เกาหลีเหนือ ยอมรับยิงขีปนาวุธข้ามทวีป “ฮวาซอง-15” พร้อมตอบโต้ศัตรู


โดย PPTV Online

เผยแพร่




สถานการณ์ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีร้อนแรงอีกครั้ง หลังเกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยไกลตกลงในทะเลนอกชายฝั่งตะวันตกของญี่ปุ่น ล่าสุดรัฐบาลเกาหลีเหนือ ยืนยันว่า ขีปนาวุธดังกล่าวเป็นขีปนาวุธข้ามทวีป “ฮวาซอง-15” ชี้การทดสอบครั้งนี้แสดงให้เห็นความพร้อมในการโต้กลับศัตรูอย่างทรงพลังของเกาหลีเหนือ

เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพิสัยไกล ตกทะเลญี่ปุ่น

อียูเล็งลงขันซื้อเครื่องกระสุน ช่วยเหลือยูเครน

สำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ หรือ KCNA ระบุว่า การซ้อมยิงขีปนาวุธข้ามทวีปฮวาซอง-15 เป็นการฝึกซ้อมที่เกิดขึ้นแบบจู่โจมตามคำสั่งของ ‘คิม จอง อึน’ ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ โดยระบุว่าขีปนาวุธดังกล่าวเคลื่อนที่ออกไปเป็นระยะทาง 989 กิโลเมตร เป็นเวลาเกือบ 67 นาที ที่ระดับความสูง 5,768 กิโลเมตร

สื่อรัฐบาลเกาหลีเหนืออ้างว่า การทดสอบขีปนาวุธครั้งนี้เป็นหลักฐานยืนยันความสามารถของเกาหลีเหนือในการโต้กลับด้วยอาวุธนิวเคลียร์ร้ายแรงต่อกองกำลังศัตรู

ขณะที่ในแถลงการณ์อีกฉบับของ ‘คิม โย จอง’ น้องสาวของผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ระบุถึงความไม่พอใจต่อสหรัฐฯ โดยชี้ว่า สหรัฐฯ พยายามเปลี่ยนคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ให้กลายเป็น “เครื่องมือในการดำเนินนโยบายเป็นปรปักษ์มุ่งร้ายต่อเกาหลีเหนือ”

คิม โย จอง ยังระบุด้วยว่า เกาหลีเหนือจะจับตามองทุกความเคลื่อนไหวของศัตรูและจะดำเนินการตอบโต้ที่สอดคล้องและทรงพลังต่อทุกความเคลื่อนไหวนั้น แต่ก็บอกว่ากรุงโซลของเกาหลีใต้ไม่ใช่เป้าหมายของขีปนาวุธเกาหลีเหนือ

สำหรับการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลของเกาหลีเหนือมีขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ โดยเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเกาหลีเหนือได้ขู่ว่าจะ “ตอบโต้อย่างหนักแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” หากสหรัฐฯ และเกาหลีใต้เดินหน้าแผนการซ้อมรบร่วม

คำขู่นี้ของเกาหลีเหนือมีขึ้นไม่ถึง 2 ชั่วโมง หลังเกาหลีใต้ประกาศว่า ในสัปดาห์หน้าจะมีการฝึกซ้อมร่วมแผนบนโต๊ะ หรือ Tabletop exercises เพื่อมุ่งพัฒนาปฏิบัติการของสินทรัพย์นิวเคลียร์สหรัฐฯ รวมถึงจะมีการซ้อมรบร่วมประจำปีตามปกติในเดือนหน้า ซึ่งเกาหลีเหนือยืนยันว่าการซ้อมรบใด ๆ ก็ตามระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้เท่ากับเป็นการฝึกซ้อมรุกรานเกาหลีเหนือ

ทั้งนี้ การทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปของเกาหลีเหนือเมื่อวาน ถือเป็นการทดสอบขีปนาวุธครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นมา

นายกรัฐมนตรี ‘ฟูมิโอะ คิชิดะ’ ของญี่ปุ่นระบุว่า ขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือทดสอบตกลงในพื้นที่ทะเลเขตเศรษฐกิจจำเพาะทางตะวันตกของเกาะฮอกไกโด ยังไม่มีรายงานว่าขีปนาวุธดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับเรือหรือเครื่องบิน แต่ผู้นำญี่ปุ่นประณามการกระทำของเกาหลีเหนือและชี้ว่านี่เป็นการคุกคามประชาคมโลก ซึ่งญี่ปุ่นจะติดตามสถานการณ์ รวมถึงทำงานร่วมกันสหรัฐฯ และเกาหลีใต้อย่างใกล้ชิด

ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ ก็ประณามว่าการทดสอบขีปนาวุธล่าสุดของเกาหลีเหนือเป็นการละเมิดมติของ UNSC อย่างโจ่งแจ้ง โดยแถลงการณ์ของสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่าแม้จากการประเมินพบว่าการทดสอบขีปนาวุธดังกล่าวไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับกองกำลังหรือดินแดนของสหรัฐฯ ตลอดจนของพันธมิตร แต่การกระทำนี้ก็เพิ่มความตึงเครียดและความไร้เสถียรภาพให้กับภูมิภาคอย่างไม่จำเป็น รวมถึงสะท้อนให้เห็นว่าเกาหลีเหนือยังคงเดินหน้าให้ความสำคัญกับอาวุธทำลายล้างสูงและโครงการขีปนาวุธเหนือกว่าความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน โดยสหรัฐฯ เรียกร้องให้เกาหลีเหนือหยุดการกระทำสั่นคลอนเสถียรภาพและร่วมการเจรจาอย่างจริงจัง

สอดคล้องกับ ‘แอนโทนี บลิงเคน’ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่อยู่ระหว่างร่วมการประชุมด้านความมั่นคงมิวนิกในเยอรมนี ที่แถลงนอกรอบการประชุมพร้อมรัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ โดยบลิงเคนเรียกร้องให้นานาชาติร่วมประณามการกระทำของเกาหลีเหนือและดำเนินมาตรการคว่ำบาตรอย่างมีประสิทธิภาพ

แม้โครงการขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือจะถูกคว่ำบาตรจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แต่เกาหลีเหนือก็ยืนยันว่าการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์จำเป็นสำหรับการต่อต้าน “นโยบายที่เป็นปรปักษ์” ของสหรัฐฯ และพันธมิตร เมื่อปีที่แล้วเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธบ่อยเป็นประวัติการณ์ ส่วนท่าทีของคิม จอง อึน ตั้งแต่เริ่มปีนี้ก็ถูกมองเป็นการส่งสัญญาณว่า เกาหลีเหนือไม่มีความต้องการยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์

เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา คิม จอง อึน ได้เรียกร้องให้มีการเพิ่มคลังแสงนิวเคลียร์ของประเทศเป็นเท่าทวีคูณ และย้ำความจำเป็นในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีเป็นจำนวนมาก

ส่วนเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ เกาหลีเหนือยังได้นำขีปนาวุธข้ามทวีปอย่างน้อย 11 ลูก มาจัดแสดงในการสวนสนามของกองทัพในกรุงเปียงยาง โดยนี่ถูกเรียกว่าเป็นการจัดแสดงครั้งใหญ่ที่สุดบรรดาผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือนำมาแสดงให้พาเหรดน่าจะเป็นขีปนาวุธข้ามทวีป “ฮวาซอง-17” ซึ่งในทางทฤษฎีแล้วนี่เป็นขีปนาวุธที่สามารถโจมตีได้ถึงแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯ โดยนักวิเคราะห์ด้านนโยบายนิวเคลียร์บางส่วนกังวลว่า หากขีปนาวุธแต่ละลูกในขบวนพาเหรดถูกนำมาติดหัวรบนิวเคลียร์หลายลูก ก็อาจเป็นจำนวนที่มากพอในการสร้างความยากในการรับมือให้กับระบบป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐฯ

และด้วยจำนวนของขีปนาวุธข้ามทวีป ตลอดจนการปรากฏตัวของ ‘คิม จู เอ’ ลูกสาวของคิม จอง อึน ซึ่งคาดการณ์กันว่าน่าจะถูกวางตัวให้เป็นผู้สืบทอดอำนาจ ยิ่งเป็นการส่งสัญญาณตอกย้ำว่า ผู้นำเกาหลีเหนือต้องการเดินหน้าโครงการพัฒนาขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ต่อไปจากรุ่นสู่รุ่น แม้ว่าจะมีข้อจำกัดด้านทรัพยากร และการเจรจากับสหรัฐฯ หยุดชะงักก็ตาม

ขณะที่ ‘พัค จิน’ รัฐมนตรีต่างประเทศของเกาหลีใต้ได้กล่าวระหว่างการร่วมประชุมที่มิวนิกเมื่อวานนี้ว่า การที่รัสเซียซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของเกาหลีเหนือรุกรานยูเครน และทำให้ความสนใจของทั่วโลกจับจ้องอยู่ที่สงครามในยุโรป คืออีกปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกาหลีเหนือกล้าแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป

โดยยังแสดงความกังวลถึงการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 7 ของเกาหลีเหนือที่อาจเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ ว่าอาจเป็นตัวเปลี่ยนเกมในแง่ที่ว่าเกาหลีเหนืออาจสามารถพัฒนาและติดตั้งขีปนาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธี ทั้งนี้ ครั้งสุดท้ายที่เกาหลีเหนือทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ก็คือเมื่อเดือนกันยายน ปี 2017

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