ระหว่างการลงพื้นที่หาเสียงในรัฐแคโรไลนาเมมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า ตนเองพร้อมจะสนับสนุนให้รัสเซียโจมตีชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต (NATO) หากประเทศเหล่านี้ยังไม่สามารถทำตามเป้าหมายการเพิ่มงบประมาณกลาโหม
คำพูดบนเวทีหาเสียงในรัฐเซาท์แคโรไลนา เป็นการตอกย้ำจุดยืนของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ที่พยายามกดดันชาติสมาชิกนาโตปรับเพิ่มสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านการทหาร
ฮามาสเตือน หากอิสราเอลบุกเมืองราฟาห์ อาจกระทบเจรจาปล่อยตัวประกัน
ประธานาธิบดีฮังการีลาออก เซ่นปมอภัยโทษคดีล่วงละเมิดทางเพศ
“ทรัมป์” ลั่น หากได้เป็นปธน.จะยกเลิกข้อจำกัดอาวุธปืนทั้งหมดของ “ไบเดน”
โดยในปี 2014 หลังจากที่รัสเซียยึดคาบสมุทรไครเมียจากยูเครนและผวนกเป็นดินแดนของตัวเอง ชาติสมาชิกนาโตและพันธมิตรทั้งหมด 31 ประเทศได้ตกลงกันว่า เมื่อถึงปี 2024 จะเพิ่มงบประมาณรายจ่ายด้านการป้องกันประเทศให้ถึง 2% ของผลิตภัณฑ์รวมประชาชาติ (GDP) แต่จากข้อมูลของนาโตพบว่ามีเพียง 11 ประเทศเสมาชิกท่านั้นที่ทำได้ตามเป้าหมาย
อย่างไรก็ตาม คำปราศรัยของทรัมป์ถูกมองป็นการขู่ว่า สหรัฐฯ อาจจะไม่ให้ความช่วยเหลือด้านการทหารแก่ประเทศสมาชิกที่จัดสรรงบประมาณด้านการไม่ถึงตามเป้าหมาย แม้นาโตมีบทบัญญัติว่าด้วยการป้องกันประเทศร่วมกัน
เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต เตือนว่า การแสดงความคิดเห็นในลักษณะนี้จะเป็นการทำลายความมั่นคงของชาติสมาชิกทั้งหมดและทำให้ทหารอเมริกัน รวมถึงชาติพันธมิตรในยุโรป ตกอยู่ในความเสี่ยง
เช่นเดียวกับ วลาดิสลาฟ โคซิเนียก-กามิซ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมโปแลนด์ ซึ่งโพสต์ข้อความระบุว่า จุดมุ่งหมายของของนาโตคือการป้องกันประเทศร่วมกัน ดังนั้นการทำลายความน่าเชื่้อถือของชาติพันธมิตรย่อมทำให้องค์กรอ่อนแอลงด้วย
ด้าน ชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป ระบุว่า คำพูดที่ไม่ระมัดระวังจะเป็นประโยชน์ต่อประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมวุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติ 67-27 เสียง เห็นชอบให้ดำเนินการพิจารณาร่างกฎหมายช่วยเหลือพันธมิตรต่างชาติมูลค่า 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (3.2 ล้านล้านบาท) ในขั้นต่อไป นับเป็นการกำจัดอุปสรรคสำคัญหลังจากก่อนหน้านี้ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวถูกตีตกไป เนื่องจากได้เสียงโหวตไม่ถึง 60 เสียง
คาดว่าการลงมติเพื่อเห็นชอบจะเกิดขึ้นใรอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งงบประมาณก้อนนี้จะถูกจัดสรรให้กับยูเครนมากที่สุดคือ 6.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (2 ล้านล้านบาท) เพื่อนำไปต่อสู้กับรัสเซีย ตามมาด้วยอิสราเอลที่จะได้รับเงิน 1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (5 แสนล้านบาท) และไต้หวัน รวมทั้งประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่ถูกจีนคุกคาม จะได้เงินรวมกัน 4.8 พันล้านดอลลลาร์ สหรัฐ (1.7 แสนล้านบาท)
ขณะที่หน่วยข่าวกรองกระทรวงกลาโหมยูเครนเปิดเผยเมื่อวันที่ 11 ก.พ. ว่า กองทัพรัสเซียที่ประจำการในพื้นที่ยึดครองได้รับบริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมสตาร์ลิงก์ จากบริษัทสเปซเอ็กซ์ ที่ อีลอน มัสก์ เป็นเจ้าของ โดยหน่วยข่าวกรองยูเครนได้อ้างข้อมูลจากการดักฟังบทสนทนาทางวิทยุของทหารรัสเซียที่พูดถึงการติดตั้งอุปกรณ์รับส่งสัญญาณจากดาวเทียมสตาร์ลิงก์ เพื่อใช้งานระบบอินเทอร์เน็ต
อย่างไรก็ตาม สเปซเอ็กซ์ยืนยันว่า ไม่มีการทำธุรกิจใด ๆ ที่เกี่ยวกับรัฐบาลหรือกองทัพรัสเซีย แต่มีรายงานว่าอุปกรณ์รับส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากดาวเทียมสตาร์ลิงก์สามารถหาซื้อด้ทั่วไปในหลายประเทศ
คอนเฟิร์ม “ลิซ่า ลลิษา” ร่วมแสดงซีรีส์ดัง ‘The White Lotus’ ซีซัน 3
แฉกลยุทธ์ใหม่! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกคุย 2 นาที-ดูดเงินได้เกลี้ยงบัญชี