อิสราเอลประสบความสำเร็จในภารกิจสังหารผู้นำกลุ่มฮามาส ยาห์ยา ซินวาร์ ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในคนวางแผนก่อเหตุโจมตีข้ามพรมแดนเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2023
แม้ว่าการเสียชีวิตของซินวาร์จะเป็นข่าวร้ายสำหรับฮามาส แต่ก็ไม่ได้เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการล่มสลายของกลุ่มในทันที เพราะทางฮามาสออกมาให้คำมั่นว่าจะสู้ต่อไป และกล่าวว่าการสังหารผู้นำ รวมถึงซินวาร์ ไม่ได้หมายความว่าขบวนการของพวกเขาจะสิ้นสุดลง
แถลงการณ์เมื่อวันที่ 18 ต.ค. จากสำนักงานการเมืองฮามาสระบุว่า “ฮามาสแข็งแกร่งขึ้นและเป็นที่นิยมมากขึ้นทุกครั้ง และผู้นำเหล่านี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของคนรุ่นต่อไปที่จะเดินหน้าสู่ปาเลสไตน์ที่เป็นอิสระ”
เมื่อซินวาร์เข้ามาแทนที่ อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นนำฝ่ายการเมือง และโมฮัมเหม็ด เดอิฟ ผู้นำฝ่ายกองกำลังทหาร ซึ่งถูกอิสราเอลสังหารไปก่อนหน้านี้ เขาก็รวมตำแหน่งผู้นำทั้งฝ่ายทหารและฝ่ายการเมืองในฉนวนกาซาเข้าด้วยกัน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่น่าจะเกิดขึ้นในครั้งนี้ และยังไม่ชัดเจนว่ากลุ่มอิสลามิสต์จะฟื้นตัวจากการโจมตีครั้งล่าสุดนี้ได้อย่างไร
ข่าวลือเกี่ยวกับผู้สืบทอดตำแหน่งของซินวาร์แพร่กระจายไปทั่ว และไม่ชัดเจนว่าซินวาร์เองได้ทิ้งคำสั่งไว้หรือไม่ว่าใครควรมาแทนที่เขา
แต่นี่คือรายชื่อของผู้ที่มีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำกลุ่มฮามาสคนใหม่
โมฮัมเหม็ด ซินวาร์
โมฮัมเหม็ด ซินวาร์ น้องชายของยาห์ยา หลายคนมองว่าเขาเป็นทายาทโดยชอบธรรม และเช่นเดียวกับพี่ชายของเขา โมฮัมเหม็ดเป็นนักรบหัวรุนแรงที่เพิ่งได้เป็นผู้บัญชาการทหารของกลุ่มฮามาส
ปัจจุบันชะตากรรมของโมฮัมเหม็ดยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชีด โดยเมื่อวันที่ 18 ต.ค. โฆษกของกองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) กล่าวว่า พวกเขากำลังค้นหาตัวโมฮัมเหม็ดอย่างจริงจัง
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนมองว่า กลุ่มฮามาสน่าจะต้องการเลือกสมาชิกที่อยู่ในกาตาร์เป็นผู้นำคนใหม่มากกว่า เพื่อป้องกันการลอบสังหาร แล้วให้โมฮัมเหม็ดรับหน้าที่ผู้บัญชาการการรบแทน
แหล่งข่าวฮามาสระบุว่า โมฮัมเหม็ด ซินวาร์ ผู้บัญชาการกองพลผู้มากประสบการณ์รายนี้ไม่ค่อยปรากฏตัวต่อสาธารณชน เป็นเป้าหมายของอิสราเอลมานานแล้ว และรอดชีวิตจากความพยายามลอบสังหารหลายครั้ง
มูซา อาบู มาร์ซุก
รองหัวหน้าฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาสซึ่งช่วยก่อตั้งกลุ่มฮามาสขึ้นมา อาจเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งผู้สืบทอดตำแหน่งของซินวาร์ได้เช่นกัน เขาใช้เวลา 5 ปีอยู่ในสหรัฐฯ ที่เอฟบีไอจะกำหนดให้เขาเป็นผู้ก่อการร้าย ในที่สุดเขาก็ถูกเนรเทศ
คาลิด เมชาล
อดีตหัวหน้าฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส ถือเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งที่ทรงอิทธิพลอีกคน เมชาลเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ โดยเคยพบปะกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคน เช่น อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จิมมี คาร์เตอร์, กษัตริย์อับดุลลาห์ที่ 2 แห่งจอร์แดน และผู้นำสูงสุดอิหร่าน อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี
อย่างไรก็ตาม เขาอาจเผชิญกับความยากลำบากจากการที่เคยสนับสนุนการลุกฮือของชาวซุนนีให้ต่อต้านประธานาธิบดีซีเรีย บาชาร์ อัล อัสซาด ในอดีต ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้อิหร่าน พันธมิตรคนสำคัญ
เมชาลเคยเป็นเป้าหมายการลอบสังหารของอิสราเอลในอดีต ในปี 1997 เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของอิสราเอลซึ่งปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวชาวแคนาดาได้ฉีดสารพิษเข้าหูของเมชาล เหตุการณ์นี้ได้รับการเผยแพร่ไปอย่างกว้างขวาง เนื่องจากเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของอิสราเอลถูกจับกุมในจอร์แดน
คาลิล อัล ไฮยา
รองหัวหน้าคนสนิทของซินวาร์ เขาทำหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้เจรจาของฮามาสระหว่างการเจรจาหยุดยิงเมื่อไม่นานนี้ในกรุงไคโรของอียิปต์ และประจำการอยู่ที่กาตาร์
เขาได้กล่าวท้าทายอิสราเอลเมื่อวันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมาว่า จะไม่ส่งตัวประกันชาวอิสราเอลกลับคืนจนกว่ากองทหารอิสราเอลจะถอนทัพออกจากฉนวนกาซาและสงครามสิ้นสุดลง
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า เมื่อซินวาร์เสียชีวิต ความเป็นผู้นำของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาจึงตกอยู่ภายใต้การควบคุมของไฮยาชั่วคราว แต่สงครามที่ยังคงดำเนินต่อไปและปัญหาด้านการสื่อสารอาจจำกัดการติดต่อในแต่ละวันของไฮยากับทหารในพื้นที่ ทำให้กองกำลังติดอาวุธมีอำนาจในการควบคุมกาซาแทน
แหล่งข่าวของฮามาสกล่าวว่า คาดว่าไฮยาจะไม่มีปัญหาใด ๆ ในการใช้บทบาทของเขาในฐานะ “ผู้นำโดยพฤตินัยของฉนวนกาซา” แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า ไฮยามีความสัมพันธ์ที่ดีกับกองกำลังทหารและมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับทั้งซินวาร์และฮานิเยห์
อักรอม อัตตัลลาห์ นักวิเคราะห์การเมืองปาเลสไตน์กล่าวว่า เขาคาดว่ากองกำลังติดอาวุธจะเคารพอำนาจของไฮยา แม้ตัวเขาจะอยู่ไกลถึงกาตาร์ก็ตาม