ช่วงเช้าวันที่ 4 ก.ย. ตามเวลาท้องถิ่นรัฐจอร์เจีย สหรัฐฯ มีรายงานว่า เกิดเหตุมือปืนบุกกราดยิงโรงเรียนมัธยมอาปาลาชี (Apalachee) ในเมืองวินเดอร์ มณฑลบาร์โรว์ เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ได้รับรายงานเหตุยิงกันที่โรงเรียนแห่งนี้เมื่อเวลาประมาณ 10:20 น. ตามเวลาท้องถิ่น (21.20 ตามเวลาประเทศไทย)
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้บุกเข้าไปควบคุมสถานการณ์ ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะยอมมอบตัว และถูกควบคุมตัวโดยทันที เบื้องต้นมือปืนที่ถูกจับกุมตัวได้เป็นนักเรียนวัย 14 ปี โดยล่าสุดถูกจับกุมตัวเข้าห้องขัง และจะถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม
เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า สามารถจับกุมตัว โคลต์ เกรย์ นักเรียนของโรงเรียนแห่งนี้ได้ โดยเขาจะถูกพิจารณาคดีในฐานะผู้ใหญ่คนหนึ่ง ไม่ใช่เยาวชน
ด้าน จั๊ด สมิธ นายอำเภอ กล่าวในการแถลงข่าวว่า “ไม่กี่นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุ รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจโรงเรียน 2 นายที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลโรงเรียน ซึ่งพบเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวในทันที ... ผู้ต้องสงสัยได้เข้ามอบตัวในทันที เขายอมแพ้ หมอบลงกับพื้น เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวเขาไว้”
น้ำท่วม 67 กทม. เฝ้าระวัง เร่งอุดจุดฟันหลอริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จ่ายเงินก้อนแรกทันต้น ก.ย.67
เปิดโผ 30 ชื่อลุ้น "บัลลงดอร์" 2024 ไร้ เมสซี่-โรนัลโด้
ส่วนผลการสอบสวน ยังไม่พบถึงความเชื่อมโยงระหว่างมือปืนและเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์นี้ ซึ่งประกอบด้วยผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 คน และเสียชีวิต 4 คน ซึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิตเป็นนักเรียน 2 คน และครู 2 คน
อย่างไรก็ตาม ตามข้อมูลของเอฟบีไอ ผู้ก่อเหตุมีประวัติเคยโพสต์ภาพปืนพร้อมข้อความข่มขู่เมื่อช่วงเดือน พ.ค. 2023 เจ้าหน้าที่สืบสวนจึงได้เข้าเยี่ยมผู้ต้องสงสัย และสัมภาษณ์เขาและพ่อของเขา “พ่อของเขาให้การว่า เขามีปืนล่าสัตว์อยู่ในบ้าน แต่ผู้ต้องสงสัยไม่ได้เข้าถึงปืนโดยไม่มีใครดูแล” ขณะที่ผู้ต้องสงสัยซึ่งมีอายุ 13 ปีในขณะนั้น ปฏิเสธว่าไม่ได้ข่มขู่ทางออนไลน์ และเจ้าหน้าที่ “ได้แจ้งเตือนโรงเรียนในพื้นที่ให้ติดตามพฤติกรรมผู้ต้องสงสัย”
เอฟบีไอระบุว่า “ในเวลานั้น ไม่มีเหตุผลสำหรับการจับกุมหรือการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายเพิ่มเติมใด ๆ ในระดับท้องถิ่น ระดับรัฐ หรือระดับรัฐบาลกลาง”
หลังเกิดเหตุผู้ปกครองเข้าไปรับลูกกลับบ้าน ส่วนโรงเรียนทุกแห่งในพื้นที่ต้องเข้าสู่มาตรการล็อคดาวน์ตลอดทั้งสัปดาห์ และเปิดจุดให้คำปรึกษาด้านสภาพจิตใจ
