อินโดนีเซียใช้ Deepfake AI ปลุกชีพนายพลเผด็จการช่วยหาเสียงเลือกตั้ง

โดย PPTV Online

เผยแพร่

พรรคโกลการ์ของอินโดนีเซียใช้ปัญญาประดิษฐ์สร้างวิดีโอ Deepfake “ซูฮาร์โต” อดีตผู้นำเผด็จการผู้ล่วงลับ มาช่วยหาเสียงเลือกตั้ง

ในการหาเสียงเลือกตั้ง หากพรรคการเมืองสามารถอัญเชิญบุคคลผู้ล่วงลับซึ่งเคยมีอิทธิพลหรือครองใจประชาชนมาช่วยในการหาเสียงได้ เชื่อว่าอาจจูงใจมวลชนให้หันมาสนับสนุนพรรคได้ไม่น้อย

แต่เมื่อการคืนชีพคนตายหรืออัญเชิญพวกเขากลับมาช่วยหาเสียงเป็นสิ่งที่ยังเป็นไปไม่ได้ (อย่างน้อยก็ในทางวิทยาศาสตร์) เรื่องของ “ปัญญาประดิษฐ์” หรือเอไอ (AI) จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ในการปลุกชีพคนตายมาช่วยหาเสียง

มิจฉาชีพใช้ Deepfake ปลอมเป็นหัวหน้าฝ่ายการเงิน หลอกเงิน 900 ล้านบาท

“ทรัมป์” ประกาศ สนับสนุนรัสเซียโจมตีสมาชิกนาโตที่ไม่เพิ่มงบทหาร

ฮามาสเตือน หากอิสราเอลบุกเมืองราฟาห์ อาจกระทบเจรจาปล่อยตัวประกัน

ใช้ AI ปลุกชีพนายพลเผด็จการช่วยหาเสียงเลือกตั้งอินโดนีเซีย X/Erwin Aksa
คลิปวิดีโอซูฮาร์โตที่ถูกสร้างขึ้นโดยเอไอ Deepfake

ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งกำลังจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 14 ก.พ. นี้ ก็ปรากฏว่า มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอของ “ซูฮาร์โต” (Suharto) อดีตผู้นำนายพลผู้สร้างความหวาดกลัว และปกครองอินโดนีเซียด้วยความโหดเหี้ยมนานกว่า 3 ทศวรรษระหว่างปี 1968-1998

ในคลิป ซูฮาร์โตบอกว่า “ผมคือซูฮาร์โต ประธานาธิบดีคนที่สองของอินโดนีเซีย”

วิดีโอดังกล่าวมีความยาวราว 3 นาที มียอดดูบน X (ทวิตเตอร์) มากกว่า 4.7 ล้านครั้ง และแพร่กระจายไปยัง TikTok, เฟซบุ๊ก และยูทูบ

เรื่องที่เกิดขึ้นนี้คงได้น่าสนใจอะไร ถ้าไม่ใช่ว่าซูฮาร์โตถึงแก่อสัญกรรมไปตั้งแต่ปี 2008 แล้ว!

คืนชีพเผด็จการด้วยเอไอ!

แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ซูฮาร์โตตัวจริงอย่างแน่นอน (ไม่อย่างนั้นคงได้มีวิ่งป่าราบกันแน่ ๆ) แต่นี่คือวิดีโอ Deepfake ที่สร้างขึ้นโดยใช้เอไอที่โคลนใบหน้าและเสียงของซูฮาร์โต

เออร์วิน อักซา รองประธานพรรคโกลการ์ หนึ่งในพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดของอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นผู้ที่แชร์วิดีโอดังกล่าวบน X  กล่าวว่า “วิดีโอนี้จัดทำขึ้นเพื่อเตือนเราว่า คะแนนเสียงของเรามีความสำคัญต่อการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง”

พรรคโกลการ์เป็นหนึ่งใน 18 พรรคที่เข้าร่วมการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดี 2024 ซึ่งผู้มีสิทธิเลือกตั้งมากกว่า 200 ล้านคนจะมุ่งหน้าเข้าคูหาในอีก 1-2 วันข้างหน้านี้เอง

