และวันนี้ 16 มี.ค. ก็ได้ดำเนินเข้าสู่วันที่ 4 แล้ว การจัดการซ้อมรบนี้ส่งผลให้เกาหลีเหนือไม่พอใจอย่างมากและประกาศเดินหน้าทดสอบขีปนาวุธในช่วงเวลาดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นวันนี้เป็นขีปนาวุธข้ามทวีป
การซ้อมปฏิบัติการการโจมตีทางอากาศและปฏิบัติการภาคพื้นดินร่วมกันของเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ในวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่ 4 หลังเปิดฉากการซ้อมรบอย่างเป็นทางการเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
วิจัยจีนประเมิน ขีปนาวุธเกาหลีเหนือยิงไปสหรัฐ ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง
เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ ขู่สหรัฐฯ-เกาหลีใต้ก่อนซ้อมรบ
เป้าหมายของการซ้อมรบมีเพื่อเสริมความสามารถในการป้องกันภัยคุกคาม และเสริมความมั่นคงของคาบสมุทรเกาหลี ตลอดจนจำลองการตอบโต้การโจมตีของศัตรู โดยเฉพาะอย่างยิ่งภัยจากอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
การซ้อมรบระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นจากความก้าวหน้าในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
เกาหลีใต้และสหรัฐฯ จึงยกระดับความร่วมมือด้านทหารด้วยการจัดการซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 5 ปี เป็นระยะเวลา 11 วัน ภายใต้ปฏิบัติการที่เรียกว่า ‘Freedom Shield’
อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกาหลีเหนือไม่พอใจอย่างมาก และตอบโต้ด้วยการทดสอบขีปนาวุธอย่างต่อเนื่องตามที่ได้ประกาศกร้าวไว้
การทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุดคือเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ทางการญี่ปุ่นได้ออกมารายงานว่า วันนี้ เวลา 07.09 น. ตามเวลาท้องถิ่น
เกาหลีเหนือได้ทดสอบขีปนาวุธที่คาดว่าเป็นขีปนาวุธข้ามทวีป หรือ ICBM ที่มีพิสัยถึง 1,000 กิโลเมตร ยิงจากเขตชูนัน ใกล้กรุงเปียงยาง เมืองหลวงของเกาหลีเหนือ ไปยังน่านน้ำฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรเกาหลีประมาณ 550 กิโลเมตร และอยู่นอกเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น พร้อมทั้งระบุว่าทางการญี่ปุ่นกำลังตรวจสอบว่าขีปนาวุธดังกล่าวเป็น ICBM จริงหรือไม่
ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นได้เผยแพร่วิดีโอที่เชื่อว่าเป็นขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ที่เกาหลีเหนือได้ทดสอบในวันนี้ ซึ่งถ่ายมาจากเครื่องบินขับไล่ F-15 ของญี่ปุ่น
ด้านกระทรวงต่างประเทศของเกาหลีใต้ได้ออกมาประณามการยิงขีปนาวุธครั้งนี้ของเกาหลีเหนือ และยืนยันว่าจะตอบโต้การกระทำที่ยั่วยุนี้อย่างเด็ดขาด
การทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปครั้งล่าสุดนี้ถือเป็นการทดสอบครั้งที่ 3 แล้วในสัปดาห์นี้ครั้งแรกคือเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นการยิงทดสอบขีปนาวุธแบบร่อน โดยยิงมาจากเรือดำน้ำ ตกที่ทะเลทางตะวันออกของประเทศ
รวมถึงเกาหลีเหนือยังประกาศใช้ ‘มาตรการป้องปรามสงคราม’ ของประเทศ เพื่อโต้ตอบการกระทำของสหรัฐฯ และเกาหลีใต้
