ติดตามทิศทางสงครามรัสเซีย-ยูเครน หลังการสู้รบดำเนินมาครบ 1,000 วันแล้ว ล่าสุด ทำเนียบเครมลินออกโรงกล่าวหาประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ว่ากำลังโหมไฟขัดแย้ง หลังมีรายงานว่าอีกฝ่ายเตรียมจะอนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลโจมตีเป้าหมายภายในดินแดนรัสเซีย โดยทางรัสเซียประกาศชัดเจนว่าจะเอาคืนอย่างแน่นอน หากยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯ โจมตีเข้ามาจริง
นาย ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย ออกมาเตือนว่าการที่ผู้นำสหรัฐฯ อนุมัติให้ยูเครนสามารถใช้ขีปนาวุธพิสัยไกล (ATACMS) ที่ได้รับ โจมตีเป้าหมายที่อยู่ลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซียได้ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งสำคัญ แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ที่กำลังจะหมดวาระในอีก 2 เดือน ต้องการสุมไฟความขัดแย้ง และยกระดับความรุนแรง
"พิชัย" เผย โอนเงิน 10,000 บาท เฟสสอง ให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ไม่เกินตรุษจีน 68
วันหยุดธันวาคม 2567 เช็กวันสำคัญ - วางแผนลา หยุดยาวได้มากถึง 11 วัน
5 สิ่งใหม่ คาดมาใน Samsung Galaxy S25 Ultra
“หากมีการตัดสินใจดังกล่าวและแจ้งให้รัฐบาลเคียฟทราบ นั่นหมายถึงความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นรอบใหม่ และยังถือเป็นสถานการณ์ใหม่ในแง่การมีส่วนร่วมของสหรัฐฯ ในความขัดแย้งครั้งนี้”
“จนถึงตอนนี้ ยังมีแต่รายงานในสื่อตะวันตก แต่มันชัดเจนว่ารัฐบาลวอชิงตันชุดปัจจุบันตั้งใจ อย่างที่พวกเขาเคยพูดไว้ ที่จะเติมเชื้อไฟและเพิ่มความตึงเครียดให้ความขัดแย้งนี้ต่อไป”
สอดคล้องกับแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ที่เตือนว่ จะมีการตอบโต้อย่างเหมาะสมและจริงจัง หากยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯ โจมตีดินแดนรัสเซีย เพราะจะเท่ากับว่าสหรัฐฯ และชาติบริวาร เข้ามาเป็นคู่ขัดแย้งโดยตรงของรัสเซียแล้ว
จนถึงขณะนี้ ทั้งทำเนียบขาวและกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือเพนตากอน ยังไม่ได้ออกมายืนยันเรื่องการตัดสินใจของไบเดน และยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ผู้นำคนใหม่อย่าง ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับแจ้งเรื่องนี้ก่อน หรือเห็นด้วยกับการตัดสินใจครั้งนี้หรือไม่ แต่ทรัมป์ให้คำมั่นมาตั้งแต่ตอนหาเสียงแล้วว่า จะยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน ให้ได้โดยเร็ว
ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เคยขีดเส้นแดงว่า สหรัฐฯ และชาติตะวันตกจะต้องไม่อนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย มิเช่นนั้น อาจเจอการตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์
ด้านอดีตทูตสหรัฐฯ มองว่า ความเคลื่อนไหวของไบเดน จะช่วยเพิ่มอำนาจต่อรองให้ยูเครน หากกลับสู่โต๊ะเจรจา แต่ยังไม่เชื่อว่ารัสเซียจะตอบโต้สหรัฐฯ กลับแบบตรงๆ ด้วยวิธีทางทหาร
"ผมคิดว่าจะมีตอบโต้ทางอ้อมบางอย่าง และมันอาจมาในรูปของการโจมตีทางไซเบอร์ ก่อกวนแหล่งจ่ายไฟ ผมหมายถึง มันมีหลายอย่างที่รัสเซียทำได้ โดยไม่ต้องไปโจมตีสหรัฐฯ ตรงๆ”
แหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า ยูเครนมีแผนจะทำการโจมตีด้วยขีปนาวุธพิสัยไกลในเร็วๆนี้ แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม จากข้อกังวลด้านความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน ปัจจุบัน ยูเครนได้รับระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธีพิสัยไกล หรือ ATACMS (อะแทคซิมส์) จากสหรัฐฯ ซึ่งขีปนาวุธรุ่นนี้สามารถยิงออกไปได้ไกลถึง 300 กม. และยากต่อการสกัดกั้น เพราะมีความเร็วสูง นอกจากนี้ ยังมีสตอร์ม ชาโดว์ (Storm Shadow) ขีปนาวุธร่อนของอังกฤษและฝรั่งเศส ซึ่งมีพิสัยการยิงสูงสุดประมาณ 250 กม.
ที่ผ่านมาประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน พยายามร้องขอให้สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรอนุญาตให้ใช้ขีปนาวุธเหล่านี้โจมตีเป้าหมายทางทหารในแผ่นดินรัสเซีย เพื่อสกัดการโจมตีทางอากาศจากทางฝั่งมอสโก แต่ได้รับการปฏิเสธมาโดยตลอด
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน ดำเนินมาถึงวันที่ 1,000 ในวันนี้ ซึ่งสถานการณ์ล่าสุดในพื้นที่ รัสเซียได้ยกระดับโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของยูเครน และระดมโจมตีเมืองท่าโอเดสซา ริมฝั่งทะเลดำ ทางภาคใต้ของยูเครน เป็นครั้งที่ 2 ในรอบหลายวัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน บาดเจ็บ 40 คน