โกลการ์ไม่ได้ส่งผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของตนเองลงสนามโดยตรง แต่ให้การสนับสนุน ปราโบโว ซูเบียนโต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนปัจจุบัน อดีตลูกเขยของซูฮาร์โต และอดีตนายพลภายใต้ระบอบการปกครองของเขา

การนำผู้นำที่เสียชีวิตไปนานแล้วกลับมามีชีวิตอีกครั้งเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนการลงคะแนนเสียง บ่งบอกถึงความตั้งใจของโกลการ์ที่ชัดเจน นั่นคือ เพื่อรณรงค์หาเสียงให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งโหวตพรรคที่มีความคล้ายกับซูฮาร์โต

“ในฐานะสมาชิกของโกลการ์ ผมภูมิใจในตัวซูฮาร์โตมาก เพราะเขาประสบความสำเร็จในการพัฒนาอินโดนีเซีย ... เขานำความสำเร็จมามากมาย เราต้องเคารพและจดจำผลงานของเขา” อักซาบอก

แต่ประชาชนและนักวิจารณ์บางส่วนออกมาประณามการใช้ใบหน้าและเสียงของผู้วายชนม์มาใช้เพื่อการโฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง ชาวเน็ตรายหนึ่งบอกว่า “นี่คือสภาพของประเทศของเราทุกวันนี้ นำเผด็จการที่ตายไปแล้วกลับมามีชีวิตอีกครั้งเพื่อหลอกและขู่ให้เราลงคะแนนเสียง”

ชาวเน็ตอีกคนบอกว่า “ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่การสร้าง Deepfake คนตายกลายเป็นเรื่องที่ถูกต้องตามจริยธรรม? มันดูเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรมมาก”

อดีตประธานาธิบดีอินโดนีเซียซูฮาร์โต เคยได้รับสมญานามว่า “นายพลยิ้ม” เพราะเขามักจะยิ้มแย้มเสมอแม้จะเป็นผู้นำที่โหดเหี้ยมก็ตาม เขาถึงแก่อสัญกรรมในปี 2008 ขณะอายุ 86 ปี

องค์กรสิทธิระหว่างประเทศมองว่า การปกครองของซูฮาร์โตเป็นยุคที่มีการคอร์รัปชันและโหดร้ายที่สุดช่วงหนึ่งในประวัติศาสตร์ของอินโดนีเซีย มีผู้คนหลายพันคนถูกจำคุกหรือสังหารระหว่างที่เขาปกครอง รวมถึงการปราบปรามคนที่วิพากษ์วิจารณ์และฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง

การอภิปรายเกี่ยวกับการปกครองของเขายังคงเป็นเรื่องต้องห้ามในอินโดนีเซียเป็นส่วนใหญ่ และความคิดเห็นเกี่ยวกับมรดกของเขาก็มีหลากหลาย

แต่ในบางสถานที่ เช่น กมุสุก (Kemusuk) บ้านเกิดของซูฮาร์โต อิทธิพลและภาพลักษณ์ของเขายังคงมีอยู่ทุกที่ ตั้งแต่ของที่ระลึกในพิพิธภัณฑ์ไปจนถึงเสื้อยืดที่ระลึกที่มีใบหน้ายิ้มแย้มของเขา

 

โซ เจน มาร์ชิง นักเขียน นักแต่งเพลงและนักวิชาการชาวอินโดนีเซีย จาก SOAS University of London กล่าวว่า “ความนิบมของวิดีโอบ่งบอกถึงมรดกของเขา และแสดงให้เห็นว่า เขามีความเกี่ยวข้องอย่างไรในอินโดนีเซียในปัจจุบัน ... เขาเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว แต่ยังคงมีผู้สนับสนุนมากมาย วิญญาณของเขายังคงอยู่”

ขณะที่ แอนตัน ปราทามา วัย 55 ปี ซึ่งเติบโตมาในช่วงเวลาที่ซูฮาร์โตเรืองอำนาจ มองว่า “มันไม่ได้เกี่ยวกับการได้เจอเขาอีกหรือเชื่อว่าเขายังมีชีวิตอยู่สักหน่อย ... สิ่งที่น่ากังวลก็คือ ซูฮาร์โตและอุดมการณ์ของเขากำลังได้รับความนิยมในประเทศอีกครั้ง”