ครั้งที่ 2 คือเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ 2 ลูกลงสู่ทะเลลงไปตกยังชายฝั่งตะวันออก โดยระบุว่าเป็นการฝึกซ้อมทางทหารที่ออกแบบมาเพื่อฝึกทหารให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้ทุกเมื่อและสังหารศัตรูหากจำเป็น
หลายฝ่ายคาดว่าเกาหลีเหนือจะเดินหน้าทดสอบขีปนาวุธอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่เกาหลีใต้และสหรัฐฯ ยังดำเนินการซ้อมรบร่วมกัน ไปจนถึงวันที่ 23 มีนาคม
ไม่มีใครยืนยันได้ว่า การพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือไปถึงจุดไหนแล้ว แต่หลายฝ่ายคาดว่า เกาหลีเหนือเข้าใกล้ความสำเร็จในการพัฒนาอาวุธเชิงยุทธวิธีซึ่งใช้โจมตีระยะใกล้และสามารถสร้างหัวรบนิวเคลียร์ให้มีขนาดเล็กจนสามารถติดไปกับขีปนาวุธหรือระเบิดได้
ส่วนหัวรบนิวเคลียร์ด้านยุทธศาสตร์ซึ่งมีขนาดใหญ่และพลังการทำลายล้างสูงก็คืบหน้า คาดกันว่า เกาหลีเหนือน่าจะอยู่ในช่วงของการเร่งพัฒนาและเตรียมทดสอบเช่นเดียวกัน
นับตั้งแต่เข้าปี 2023 เป็นต้นมา มีการทดสอบขีปนาวุธ ICBM แล้วสองครั้ง ครั้งแรกคือเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่วนครั้งล่าสุดเกิดขึ้นวันนี้
ขณะเดียวกันทีมวิจัยในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน ได้จำลองการโจมตีสหรัฐฯ ด้วยขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ พบว่าใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
ทีมนักวิจัยด้านกลาโหมจากสถาบันวิศกรรมระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยชั้นนำในอุตสาหกรรมการป้องกันการบินและอวกาศของจีน ได้จำลองยุทธวิธีการโจมตีแผ่นดินสหรัฐฯ ด้วยขีปนาวุธข้ามทวีป ‘ฮวาซอง-15’ ของเกาหลีเหนือ ที่มีพิสัยราว 13,000 กิโลเมตร และสามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้พร้อมกันถึง 3-4 หัว
การศึกษาพบว่าใช้เวลาแค่ราว 33 นาทีเท่านั้นในการเดินทางไปถึงเป้าหมาย ทั้งนี้ การศึกษาดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อประเมินว่าระบบป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐฯ สามารถปกป้องตนเองได้ดีเพียงใด
โดยจำลองการยิงขีปนาวุธจากเมืองซุนชอนในจังหวัดพย็องอันใต้ ทางตอนกลางของเกาหลีเหนือ เป้าหมายอยู่ที่เมืองโคลัมเบียในรัฐมิสซูรี ทางตอนกลางของสหรัฐฯ
20 วินาทีหลังจากขีปนาวุธถูกยิงออกมา กองบัญชาการป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐฯ จะได้รับการแจ้งเตือนและจะยิงขีปนาวุธสกัดกั้นชุดแรกภายในเวลา 11 นาทีจากป้อมกรีลี ในรัฐอะแลสกา หากวิธีนี้ล้มเหลว ฐานทัพแวนเดนเบิร์กในรัฐแคลิฟอร์เนียจะโจมตีสกัดกั้นอีกชุด
ทีมนักวิจัยระบุว่า จากผลการทดลองเห็นได้ชัดว่า ระบบป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐ แข็งแกร่งมาก แต่ก็มีช่องว่างที่เรียกกันว่า "Kill Chain" ที่เกาหลีเหนือสามารถใช้โจมตีระบบป้องกันของสหรัฐได้
พวกเขาประเมินว่า ระบบการป้องกันของสหรัฐฯ มีประสิทธิภาพในการป้องกันขีปนาวุธแบบดั้งเดิม อย่าง ‘ฮวาซอง-15’ เนื่องจากมีการวางระบบให้สกัดหลายชั้น ทำให้กองทัพสหรัฐฯ มีความยืดหยุ่นอย่างมากในการรับมือกับภัยคุกคาม แต่ระบบการป้องกันดังกล่าวก็ยังไม่สมบูรณ์เพียงพอ
