จากกรณีสำนักข่าวซีเรียนอาหรับ (SANA) ของรัฐบาลซีเรียรายงานว่า พื้นที่ของซีเรียถูกอิสราเอลโจมตีเมื่อเวลา 23.20 น ตามเวลาท้องถิ่นของคืนวันที่ 8 ก.ย. โดยมีเป้าหมายทางทหารหลายแห่งทางภาคตะวันตกของประเทศ
แม้ระบบป้องกันภัยทางอากาศของซีเรียจะสามารถป้องกันขีปนาวุธไว้ได้หลายลูก แต่เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขรายงานพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 คน เพิ่มขึ้นจากตัวเลขผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 5 คน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมี 36 คน จำนวนนี้ 6 คนมีอาการสาหัส
นี่นับเป็นการโจมตีเป้าหมายในซีเรียโดยฝีมือกองทัพอิสราเอลที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดตั้งแต่สงครามฉนวนกาซาเริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว
นอกจากนี้ การโจมตียังก่อให้เกิดเพลิงไหม้ใน 2 จุด ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงพยายามดับไฟ และพบความเสียหายต่อทรัพย์สินในเขตที่อยู่อาศัยของพลเรือน
เจ้าหน้าที่ข่าวกรองในภูมิภาคตะวันออกกลางเปิดเผยว่าหนึ่งในสถานที่ที่เป็นเป้าหมายคือศูนย์วิจัยด้านการทหารเพื่อการผลิตอาวุธเคมี ตั้งอยู่ใกล้ๆเมืองมาสยาฟ (Masyaf) ซึ่งถูกโจมตีหลายครั้ง โดยเชื่อว่าศูนย์วิจัยดังกล่าวมีผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารจากอิหร่านร่วมทำงานอยู่ด้วย
อย่างไรก็ตามทั้งรัฐบาลซีเรียและรัฐบาลอิหร่านยืนยันว่าศูนย์วิจัยที่ถูกโจมตีไม่ใช่สถานที่ผลิตอาวุธเคมี โดยกระทรวงการต่าง
ประเทศของทั้งสองชาติได้ประณามการโจมตีที่เกิดขึ้น
ส่วนฝ่ายอิสราเอลยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมาอิสราเอลพยายามโจมตีเป้าหมายหลายแห่งในซีเรีย ที่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มติดอาวุธแนวร่วมอิหร่าน ซึ่งให้การสนับสนุนประธานาธิบดี บาชาร์ อัล อัสซาด ผู้นำซีเรีย ในสงครามกลางเมือง
สำหรับการโจมตีเป้าหมายอิหร่านในซีเรียครั้งสำคัญก่อนหน้านี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยอิสราเอลได้ยิงขีปนาวุธโจมตีสถานทูตอิหร่านในกรุงดามัสกัส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 16 คน รวมถึงนายทหารคนสำคัญของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม หรือ IRGC และนำไปสู่การส่งโดรนและยิงขีปนาวุธนับร้อยลูกโจมตีอิสราเอลในเดือนเดียวกัน
อุตุฯ เตือนช่วง 13-19 ก.ย. นี้ เฝ้าระวัง “ฝนตกหนัก”
เช็กสถิติ 10 นัดหลัง บอลไทย พบ เวียดนาม ก่อนศึก LP BANK CUP 2024