วันที่ 17 ม.ค. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนเหตุโศกนาฏกรรมเจจูแอร์ (Jeju Air) ได้ตรวจพบ “ขนนกและเลือดในเครื่องยนต์ทั้งสองเครื่อง” ของเครื่องบินโบอิ้ง B737-800 ลำที่เกิดเหตุ
การที่นกบินชนเครื่องยนต์ทั้งสองเครื่องนั้นเกิดขึ้นไม่บ่อยนักในการบินทั่วโลก แม้ว่าจะมีกรณีที่นักบินสามารถนำเครื่องบินลงจอดได้สำเร็จโดยไม่มีผู้เสียชีวิตในสถานการณ์ดังกล่าว เช่น เหตุการณ์ปาฏิหาริย์บนแม่น้ำฮัดสันที่สหรัฐฯ ในปี 2009 และเหตุการณ์เครื่องบินลงจอดในทุ่งข้าวโพดที่รัสเซียในปี 2019
สำหรับเหตุเครื่องบินเจจูแอร์ ซึ่งลงจอดฉุกเฉินโดยไม่กางล้อและชนเข้ากับเนินคอนกรีตที่ปลายรันเวย์จนระเบิดและมีผู้เสียชีวิตถึง 179 รายนั้น ข้อมูล ณ ขณะนี้ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ 4 นาที นักบินรายงานว่ามีนกชนเครื่องบินและประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน (เมย์เดย์) ก่อนจะบินวนกลับและพยายามลงจอดที่รันเวย์ฝั่งตรงข้าม
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สอบสวนระบุว่า พบขนนกในเครื่องยนต์เครื่องหนึ่งที่กู้มาจากที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมของเกาหลีใต้ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นว่าพบขนนกและเลือดในเครื่องยนต์ทั้งสองเครื่องจริงตามที่มีรายงานหรือไม่
ในส่วนของกล่องดำ 2 กล่องของเครื่องบินซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการหาสาเหตุ พบว่าหยุดบันทึกข้อมูลประมาณ 4 นาทีก่อนเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งถือเป็นความท้าทายต่อการสืบสวนที่ยังคงดำเนินอยู่
ซิม จายดง อดีตเจ้าหน้าที่สอบสวนอุบัติเหตุของกระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้ กล่าวว่า ข้อมูลที่หายไปจากกล่องดำนั้นเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ และชี้ให้เห็นว่า อาจมีการตัดพลังงานทั้งหมด รวมถึงพลังงานสำรอง ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก
เรียบเรียงจาก Reuters