ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของมัลดีฟส์รอบตัดสิน ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ (30 ก.ย.) ที่ผ่านมาปรากฏว่า "โมฮัมเหม็ด มูอิซซู" นายกเทศมนตรีกรุงมาเล เมืองหลวงของประเทศ วัย 45 ปี ซึ่งมีแนวคิดสนับสนุนบทบาทของจีน และต่อต้านการมีอิทธิพลของอินเดียเหนือมัลดีฟส์ ได้คะแนนเสียง 54 % มากกว่าคู่แข่งคนสำคัญอย่างประธานาธิบดี โมฮัมเหม็ด โซลีห์ ที่ได้รับเสียงสนับสนุน 46%
อสังหาฯ จีนจมวิกฤต ประชากร 1,400 ล้านคน ยังเติมเต็มบ้านว่างไม่หมด
จีนเตรียมส่งยาน “ฉางเอ๋อ-6” สำรวจดวงจันทร์ปี 2024
ไต้หวันเผยโฉมเรือดำน้ำสร้างเองลำแรก เตรียมรับภัยคุกคามจากจีน
โดยโซลีห์ได้ยอมรับความพ่ายแพ้ และกล่าวแสดงความยินดีกับว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ โดยโซลีห์จะรักษาการตำแหน่งผู้นำประเทศจนกว่านายมูอิซซูจะเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 พ.ย. นี้
สำหรับการเลือกตั้งรอบแรกถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ก.ย. ซึ่งนายมูอิซซู ได้สร้างความประหลาดใจด้วยคะแนนเสียงสนับสนุนมากถึง 46% สูงกว่าผู้นำคนปัจจุบันที่ได้เสียงสนับสนุนเพียง 39%
อย่างไรก็ตาม เสียงสนับสนุนของนายมูอิซซูก็ยังไม่ถึงกึ่งหนึ่งของผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งหมด ทำให้มัลดีฟส์ต้องจัดการเลือกตั้งรอบสอง
สำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบที่สองในมัลดีฟส์ ถือเป็นการเลือกตั้งที่มีความสำคัญต่อทิศทางนโยบายการต่างประเทศของมัลดีฟส์เป็นอย่างมาก เนื่องจากมัลดีฟส์อยู่ภายใต้อิทธิพลของอินเดียมายาวนาน และประธานาธิบดีคนปัจจุบันอย่างนายโซลีห์ วัย 61 ปี จากพรรคประชาธิปไตยมัลดีฟส์ ก็ได้ดำเนินนโยบายการต่างประเทศที่ตัวเขาเรียกว่านโยบายอินเดียต้องมาก่อนนับตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งในปี 2018 โดยประเทศมัลดีฟส์ถือเป็นหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของอินเดีย ในการสังเกตการณ์การเคลื่อนไหวต่างๆ ในมหาสมุทรอินเดีย
ภาพจาก Mohamed Afrah / AFP
โปรแกรมการแข่งขันกีฬา เอเชียนเกมส์ 2022 วันที่ 2 ต.ค. 66 ของนักกีฬาไทย
สหพันธ์กรีฑาโลก ไม่รับรองสถิติวิ่ง 100 ม."เทพบิว" ภูริพล ศึกเอเชียนเกมส์