โลกออนไลน์กับการเลือกตั้งอินโดนีเซีย 2024

โลกออนไลน์มีบทบาทอย่างมากในการเมืองอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีอัตราการใช้อินเทอร์เน็ตสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก พรรคการเมืองและนักการเมืองเกือบทั้งหมดพยายามสร้างอิทธิพลบนโซเชียลมีเดีย

โกลดา เบนจามิน ผู้จัดการ Access Now องค์กรไม่แสวงผลกำไรด้านลิขสิทธิ์ดิจิทัลของสหรัฐฯ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “Deepfake สามารถมีอิทธิพลอย่างมากต่อการเลือกตั้ง ทั้งวิธีการหาเสียงและผลลัพธ์”

เขาเสริมว่า “อันตรายอยู่ที่ว่า มันจะแพร่กระจายได้เร็วแค่ไหน Deepfake สามารถเข้าถึงคนนับล้านได้อย่างง่ายดายในไม่กี่วินาที บิดเบือนและควบคุมความคิดผู้มีสิทธิเลือกตั้งหลายล้านคน”

ในช่วงก่อนการลงคะแนนเสียงในปีนี้ พรรคการเมืองสำคัญ ๆ หลายพรรคในอินโดนีเซียหันมาใช้เอไอและใช้ Deepfake ต่าง ๆ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง โดยวิดีโอของซูฮาร์โตที่ผลิตโดยพรรคโกลการ์เป็นเพียงหนึ่งในหลายสิบวิดีโอที่ปรากฏในการหาเสียงของพรรคอย่างเป็นทางการเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ทีมหาเสียงของซูเบียนโตก็ได้ใช้ซอฟต์แวร์เอไอเพื่อแปลงโฉมเขาให้เป็นตัวการ์ตูนแอนิเมชันน่ากอดและเผยแพร่บน TikTok เพื่อดึงดูดผู้มีสิทธิเลือกตั้งรุ่นเยาว์ หรือชาวอินโดนีเซียที่มีอายุน้อยกว่า 40 ปี ซึ่งมีอยู่ประมาณ 114 ล้านคน เกินครึ่งของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศ

ขณะที่พรรคประชาธิปไตยแห่งการต่อสู้ (PDIP) ของอดีตรัฐบาลชวากลาง กันจาร์ ปราโวโน ได้ใช้แชตบอตเอไอแบบโต้ตอบเพื่อมีส่วนร่วมกับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ภาพถ่ายเอไอที่สร้างโดยผู้สนับสนุนยังถูกใช้โดยพรรคของกันจาร์ในการหาเสียงของเขาด้วย

หรือผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากอดีตรัฐบาลจาการ์ตา อานีส์ บาสเวเดน ซึ่งหาเสียงโดยใช้แชตบอตที่ขับเคลื่อนด้วย OpenAI ให้คอยตอบคำถามเกี่ยวกับนโยบายของเขาใน WhatsApp แต่เขาก็ได้เตือนไม่ให้ใช้เอไอในการเลือกตั้ง หลังจากที่เขาตกเป็นเหยื่อของเสียงที่สร้างจากเทคโนโลยี Deepfake เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา

“เราต้องมีความสำคัญเพราะขณะนี้มีเทคโนโลยีเอไอที่สามารถสร้างเสียงหรือภาพที่ดูเหมือนจริงได้” อานีส์กล่าว

TAPP องค์กรไม่แสวงผลกำไรในกรุงจาการ์ตากล่าวว่าวิดีโอ Deepfake เช่น วิดีโอซูฮาร์โตแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเอไอในการบิดเบือนความคิดของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

โฆษฏองค์กรบอกว่า “รัฐบาลยังไม่ตระหนักถึงอันตรายของการปลอมแปลง ... เรารู้ว่าเอไอมีความสามารถอะไร และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เรากังวลเกี่ยวกับการที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งถูกบิดเบือนความคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงใกล้ถึงการเลือกตั้งเช่นนี้”

 

เรียบเรียงจาก CNN

คอนเฟิร์ม “ลิซ่า ลลิษา” ร่วมแสดงซีรีส์ดัง ‘The White Lotus’ ซีซัน 3

แฉกลยุทธ์ใหม่! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกคุย 2 นาที-ดูดเงินได้เกลี้ยงบัญชี

เปิดตัวละครใหม่ยัน "น้องพร" โกหกทั้งหมด

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