ที่ประชุม 15 ประเทศสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC เมื่อวานนี้ลงคะแนนเสียงเห็นชอบร่างมติที่จัดทำโดยประเทศอังกฤษ หนึ่งในสมาชิกถาวรที่เรียกร้องให้รัฐบาลทหารเมียนมาร์ยุติความรุนแรงและปล่อยตัว นาง ออง ซานซูจี อดีตที่ปรึกษาแห่งรัฐรวมไปถึงนักโทษการเมืองคนอื่นๆ ทั้งหมด
บาบารา วู๊ดเวิร์ด เอกอัคราชทูตอังกฤษประจำสหประชาชาติ ระบุภายหลังการลงคะแนนเสียงว่า มติดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณอย่างจริงจังถึงรัฐบาลทหารเมียนมาร์ว่าควรต้องให้ความเคารพและปฏิบัติตามอย่างปราศจากข้อสงสัย
รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน หารือวิกฤตเมียนมา หนุนฉันทามติ 5 ข้อ
สหรัฐฯ สนับสนุนยูเครน ประกาศมอบขีปนาวุธแพทริออต สู้เพื่อสันติภาพ
และเป็นการแสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าของความพยายามจากนานาชาติในการปกป้องสิทธิ รวมถึงประโยชน์โดยส่วนรวมของชาวเมียนมาร์
อย่างไรก็ตาม รัสเซีย และจีน ซึ่งทั้ง 2 ประเทศเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงเช่นกันได้งดออกเสียงในการลงมติเมื่อวานนี้ โดยนาง จาง จุน เอกอัคราชทูตจีนประจำสหประชาชาติให้เหตุผลว่า แม้จีนจะมีความกังวลต่อสถาสถานการณ์ในเมียนมาร์เช่นกัน แต่ไม่มีวิธีการใดที่แก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว และผู้ที่จะหาทางออกได้ก็ควรต้องเป็นเมียนมาร์เองเท่านั้น
ส่วนนาย วาซิลลี เนเบนเซีย เอกอัคราชทูตรัสเซีย ระบุว่าสถานการณ์ในเมียนมาร์ไม่ภัยคุกคามตาอสันติภาพและความมั่นคงของโลก ดังนั้นจึงไม่อยู่ในความรับผิดชอบของคระมนตรีความมั่นคง
สำหรับความเคลื่อนไหวดังกล่าวนับเป็นครั้งแรกในรอบ 74 ปี ที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีมติเกี่ยวข้องกับเมียนมาร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ คณะมนตรีดังกล่าวได้ตกลงกันที่จะออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการในปี 2017 ซึ่งกองทัพเมียนมาร์ถูกกล่าวหาว่าปราบปรามชาวโรฮิงญา