การซ้อมรบร่วมกันระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ได้เปิดฉากขึ้นแล้ว โดยมีการอ้างว่าเพื่อเป็นการคานอำนาจและต้านแรงกดดันจากเกาหลีเหนือที่ยังคงเดินหน้าทดสอบขีปนาวุธ ขณะที่ฝั่งโสมแดงก็ออกมาประณามว่านี่เป็นความพยายามยั่วยุและเตรียมรุกรานเกาหลีเหนือ
ล่าสุด สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) สื่อของทางการเกาหลีเหนือรายว่า เมื่อวันอาทิตย์ (12 มี.ค.) ที่ผ่านมา ในช่วงเช้าตามเวลาท้องถิ่น เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธร่อน 2 ลูกจากเรือดำน้ำเพื่อแสดงกำลังทางทหาร ไม่กี่ชั่วโมงก่อนท่ารซ้อมบร่วมสหรัฐฯ-เกาหลีใต้จะเริ่มขึ้น
KCNA รายงานว่า การยิงขีปนาวุธดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของเกาหลีเหนือที่จะตอบโต้ด้วย “กองกำลังที่ทรงพลัง” ต่อสิ่งที่เรียกว่าการซ้อมรบทางทหารโดย “จักรวรรดินิยมสหรัฐและกองกำลังหุ่นเชิดของเกาหลีใต้”
KCNA ยังบอกเป็นนัยว่า เกาหลีเหนือมีเป้าหมายที่จะใช้ขีปนาวุธร่อนที่มีการติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ และระบุว่าโครงการอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการป้องกันตนเอง
ขีปนาวุธร่อน 2 ลูกนี้ถูกปล่อยจากเรือดำน้ำ “8.24 Yongung” ซึ่งเป็นเรือลำเดียวกับที่ใช้ทดสอบขีปนาวุธจากเรือดำน้ำลำแรกของเกาหลีเหนือในปี 2016
KCNA อ้างว่า ขีปนาวุธดังกล่าวบินอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมง เคลื่อนที่ด้วยความเร็วประมาณ 1,500 กม. ต่อชั่วโมง และบินวนเป็นรูปเลขแปดก่อนที่จะพุ่งชนเป้าหมายอย่างแม่นยำ
เสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ (JCS) ยืนยันว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธที่ไม่ปรากฏชื่ออย่างน้อยหนึ่งลูกจากเรือดำน้ำใกล้กับเมืองท่าในจังหวัดฮัมกย็องใต้ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐและเกาหลีใต้กำลังวิเคราะห์เหตุการณ์ดังกล่าว
ส่วนวันนี้ (13 มี.ค.) กองทัพของสหรัฐฯ และเกาหลีใต้จะเริ่มการฝึกซ้อม “Freedom Shield” ตั้งแต่เช้าตรู่ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการฝึกซ้อมขนาดใหญ่แบบนี้นับตั้งแต่ปี 2018 โดยจะใช้เวลาฝึกซ้อมทั้งสิ้น 11 วัน
เรียบเรียงจาก CNN
ภาพจาก AFP