เมื่อวานนี้ รัฐบาลบราซิลเปิดเผยตัวเลขเบื้องต้นเกี่ยวกับการตัดไม้ทำลายป่าในป่าแอมะซอน โดยระบุว่า จากข้อมูลดาวเทียมของสถาบันวิจัยอวกาศแห่งชาติของบราซิล (INPE) พบว่า เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้สูญเสียพื้นที่ป่าฝนไป 500 ตารางกิโลเมตร ซึ่งลดลง 66 % จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ขณะที่ในช่วง 7 เดือนแรกของปี พบการตัดไม้ทำลายป่าโดยรวมลดลง 42.5 % จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2022
และจากตัวเลขที่ลดลงเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า การตัดไม้ทำลายป่าในป่าแอมะซอนลดลง 34 % จากช่วงครึ่งแรกของปีนี้
ตัวเลขการตัดไม้ทำลายป่าที่ลดลงตามลำดับในเดือนมิถุนายน และกรกฏาคนถือเป็นแนวโน้มที่ดีเป็นพิเศษ เนื่องจากข้อมูลรายเดือนในปีที่ผ่านๆมาพบว่าการสูญเสียพื้นที่ป่ามักจะพุ่งสูงขึ้นในช่วงเวลานี้ของปี ซึ่งเป็นผลมาจากสภาพอากาศที่แห้งแล้ง
ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมของบราซิลเปิดเผยว่า เวลานี้กำลังเห็นการเติบโตของการตัดไม้ทำลายป่าที่ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ
ทั้งนี้ข้อมูลล่าสุดที่เผยแพร่ออกมานี้ มีขึ้นขณะที่ บราซิลเตรียมจัดการประชุมสุดยอดกับผู้นำกลุ่มประเทศในป่าแอมะซอนในสัปดาห์หน้า เพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีการปกป้องป่าฝนที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เปรูพบซากวาฬโบราณ เชื่อเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
นักวิทย์พบแมงกะพรุนสายพันธุ์เก่าแก่ที่สุด ในฟอสซิลอายุกว่า 505 ล้านปี
ขณะที่ความเคลื่อนไหวนี้ทำให้รัฐบาลบราซิลชุดปัจจุบัน ภายใต้การนำของ ประธานาธิบดีลูอีซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ได้รับเสียงชื่นชมจากผู้เชี่ยวชาญ
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ได้เรียกร้องให้เฝ้าระวังสถานการณ์การตัดไม้ทำลายป่าอย่างต่อเนื่องในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดไฟป่า และมักเกิดการตัดไม้ทำลายป่าสูงที่สุด
สำหรับการประชุมสุดยอดที่กำลังจะเกิดขึ้น ประธานาธิบลูลา เปิดเผยว่า จะเป็นการประชุมที่มีความพยายามในการจัดทำนโยบายร่วมกันเป็นครั้งแรกในกลุ่มประเทศดังกล่าว เพื่อปกป้องป่าแอมะซอน ซึ่งรวมถึงการจัดการด้านความมั่นคงตามแนวชายแดน และขอให้ภาคธุรกิจเอกชนช่วยปลูกป่า 187 ล้านไร่ในที่ดินเสื่อมโทรมด้วย
ทั้งนี้ประธานาธิบดีลูลา เป็นผู้นำฝ่ายซ้ายที่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม ด้วยคำมั่นสัญญาว่าจะยุติการตัดไม้ทำลายป่าภายในปี 2030 หลังจากในสมัยของ ฌาอีร์ โบลโซนารู ผู้นำคนก่อนมีนโยบายที่ไม่ได้มุ่งปกป้องสิ่งแวดล้อมเท่าใดนัก