คาดยอดเสียชีวิตเหตุไซโคลนโมคาถล่มเมียนมา 400 คน สูญหายอีกจำนวนหนึ่ง

สำนักข่าว CNN รายงานว่า รัฐบาลเงาเมียนมา เปิดเผยรายงานสถานการณ์เหตุไซโคลนโมคาพัดถล่มเมียนมา โดยระบุว่า เวลานี้ พบผู้เสียชีวิตในเมืองซิตตเว เมืองหลักของรัฐยะไข่เพียงแห่งเดียวอยู่ที่ 400 คน  และพบผู้ที่อาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยในเมืองดังกล่าวจมน้ำตาย หลังเกิดน้ำท่วม

สอดคล้องกับรายงานของ เครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคมอาระกัน ระหว่างที่พวกเขาได้ดำเนินการช่วยเหลือ ผู้คนทางตอนเหนือของรัฐยะไข่ พบผู้เสียชีวิตในค่ายผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา ในเมืองดังกล่าว ประมาณ 400 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วยอีกหลายคน

 

 

เบื้องต้นสำนักข่าว CNN ไม่สามารถตรวจสอบตัวเลขดังกล่าวได้ แต่รายงานนี้ขัดแย้งกับรายงานก่อนหน้านี้ของรัฐบาลทหารเมียนมาที่ระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 3 คน และบาดเจ็บอีก 13 คน อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวในที่เกิดเหตุยืนยันกับ CNN ว่า พวกเขาพบร่างของเหยื่อชาวโรฮิงญาจำนวนมากถูกฝังตามพิธีทางศาสนา

เช่นเดียวกับชาวบ้านคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเมืองชิตตเว บอกว่า หลังพายุไซโคลนพลัดถล่ม เขาแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้เลย เพราะเห็นศพของเด็ก คนชรา และหญิงตั้งครรภ์นอนเกลื่อนพื้น

ส่วนคนที่รอดชีวิตกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก ไม่มีอาหาร ไม่มีที่นอน ผู้คนกลายเป็นคนไร้บ้าน ไร้ที่อยู่อาศัย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในชีวิตของชาวโรฮิงญา

ประกาศ "รัฐยะไข่พื้นที่ภัยพิบัติทางธรรมชาติ" หลังไซโคลนโมคาถล่ม

กรมอุตุฯประกาศ ฉ.10 “พายุโมคา” ยังกระทบไทย ถล่มตอนบน หนักสุดที่เหนือ

ทั้งนี้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย เดินทางไปที่รัฐยะไข่เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ และเยี่ยมผู้ประสบภัย รวมถึงมอบสิ่งของบริจาคให้กับผู้ประสบภัย  ก่อนจะมีการประกาศให้รัฐยะไข่เป็นพื้นที่ประสบภับพิบัติทางธรรมชาติ

สำหรับพายุโซโคลนโมคาพัดถล่มขึ้นฝังเมียนมา เมื่อวันอาทิตย์ ส่งผลทำให้บ้านเรือนพังเสียหาย ต้นไม้หักโค่น เสาสื่อสารได้รับความเสียหายรุนแรง ในรัฐยะไข่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง และเป็นที่อยู่อาศัยของผู้พลัดถิ่นชาวโรฮิงญาหลายแสนคน