รัฐบาลอังกฤษลงนามเข้าร่วมเป็นสมาชิก CPTPP

เมื่อวานนี้ ที่ประเทศนิวซีแลนด์ เคมี บาเดนอค (Kemi Badenoch) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงธุรกิจและการค้าของอังกฤษได้ลงนามยืนยันการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความตกลงแบบครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ CPTPP

ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการยื่นเรื่องให้รัฐสภาอังกฤษพิจาณารับรองการเข้าเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะทำให้อังกฤษเป็นชาติแรกของยุโรปที่เข้าร่วมเป็นสมาชิก CPTPP

 

 

นี่นับเป็นข้อตกลงการค้าขนาดใหญ่ที่สุดที่อังกฤษลงนามหลังการถอนถัวออกจากวหภาพยุโรปเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ปี 2020

โดย บาเดนนอค เชื่อมั่นว่าความตกลง CPTPP จะช่วยให้เศรษฐกิจอังกฤษขยายตัวและนำไปสู่การต่อยอดจากตำแหน่งงานเดิมที่มีอยู่แล้วในขณะนี้หลายแสนตำแหน่งทั่วประเทศ ซึ่งได้รับประโยชน์จากธุรกิจที่อยู่ภายใต้ความตกลงนี้ โดยเธอระบุว่าการเข้าเป็นสมาชิกจะช่วยให้อังกฤษเข้าถึงตลาดการค้าที่มีประชากรรวมกันถึง 500 ล้านคน

จากข้อมูลของรัฐบาลอังกฤษเมื่อปี 2019 พบว่าผู้ที่ทำงานในอังกฤษทุกๆ 100 คน จะมี 1 คน ที่เป็นลูกจ้าง หรือ พนักงานของบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศใดประเทศหนึ่งที่เป็นสมาชิก CPTPP

นอกจากนี้สินค้าที่อังกฤษส่งออกไปยังประเทศสมาชิก CPTPP เกือบทั้งหมด หรือประมาณ 99 เปอร์เซนต์จะไม่ถูกเก็บภาษีนำเข้า ซึ่งภาคเอกชนอังกฤษระบุว่าจะเป็นปัจจัยขับเคลี่อนภาคธุรกิจที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก เช่นกลุ่มเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม

อย่างไรก็ตามผลประโยชน์ที่จะได้รับจาก CPTPP ยังเป็นเรื่องที่ต้องรอดูต่อไป โดยรัฐบาลอังกฤษเคยประเมินว่าความตกลงนี้จะทำมห้ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP เพื่มขึ้นเพียง 0.08 เปอร์เซนต์ ซึ่งแทบไม่ช่วยชดเชยมูลค้าการค้าที่หายไปจากการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป

สำหรับ CPTPP ปัจจุบันมีสมาชิก 11 ประเทศ ประกอบไปด้วย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม บรูไน นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย แคนาดา เม็กซิโก ชิลี และ เม็กซิโก โดยประเทศเหล่านี้ GDP รวมกัน 15.7 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 55 ล้านล้านบาท