย 10
รัสเซียยื่นเงื่อนไขชาติยุโรป ไม่เลิกคว่ำบาตร ไม่เปิดท่อส่งก๊าซธรรมชาติ