สำนักข่าวซินหัวสื่อรัฐบาลจีนเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ที่ผ่านมา หลิว จินสง อธิบดีกรมกิจการเอเชีย กระทรวงการต่างประเทศจีน ได้พบกับ นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง และ ทิน เมือง ชเว เอกอัครราชทูตเมียนมา เพื่อแสดงความกังวลและหารือประเด็นความร่วมมือปราบปรามการฉ้อโกงในโลกออนไลน์ ซึ่งหลายคดีดีเกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา สร้างความเสียหายให้กับทั้งชาวจีน และประเทศอื่น ๆ
โดยหลิวได้แสดงความหวังว่า ไทยและเมียนมาจะให้ความสำคัญต่อปัญหาดังกล่าวโดยใช้มาตราการที่เข้มข้นในการต่อสู้อาชญากรรมเหล่านีั คุ้มครองความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดไปจนถึงไม่ปล่อยให้ผู้กระทำความผิดลอยนวล
นอกจากนี้ หลิวได้ยืนยันถึงความตั้งใจของจีนที่จะกระชับความร่วมมือทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคีกับชาติสมาชิกอาเซียนในการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับการแลกเปลี่ยนระดับประชาชน เช่นการท่องเที่ยว และกิจกรรมทางวัฒนธรรม
ขณะที่เอกอัครราชทูตไทยและเมียนมายืนยันว่า ให้ความสำคัญต่อความกังวลของจีน และแสดงความเสียใจต่อหลายคดีที่เกิดขึ้น รวมทั้งยอมรับว่าการฉ้อโกงในโลกออนไลน์เป็นภัยคุกคามพร้อมกับย้ำว่าจะใช้มาตรการปราบปรามอย่างจริงจัง เช่นการสร้างความร่วมมือระดับนานาชาติ
เอกอัครราชทูตทั้งสองท่านยังให้คำมั่นว่าจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ถูกจับตัวไป ใช้บทลงโทษที่รุนแรงกับกลุ่มผู้กระทำผิดกฎหมาย ยกระดับมาตรการควบคุมตามแนวชายแดน และสร้างกลไกในระยะยาวเพื่อกำจัดแหล่งต้นทางของการก่ออาชญากรรมข้ามพรมแดน
พื้นที่ที่ถูกเชื่อว่าเป็นต้นทางหลักของอาชญากรรมเหล่านี้คือเมือง "ชเวก๊กโก่" ในจังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ซึ่งบางส่วนอยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNA ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่เป็นกองกำลังพิทักษ์ชายแดน หรือ BGF ให้รัฐบาลเมียนมา และมีพันเอก หม่อง ชิตตู เป็นแกนนำ
โดยเมื่อวันที่ 22 ม.ค. กองกำลังดังกล่าวชี้แจงว่าไม่เคยร่วมลงทุนเพื่อแบ่งผลประโยชน์กับแก๊งหลอกลวงออนไลน์ แต่เป็นเพียงการให้เช่าที่ดินประกอบธุรกิจ ซึ่งอนุญาตเฉพาะกิจการถูกกฎหมาย เช่นการเปิดโรงงาน และ การก่อสร้างที่อยู่อาศัย เพื่อส่งเสริมการจ้างงาน เพิ่มเติมจากภาคเกษตร
กองกำลังกะเหรี่ยงแห่งชาติ ยังยืนยันว่าพร้อมให้ความร่วมมือปราบปรามการค้ามนุษย์ และ ดำเนินการกับผู้กระทำผิดกฎหมาย