สถิติเบื้องต้นที่เก็บจากอุปกรณ์อินฟาเรด ซึ่งกระทรวงสิ่งแวดล้อมญี่ปุ่นนำไปติดตั้งใน 4 เส้นทางปีนขึ้นภูเขาไฟฟูจิ ชี้ว่า จำนวนนักปีนเขา ระหว่างช่วงต้นเดือน ก.ค. ซึ่งเป็นช่วงเปิดฤดูกาลปีนเขา จนถึงช่วงต้นเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ได้ลดลงไป 14%
โดยตลอดหน้าร้อนมี มีนักปีนเขาประมาณ 178,000 คน เทียบกับปีที่แล้ว และช่วงก่อนโควิด ที่จะมีนักปีนเขาประมาณ 200,000 คน
เปิดภาพดาวเทียม น้ำท่วมเชียงราย-เชียงใหม่ 86,438 ไร่
ไต้หวันระงับใช้งานเครื่องบินมิราจ 2000 หลังตกทะเล
สรุปบรรยากาศ นายกฯ แพทองธาร แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา วันแรก
ตัวเลขนักปีนเขาที่ลดลง เป็นผลจากมาตรการคุมเข้ม ทั้งการขึ้นค่าธรรมเนียมปีนเขาอีกคนละ 2,000 เยน หรือราว 500 บาท รวมถึงการจำกัดให้นักปีนเขาสามารถขึ้นเขารายวันได้ไม่เกินวันละ 4,000 คน
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ที่กังวลเรื่องความปลอดภัยและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ยังได้นำมาตรการให้จองคิวขึ้นภูเขาไฟฟูจิแบบออนไลน์มาใช้ โดยในจำนวนนักปีนเขา 4,000 คน ต่อวัน แบ่งเป็นจองผ่านออนไลน์ 3,000 คน ผ่านเว็บไซต์ของจังหวัดและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง และต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน
แต่ในภาพรวม จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ทุบสถิติเกือบ 18 ล้านคน
สำหรับภูเขาไฟฟูจิ ส่วนยอดจะถูกปกคลุมด้วยหิมะเกือบตลอดทั้งปี แต่ในช่วงหน้าร้อน นักท่องเที่ยวชอบขึ้นไปเพื่อรอชมพระอาทิตย์ขึ้น ที่ระดับความสูง 3,776 เมตร