ปฏิเสธไม่ได้ว่า “โควิด-19” ถือเป็นหนึ่งเหตุการณ์สำคัญในหน้าประวัติศาสตร์โลกที่เชื่อว่าผู้คนในอนาคตจะต้องพูดถึง ในลักษณะเดียวกับที่เราเคยพูดถึงกาฬโรคและไข้หวัดสเปน และเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่ควรค่าแก่การส่งต่อไปยังรุ่นลูกรุ่นหลาน
ด้วยเหตุนี้ บางประเทศจึงมีการเพิ่มเนื้อหาเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมาลงในตำราเรียน ทั้งเพื่อเป็นการจดบันทึกประวัติศาสตร์ และให้เด็ก ๆ รุ่นหลังจากนี้ได้ทราบถึงเหตุการณ์ที่สร้างผลกระทบไปทั้งโลกนี้
หนึ่งในประเทศที่มีนโยบายดังกล่าวคือ “จีน” ซึ่งเป็นประเทศแรกที่พบการระบาดของโควิด-19 โดยในหนังสือเรียนประวัติศาสตร์สำหรับเด็กนักเรียนจีน ได้กล่าวถึงการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของประเทศเป็นครั้งแรก ตามที่มีการเผยแพร่บนโซเชียลมีเดียจีน
สิงคโปร์ขึ้นภาษี 2 เท่า สำหรับต่างชาติที่ต้องการซื้ออสังหาฯ อยู่อาศัย
แพนด้า “ยายา” กลับสู่อ้อมอกชาวจีน หลังอยู่ในสหรัฐฯ นาน 20 ปี
ผู้นำยูเครน-จีนยกหูคุยครั้งแรกตั้งแต่รัสเซียรุกราน
ผู้ใช้โต่วอิน (TikTok เวอร์ชันจีน) รายหนึ่งซึ่งเป็นครูสอนประวัติศาสตร์ ได้อัปโหลดคลิปวิดีโอสั้นที่แสดงให้เห็นเนื้อหาบางส่วนของหนังสือเรียนประวัติศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่จัดพิมพ์โดย People's Education Press ซึ่งเป็นผู้จัดพิมพ์ตำราเรียนรายใหญ่ของประเทศจีน พร้อมเขียนแคปชันว่า “มันถูกเขียนอยู่ในหนังสือประวัติศาสตร์แล้ว”
เนื้อหาเกี่ยวกับโควิด-19 นี้ปรากฏอยู่ในบท “การเปลี่ยนแปลงในชีวิตทางสังคม” โดยอยู่ถัดจากย่อหน้าที่พูดถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นของจีนและการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตนับตั้งแต่เปิดประเทศในปี 1970
ในย่อหน้าที่เขียนว่า “สงครามกับโควิด-19” มีเนื้อหาระบุว่า “ประเทศของเรายึดมั่นในประชาชนและชีวิต ... เราปกป้องความปลอดภัยในชีวิตและสุขภาพของผู้คนในระดับสูงสุด ... เราบรรลุผลสำเร็จที่สำคัญในการประสานงานป้องกันและควบคุมโรคระบาด”
คำบรรยายในตำราสะท้อนถึงคำประกาศชัยชนะเหนือไวรัสของผู้นำจีน แต่ชาวจีนหลายคนออกมาตั้งคำถามว่า “ในตำราเรียนนี้มีความจริงทั้งหมดหรือไม่?” ซึ่งทำให้หัวข้อ “ตำราประวัติศาสตร์และการตอบสนองต่อโควิด-19” ได้รับการพูดถึงบนโต่วอินมากกว่า 5 ล้านครั้ง
ชาวเน็ตรายหนึ่งบอกว่า “มีการพูดถึงหรือไม่ว่า จริง ๆ แล้วมันจบลงอย่างไร?” ขณะที่อีกคนบอกว่า “ทำไมถึงกล้าเขียนมันลงไปในตำราเรียน?” และมีอีกคนที่บอกว่า “ทุกตัวอักษรในหน้านั้นดูเหมือนจะเย้ยหยัน 3 ปีที่เจ็บปวดของเรา”
ความเห็นเหล่านี้ตอกย้ำถึงผลกระทบจากนโยบาย “ปลอดโควิด-19” ที่เข้มงวดของจีน ซึ่งอนุญาตให้ทางการใช้มาตรการล็อกดาวน์ต่อเนื่องกว่า 3 ปี ข้อจำกัดส่วนใหญ่เพิ่งถูกยกเลิกในเดือนธันวาคม 2022 ที่ผ่านมา หลังเกิดการประท้วงอย่างหนักในหลายพื้นที่ของประเทศเพื่อต่อต้านนโยบายที่เข้มงวดเกินไป
เรียบเรียงจาก BBC
ภาพจาก AFP
