เมื่อวานนี้ (14 ก.ย.) รถยนต์ที่ โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธบดียูเครน นั่งมา เกิดเหตุถูกรถยนต์คันอื่นเฉี่ยวชนระหว่างเดินทางในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน หลังเสร็จสิ้นภารกิจเดินทางเยือนเมืองอิซูม พื้นที่ในภาพตะวันออกเฉียงเหนือที่ยึดคืนมาได้จากรัสเซีย
ทีมโฆษกประธานาธิบดีแถลงว่า “เซเลนสกีไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง” จากเหตุที่มีรถคันหนึ่งชนเข้ากับรถของประธานาธิบดีและรถคุ้มกัน โดยแพทย์ประจำคณะเดินทางได้ปฐมพยาบาลคนขับรถและพาเขาไปที่รถพยาบาล
จนท.รัสเซียเคยเสนอแผนแบบไม่จำเป็นต้องบุกยูเครน แต่ปูตินปฏิเสธ
จับตา "สี จิ้นผิง" พบ "ปูติน" สัปดาห์นี้
ปลิวตามคาด! ผู้พิพากษาสั่งยุบสภาเขตเทศบาลที่เรียกร้องให้ปูตินลาออก
“ส่วนประธานาธิบดีก็ได้รับการตรวจโดยแพทย์ ไม่พบอาการบาดเจ็บร้ายแรงใด” แถลงการณ์ระบุ
เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ว่าเป็นอุบัติเหตุ หรือเจตนา และมีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่
ก่อนเกิดเหตุ เซเลนสกีเพิ่งเดินทางไปลงพื้นที่ให้กำลังใจเมืองอิซูม ในภูมิภาคคาร์คิฟ ทางตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อขอบคุณทหารที่ขับไล่ทหารรัสเซียออกไปได้ และยืนยันว่าพร้อมจะให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาตรวจสอบเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ที่ยูเครนยึดคืนมาได้ พร้อมทั้งย้ำว่าความโหดร้ายที่เกิดในเมืองอิซูมนี้ล้วนเป็นฝีมือของรัสเซียทั้งสิ้น
“ภาพที่เห็นดูน่าตกใจมาก แต่ผมไม่แปลกใจเลย เพราะเราเห็นภาพลักษณะเดียวกันนี้มาแล้วที่เมืองบูชา และเมืองอื่น ๆ ที่เรายึดคืนมาได้ในช่วงแรกๆ ทั้งภาพอาคารที่ได้รับความเสียหาย ประชาชนถูกสังหาร ผมจะพูดอะไรดีล่ะ นี่เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์เรา ส่วนหนึ่งของรัสเซียยุคใหม่ สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ล้วนเป็นฝีมือของรัสเซีย” เซเลนสกีกล่าว
โดยเซเลนสกียังได้ยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที และร่วมร้องเพลงชาติยูเครน เพื่อรำลึกถึงทหารยูเครนที่สละชีวิตกอบกู้แผ่นดินที่ถูกยึดไปกลับคืนมา
นอกจากนี้ กองทัพยูเครนยังเปิดเผยว่ากองทัพรัสเซียได้ลดระดับความเข้มข้นในการยิงโจมตีพื้นที่ต่าง ๆ ในภูมิภาคคาร์คิฟอย่างเห็นได้ชัด หลังฝ่ายยูเครนประสบความสำเร็จในปฏิบัติการรุกกลับ
เรียบเรียงจาก CNN
ภาพจาก AFP