สหรัฐฯ จ่อขายอาวุธชุดใหญ่ ให้อิสราเอล มูลค่ากว่า 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

โดย PPTV Online

เผยแพร่

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เห็นชอบการขายอาวุธมูลค่ากว่า 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 240,000 ล้านบาท ให้แก่อิสราเอล

สำนักงานความร่วมมือด้านความมั่นคงกลาโหมของสหรัฐแถลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า กระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้ลงนามอนุมัติการขายระเบิด ชุดอุปกรณ์นำวิถีและชนวนระเบิด มีมูลค่า 6,750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 230,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของอิสราเอลในการรับมือกับภัยคุกคามในปัจจุบันและในอนาคต เสริมสร้างการป้องกันประเทศและยับยั้งภัยคุกคามในภูมิภาค 

 

 

สหรัฐ รายการทันโลก Express เสาร์-อาทิตย์
สหรัฐฯ จ่อขายอาวุธชุดใหญ่ ให้อิสราเอล มูลค่ากว่า 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯยังอนุมัติการขายขีปนาวุธ "เฮลไฟร์" (Hellfire) มูลค่า 660 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 22,000 ล้านบาท ให้กับอิสราเอลด้วยที่จะช่วยเพิ่มความสามารถของกองทัพอากาศอิสราเอลในการป้องกันชายแดนอิสราเอล โครงสร้างพื้นฐานสำคัญและศูนย์กลางประชากรในพื้นที่ต่างๆ

แม้การดำเนินการดังกล่าวยังต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา แต่ไม่น่าจะมีอุปสรรคขัดขวางในการจัดหาอาวุธให้กับอิสราเอล

ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้กองทัพอากาศอิสราเอลได้โจมตีเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในหุบเขาเบกา ทางภาคตะวันออกของเลบานอน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน และบาดเจ็บ 2 คน

กองกำลังป้องกันอิสราเอล หรือ IDF ระบุว่าเป้าหมายของการโจมตีเมื่อวานนี้เป็นสถานที่ผลิตและเก็บอาวุธเชิงยุทธศาสตร์ พร้อมทั้งเตือนว่าความเคลื่อนไหวที่ตรวจพบในที่ตั้งของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์คือการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและเลบานอน ที่บังคับใช้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน พ.ย.

ภายใต้ข้อตกลงนี้ กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ต้องถอนกำลังออกจากแม่น้ำลิทานีไปทางเหนือ ห่างจากชายแดนอิสราเอล-เลบานอน ประมาณ 30 กิโลเมตร แต่อิสราเอลยังสงวนสิทธิ์โจมตีสกัดภัยคุกคามเฉพาะหน้า ส่วนภัยคุกคามอื่นที่มีความเร่งด่วนน้อยกว่าจะอยู่ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการเฝ้าระวังที่ประกอบไปด้วยเลบานอน ฝรั่งเศส สหรัฐฯ และ กองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ "ยูนิฟิล" 

และแม้ว่าอิสราเอลจะต้องถอนทหารออกไปในวัน 26 ม.ค ที่ผ่านมา แต่เส้นตายดังกล่าวถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 18 ก.พ. นี้ ตามคำขอจากรัฐบาลอิสราเอลที่ยังคงตรวจพบอาวุธของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเขตหวงห้าม ขณะที่กองทัพเลบานอนยังไม่ส่งทหารเข้ามาดูแลพื้นที่ภาคใต้ได้อย่างทั่วถึง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเงื่อนไขสำคัญของตกลงหยุดยิง

อีกความเครื่องเคลื่อนไหวสำคัญในเลบานอน คือการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่มีอำนาจบริหารประเทศอย่างเต็มรูปแบบได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2022 โดยประธานาธิบดี โจเซป อูน ได้เลือก นาย นาวาฟ ซาลาม อดีตผู้พิพากษาศาลยุติธรรมระหว่างประเทศเป็นนายกกรัฐมนตรีคนใหม่

นายซาลาม ประกาศว่านโยบายเร่งด่วนของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่คือการปฎิรูปด้านการเงิน ฟื้นฟูความเสียหายจากสงคราม และ ปฏิบัติตามมติสหประชาชาติ ซึ่งมีความสำคัญต่อการสร้างสเถียรภาพตามแนวชายแดนอิสราเอล-เลบานอน 

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