นอกจากนี้ การศึกษายังพบว่า ระบบสอดแนมของสหรัฐฯ ทั้งในอวกาศ มหาสมุทร และพื้นดิน บางครั้งอาจสูญเสียการติดตามขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ หากเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธที่มีหัวรบหรือตัวล่อมากกว่า 40 ลูก ระบบป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐฯ อาจต้องรับภาระหนักและเกิดข้อผิดพลาดได้
รวมถึงการสกัดกั้นขีปนาวุธบางลูกอาจล้มเหลว หากขีปนาวุธของเกาหลีเหนือใช้วิถีโคจรที่ผิดปกติด้วยระดับความสูงที่สูงมาก นอกจากนี้ เกาหลีเหนือกำลังพัฒนาขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก หรือขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงซึ่งสหรัฐฯ ยังไม่มีระบบที่สามารถป้องกันอาวุธประเภทนี้ได้
ขณะเดียวกันทีมนักวิจัยประเมินว่า ความสามารถในการป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐจะยิ่งพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
การทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือครั้งนี้ยังมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่ประธานาธิบดีเกาหลีหลีใต้จะเดินทางเยือนญี่ปุ่น เพื่อประชุมกับนายกฯ ฟุมิโอะ คิชิดะ ที่กรุงโตเกียว นี่ถือเป็นการเยือนญี่ปุ่นของผู้นำเกาหลีใต้ เพื่อพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี
ประธานาธิบดียุน ซอกยอลของเกาหลีใต้ ได้เข้าพบกับนายกฯ ฟุมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่นเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางในการประสานรอยร้าวที่มีมาอย่างยาวนานในช่วงที่ญี่ปุ่นยึดครองเกาหลีใต้ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
ผู้นำญี่ปุ่นระบุว่า การกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศถือเป็นภารกิจเร่งด่วน เนื่องจากภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือที่เพิ่มมากขึ้น และความกังวลเกี่ยวกับบทบาทที่แข็งแกร่งมากขึ้นของจีนในเวทีโลก
ทั้งคู่ยังกล่าวว่า จะฟื้นฟู ‘Shuttle diplomacy’ หรือ ‘การทูตแบบเดินสาย’ ซึ่งหมายถึงการเดินทางไปเจรจาทางการทูตกับอีกประเทศ ในกรณีต้องการหารือเพื่อแก้ไขปัญหาหรือความขัดแย้งร่วมกัน โดยญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ไม่ได้ดำเนินการทูตแบบนี้มานาน 12 ปีแล้ว
นอกจากนี้ทั้งสองประเทศยังเห็นพ้องที่จะยุติข้อพิพาททางการค้าที่ดำเนินมาเกือบ 4 ปี โดยญี่ปุ่นจะยกเลิกมาตรการจำกัดการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ไปยังเกาหลีใต้ ขณะที่เกาหลีใต้จะถอนคำร้องต่อองค์การการค้าโลกเกี่ยวกับข้อจำกัดเหล่านั้น
นี่เป็นความพยายามในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ หลังจากที่ย่ำแย่มาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ญี่ปุ่นยึดครองเกาหลีใต้ระหว่างปี 1910-1945 ซึ่งทหารญี่ปุ่นได้บังคับใช้แรงงานชาวเกาหลีใต้หลายแสนคนเยี่ยงทาส รวมถึงบังคับให้ผู้หญิงเกาหลีใต้เป็นหญิงบำเรอกาม
จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลเกาหลีใต้ตัดสินใจแก้ปัญหานี้เองด้วยการประกาศจ่ายค่าชดเชยให้เหยื่อเหล่านั้นเพื่อเยียวยารอยร้าว
แม้ประชาชนเกาหลีใต้จะออกมาประท้วงต่อต้านการตัดสินใจดังกล่าว แต่รัฐบาลเกาหลีใต้มองว่าการทำเช่นนี้จะช่วยให้เกาหลีใต้และญี่ปุ่นสามารถร่วมมือกันเพื่อต่อต้านภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือที่เพิ่มขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา