เมื่อคืนวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น สมาชิกพรรครีพับลิกันและเดโมแครต ต่างพูดคุยถึงผลงานการดีเบตระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ภายหลังเสร็จสิ้นการดีเบตครั้งแรก
โดยเริ่มจาก เจ.ดี. แวนซ์ ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี จากพรรครีพับลิกันได้วิพากษ์วิจารณ์เนื้อหาการดีเบตของรองประธานาธิบดีแฮร์ริสว่าขาดเนื้อหาที่แท้จริง และดูเหมือนว่าคำพูดของเธอราวกับเธอไม่ได้ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีคนปัจจุบันของสหรัฐฯ
เปิดภาพดาวเทียม น้ำท่วมเชียงราย-เชียงใหม่ 86,438 ไร่
ไต้หวันระงับใช้งานเครื่องบินมิราจ 2000 หลังตกทะเล
สรุปบรรยากาศ นายกฯ แพทองธาร แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา วันแรก
ด้านลารา ทรัมป์ ลูกสะใภ้ของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวหาว่า แฮร์ริสโกหก และชี้ว่า ผู้ดำเนินรายการดีเบตเห็นอกเห็นใจเธอจนทำให้เธอได้สถานการณ์เป็นที่เป็นต่อ
ส่วนฝั่งพรรคเดโมแครต วุฒิสมาชิกจากรัฐคอนเนตทิคัต คริส เมอร์ฟี ได้ชื่นชมผลงานของแฮร์ริส และเรียกร้องให้มีการดีเบตครั้งที่ 2
เช่นเดียวกับวุฒิสมาชิกรัฐอิลลินอยส์ แทมมี ลัดดา ดักเวิร์ธ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ เชื้อสายไทย ได้ออกมาสนับสนุนแฮร์ริส โดยเธอมั่นใจว่า แฮร์ริสทำในสิ่งที่ควรต้องทำอย่างแน่นอน และการดีเบตของเธอแสดงให้เห็นว่า แฮร์ริสมีแผนการที่ก้าวไปข้างหน้า
ดักเวิร์ธบอกว่า "ฉันคิดว่าแฮร์ริสทำสิ่งที่เธอต้องทำอย่างแน่นอน ซึ่งนี่แสดงให้คนอเมริกันเห็นว่า เธอมีแผนที่จะก้าวไปข้างหน้า เธอเอื้อมมือไปพูดคุยกับคนอเมริกันว่า เธอห่วงใยพวกเขา และเห็นได้ชัดว่าเธอเป็นผู้ชนะการดีเบตครั้งนี้ โดยโดนัลด์ ทรัมป์เพิ่งเริ่มคะแนนตกต่ำ ที่เราได้คำตัดสินคดี Roe v Wade และมันก็แย่ลงเรื่อยๆ สำหรับเขา เมื่อการดีเบตดำเนินต่อไป"
ทั้งนี้ระหว่างการดีเบต แฮร์ริสตั้งรับทรัมป์ด้วยการโจมตีข้อจำกัดการทำแท้ง ความเหมาะสมกับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ รวมถึงประเด็นคดีความกฎหมายมากมาย ขณะที่ผู้สมัครทั้งสองต่างแสวงหาช่วงเวลาแห่งการรณรงค์หาเสียงการเลือกตั้ง