หลังจากที่รัสเซียถูกนานาประเทศประกาศคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากการรุกรานยูเครน หลายฝ่ายคาดว่ารัสเซียจะได้รับผลกระทบด้านการส่งออกสินค้าสำคัญ โดยเฉพาะน้ำมัน ไม่มากก็น้อย แต่ในความเป็นจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อมีกองเรือปริศนาหลายร้อยลำ ยังคงทำหน้าที่ขนส่งน้ำมันรัสเซียให้กับผู้ซื้อทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ปริศนาสำคัญที่เกิดขึ้นคือ ไม่มีใครทราบเลยว่า เรือที่ขนส่งน้ำมันให้รัสเซียนี้เป็นเรือของใคร
แม้แต่ผู้ที่ใช้เวลาทั้งวันในการติดตามการเคลื่อนที่ของเรือข้ามมหาสมุทรทั่วโลกก็ยังพยายามค้นหาว่า ใครเป็นผู้ขนส่งน้ำมันให้รัสเซีย
มีแหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า เรือจำนวนมากขึ้นกำลังเข้าร่วมกองเรือบรรทุกน้ำมันลึกลับ หรือ “กองเรือเงา” ที่อำนวยความสะดวกในการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย
คนในวงการประเมินขนาดของกองเรือเงาว่าอยู่ที่ประมาณ 600 ลำ หรือประมาณ 10% ของจำนวนเรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ทั่วโลก และตัวเลขยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
การซื้อขายน้ำมันของรัสเซียมีความซับซ้อนมากขึ้นในปีที่ผ่านมา เรือรับจ้างส่งน้ำมันสัญชาติตะวันตกหลายรายจึงถอนตัวออก แทนที่โดยผู้ประกอบการใหม่ที่น่าสงสัย โดยในบางกรณีมีบริษัทที่มีแต่เปลือกนอก (Shell Company) ในดูไบหรือฮ่องกงมาเกี่ยวข้อง บางเจ้าซื้อเรือจากผู้ประกอบการยุโรป ในขณะที่บางรายก็นำเรือเก่า ๆ มาใช้
การขยายตัวของกองเรือเงาเน้นให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากสงครามของรัสเซียที่ได้นำมาสู่ตลาดน้ำมันทั่วโลก โดยลูกค้ารายใหญ่ที่ซื้อน้ำมันจากรัสเซียในขณะนี้คือจีนและอินเดีย
จีนเพิ่มการนำเข้าน้ำมันของรัสเซียเป็น 1.9 ล้านบาร์เรลต่อวันโดยเฉลี่ยในปี 2022 เพิ่มขึ้น 19% จากปี 20212 ส่วนอินเดียเพิ่มการซื้อน้ำมันรัสเซียมากขึ้นถึง 800% อยู่ที่เฉลี่ย 900,000 บาร์เรลต่อวัน ยังไม่นับรวมออเดอร์จากตุรกีที่เป็นอีกหนึ่งลูกค้าขาประจำ
เมื่อมีออเดอร์มากขนาดนี้ จำนวนเรือที่ต้องใช้ในการขนส่งน้ำมันก็ต้องมากตาม ซึ่งแค่กองเรือของรัสเซียไม่พอ จึงเป็นหน้าที่ของกองเรือเงาที่จะเข้ามาช่วยในส่วนนี้
แมทธิว ไรต์ นักวิเคราะห์อาวุโสด้านการขนส่งสินค้าของ Kpler บริษัทวิเคราะห์ข้อมูล บอกว่า กองเรือเงาที่ขนส่งน้ำมันรัสเซียแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือเรือสีเทา กับเรือสีมืด
เรือสีเทาเป็นเรือที่เจ้าของเดิมในยุโรปขายทิ้งตั้งแต่มีการรุกรานยูเครน โดยส่วนใหญ่ขายให้กับบริษัทในตะวันออกกลางและเอเชียที่ไม่เคยดำเนินธุรกิจเรือบรรทุกน้ำมันมาก่อน ส่วนเรือสีมืดเป็นเรือเก่าของอิหร่านและเวเนซุเอลาเพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก ซึ่งเพิ่งเปลี่ยนมาบรรทุกน้ำมันดิบของรัสเซีย
“มักมีหลักฐานว่าเรือพวกนี้พยายามอำพรางกิจกรรมของพวกเขาด้วยการปิดระบบแสตงตัวตนอัตโนมติ (AIS) ของเรือ” ไรท์กล่าวถึงเรือสีมืด
แม้ว่าประเทศตะวันตกจะห้ามการนำเข้าน้ำมันของรัสเซียส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่มีกฎใด ๆ ที่ห้ามไม่ให้เรือของตะวันตกส่งมอบน้ำมันรัสเซียให้กับผู้ซื้อรายอื่น เช่น จีนและอินเดีย
EA Gibson บริษัทนายหน้าขนส่งสินค้าประเมินว่า การส่งน้ำมันของรัสเซียไปยังจีนหรืออินเดียนั้นใช้เวลานานขึ้น และมีประสิทธิภาพน้อยกว่าการส่งน้ำมันไปยังประเทศใกล้เคียง เช่น ฟินแลนด์ ขณะนี้รัสเซียต้องการความสามารถในการขนส่งน้ำมันดิบมากถึง 4 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงก่อนการรุกรานยูเครน
ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทค้าน้ำมันแห่งหนึ่งซึ่งไม่เปิดเผยตัวตน กล่าวว่า ความต้องการดังกล่าวเป็นผลให้มีการขยายกองเรือเงาประมาณ 25-35 ลำต่อเดือน
Global Witness ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ประเมินว่า 1 ใน 4 ของยอดขายเรือบรรทุกน้ำมันระหว่างปลายเดือน ก.พ. 2022 ถึง ม.ค. ปีนี้ มีความเกี่ยวข้องกับผู้ซื้อที่เป็นปริศนา ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 2 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
เซอร์เกย์ วาคูเลนโก อดีตผู้บริหารบริษัทน้ำมันของรัสเซีย ปัจจุบันเป็นนักวิชาการที่กองทุนคาร์เนอจีเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศ กล่าวว่า ตัวจริงของกองเรือเงาเหล่านี้ คาดว่าบริษัทที่มีแต่เปลือกส่วนหนึ่งมีความเกี่ยวข้องกับ “ภาครัฐของรัสเซียหรือผู้ที่มีความเกี่ยวข้องทางการเมือง”
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สหภาพยุโรปได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อ Sun Ship Management บริษัทในเครือของ Sovcomflot ซึ่งเป็นบริษัทเดินเรือที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซีย (จดทะเบียนในดูไบ)
สหภาพยุโรปกล่าวว่า บริษัทแห่งนี้ “เป็นหนึ่งในบริษัทที่จัดการและดำเนินการขนส่งน้ำมันรัสเซียทางทะเล” และ “สหพันธรัฐรัสเซียเป็นผู้รับผลประโยชน์สูงสุด” จากการดำเนินธุรกิจนี้
เรียบเรียงจาก CNN
ภาพจาก Getty Image