เมื่อวานนี้ (18 ธ.ค.) เกาหลีใต้และญี่ปุ่นรายงานว่า ตรวจพบเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 2 ลูก นอกชายฝั่งด้านตะวันออก แต่เมื่อเช้าวันนี้ (19 ธ.ค.) สื่อ KCNA ของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า สิ่งที่ทำการทดสอบไปล่าสุดนั้น ไม่ใช่ขีปนาวุธ แต่เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนา “ดาวเทียมสอดแนม”
KCNA ระบุว่า “เกาหลีเหนือได้ทำการทดสอบเฟสสุดท้ายที่สำคัญ” ในโครงการพัฒนาดาวเทียมสอดแนม
เกาหลีเหนือเล็งพัฒนาอาวุธใหม่ “ขีปนาวุธเชื้อเพลิงแข็ง”
"เกาหลีใต้" โละวิธีนับอายุแบบดั้งเดิม
เกาหลีเหนือ-รัสเซีย มิตรภาพงอกงามในวันที่ถูกโลกหันหลังให้
โดย คณะกรรมการพัฒนาโครงการอวกาศแห่งชาติเกาหลีเหนือ (NADA) ทำการทดสอบที่สถานีปล่อยดาวเทียมโซแฮ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เพื่อประเมินศักยภาพของระบบควบคุมภาคพื้นดิน การถ่ายภาพดาวเทียม และการโอนถ่ายข้อมูล
ยานที่ทดสอบมีการติดตั้งดาวเทียมจำลองเอาไว้ ซึ่งประกอบไปด้วยกล้องถ่ายภาพหลายตัว ตัวโอนย้ายภาพถ่าย และตัวรับ อุปกรณ์ควบคุม และแบตเตอรี่ ก่อนจะมีการยิงออกไปเป็นระยะทาง 500 กิโลเมตร
โฆษกคณะกรรมการพัฒนาโครงการอวกาศแห่งชาติของเกาหลีเหนือกล่าวว่า “เรายืนยันตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่สำคัญ เช่น เทคโนโลยีการทำงานของกล้องในสภาพแวดล้อมอวกาศ ความสามารถในการประมวลผลและส่งข้อมูลของอุปกรณ์สื่อสาร ความแม่นยำในการติดตามและควบคุมของระบบควบคุมภาคพื้นดิน”
โฆษกยังเรียกการทดสอบดังกล่าวว่าเป็น “ขั้นตอนสุดท้ายของการทดสอบดาวเทียมสำรวจ” ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย. 2023
นอกจากนี้ สำนักข่าวกลางของทางการเกาหลีเหนือยังเผยแพร่ภาพถ่ายสีขาวดำและมีความคมชัดต่ำ ของกรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ และเมืองอินชอน ซึ่งเป็นเมืองท่าและเป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติ โดยสื่อเกาหลีเหนืออ้างว่า ถ่ายได้จากการทดสอบเมื่อวานนี้
ส่วนเมื่อวานนี้ เกาหลีใต้ออกมาประณามเกาหลีเหนือสำหรับการสร้างความตึงเครียดครั้งล่าสุดนี้ โดยคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งชาติได้เรียกประชุม หลังจากเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธสองลูกเมื่อวานนี้ ด้านทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ระบุว่า การที่เกาหลีเหนือเดินหน้ายั่วยุและพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธ ยิงทำให้เป็นอันตรายต่อตัวเกาหลีเหนือเอง
ด้าน อิโนะ โทชิโระ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า ขีปนาวุธทั้ง 2 ลูก เป็นขีปนาวุธพิสัยกลาง ถูกยิงออกไปในเวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยทิ้งระยะเวลาห่างกันไม่ถึงชั่วโมง
ขีปนาวุธทั้ง 2 ลูกทำระยะได้ไกล 500 กิโลเมตร วิถีเป็นเส้นโค้งวงกลม ทำเพดานบินได้สูงสุด 550 กิโลเมตร แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายใด ๆ เกิดขึ้นกับเรือหรืออากาศยานของญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นขอประณามการกระทำของเกาหลีเหนือในครั้งนี้อย่างรุนแรง
ความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือมีขึ้นไม่กี่วัน หลังจากที่ คิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ลงพื้นที่สังเกตการณ์การทดสอบเครื่องยนต์ขีปนาวุธรุ่นใหม่ด้วยตนเอง
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เครื่องยนต์ดังกล่าวเป็นเครื่องยนต์เชื้อเพลิงแข็งประสิทธิภาพสูง เพื่อรองรับขีปนาวุธชนิดใหม่ เนื่องจากขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ที่เกาหลีเหนือมีอยู่ในขณะนี้ล้วนแต่ใช้เครื่องยนต์เชื้อเพลิงเหลว
ทั้งนี้ ตลอดปีที่ผ่านมา เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธอย่างต่อเนื่อง โดยไม่สนใจเสียงประณามหรือมาตรการเตือนของนานาชาติ ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ชนิดใหม่ ที่สามารถโจมตีได้ไกลถึงแผ่นดินสหรัฐฯ
โดยเมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธชนิดดังกล่าว ไปตกห่างจากชายฝั่งของญี่ปุ่นเพียง 200 กม.
ข้อมูลจากรัฐบาลญี่ปุ่นชี้ว่า ตลอดปี 2022 เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธไปแล้วทั้งหมด 35 ครั้ง เฉพาะปลายเดือน ก.ย. - พ.ย. ทดสอบไปแล้วถึง 16 ครั้ง
ภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาค ทั้งจากจีนและเกาหลีเหนือ ยังทำให้ญี่ปุ่นประกาศทุ่มงบทางทหารราว 320,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 11 ล้านล้านบาท ภายในเวลา 5 ปี ซึ่งถือเป็นการเสริมเขี้ยวเล็บให้กองทัพครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
เรียบเรียงจาก Reuters
ภาพจาก AFP