ด้าน ไลลา ซายาแรธ นักเรียนซึ่งเรียนอยู่ในห้องเดียวกับผู้ต้องสงสัย กล่าวกับ CNN ว่า ผู้ต้องสงสัยออกจากห้องไปเมื่อเริ่มเรียนวิชาพีชคณิต เธอเล่าว่า เขากลับมาและเคาะประตู ซึ่งล็อกโดยอัตโนมัติ แต่มีนักเรียนอีกคนไม่ยอมให้เขาเข้าไปหลังจากสังเกตเห็นว่าเขามีปืน โดยหลังจากเข้าห้องของเธอไม่ได้ ผู้ก่อเหตุจึงไปที่ห้องเรียนข้าง ๆ แทนและเริ่มยิงปืน
ทาง อเล็กซานดรา โรเมโร นักเรียนในห้องข้าง ๆ ที่มือปืนบุกเข้ามา กล่าวว่า เธอกำลังนั่งอยู่ในห้องเรียนเมื่อมีคนบุกเข้ามาและตะโกนใส่เด็กนักเรียน เตือนให้นั่งลง “ฉันจำได้ว่ามือของฉันสั่น ฉันรู้สึกแย่เพราะทุกคนร้องไห้ ฉันยังนึกภาพทุกอย่างออกเลย เช่น เลือด เสียงตะโกน”
มาร์เกส โคลแมน วัย 14 ปี กล่าวว่า เขาเห็นผู้ก่อเหตุถือปืนขนาดใหญ่ใหญ่ก่อนที่การยิงจะเริ่มขึ้น “ผมลุกขึ้นแล้วเริ่มวิ่ง เขาเริ่มยิงปืนประมาณ 10 ครั้ง เขายิงอย่างน้อย 10 นัด ... ครูของผมเริ่มปิดกั้นประตูด้วยโต๊ะเรียน” หลังจากลุกขึ้น นักเรียนคนดังกล่าวเล่าว่าเขาเห็น “เพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งนอนอยู่บนพื้นและมีเลือดออกมาก” เด็กผู้หญิงอีกคนถูกยิงที่ขา และเพื่อนคนหนึ่งถูกยิงที่ท้อง
นักเรียนวัย 17 ปีรายหนึ่งซึ่งอยูู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุ เป็นช่วงที่เรียนวิชาเคมีในห้องเรียน ได้ยินเสียงปืนดังสนั่น ก่อนที่ครูจะไปเปิดประตูเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นมีครูอีกคนหนึ่งจะวิ่งเข้ามา และบอกให้ครูอีกคนหนึ่งปิดประตู เพราะมีคนก่อเหตุกราดยิงอยู่ ก่อนที่ครูจะล็อกประตู และนักเรียนทุกคนก็วิ่งไปหลบภัยอยู่หลังห้อง ท่ามกลางเสียงกรีดร้องจากข้างนอก
นักเรียนรายนี้ยังเล่าอีกว่า เขาได้ยินเสียงคนทุบประตูห้องเรียนของเขา และตะโกนให้เปิดประตูหลายครั้ง ก่อนที่เสียงตะโกน และเสียงเคาะประตูจะหยุดลง โดยมีเสียงปืน และเสียงกรีดร้องดังขึ้นต่อเนื่อง ก่อนที่จะมีคนมาช่วยอพยพไปยังสนามฟุตบอลด้านนอกโรงเรียน
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ และจิลล์ ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลข 1 ไว้อาลัยต่อเหยื่อผู้เสียชีวิต พร้อมเรียกร้องให้สภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายควบคุมอาวุธปืน
ประธานาธิบดีไบเดน ชี้ว่า สิ่งที่ควรเกิดขึ้นในช่วงเปิดเทอมคือความสนุกสนาน แต่ว่าได้กลายเป็นเครื่องเตือนใจที่น่าสยดสยองอีกครั้งว่า ความรุนแรงของอาวุธปืน ยังคงทำให้ชุมชนแตกแยก
ด้านอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเคยประกาศว่าจะยกเลิกกฎหมายควบคุมปืนที่ไบเดนประกาศใช้ โพสต์ข้อความว่า “มันไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนี้ เด็ก ๆ ที่เรารักเหล่านี้ถูกพรากจากเราไปเร็วเกินควรโดยสัตว์ประหลาดที่ป่วยไข้และวิกลจริต”
เรียบเรียงจาก BBC