กองบัญชาการภาคเหนือของสหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า ได้ระดมกำลังนาวิกโยธินราว 700 นาย จากกองพันทหารราบนาวิกโยธินที่เตรียมพร้อมไว้ตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อช่วยปกป้องเจ้าหน้าที่และทรัพย์สินของรัฐบาลกลางในพื้นที่นครลอสแอนเจลิส
กองบัญชาการภาคเหนือของสหรัฐฯ มีหน้าที่หลักในการปกป้องดินแดนภายในประเทศ และมีบทบาทในการรับผิดชอบภารกิจต่าง ๆ เช่น การรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนทางใต้
การระดมกำลังทหารอาชีพที่อยู่ในประจำการถึง 700 นาย เพิ่มเติมจากกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่แล้วหลายร้อยนายในพื้นที่ ดูเหมือนจะยิ่งเพิ่มความตึงเครียดให้กับสถานการณ์ในลอสแอนเจลิสในขณะนี้
ด้านผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เกวิน นิวซัม วิจารณ์การตัดสินใจนี้อย่างรุนแรงว่าเป็นการกระทำที่ “เสียสติ”
นิวซัมระบุว่า นาวิกโยธินสหรัฐฯ เคยรับใช้ชาติอย่างกล้าหาญในสงครามมากมายเพื่อปกป้องประชาธิปไตย พวกเขาไม่ควรถูกส่งมาประจำการบนแผ่นดินของตัวเองเพื่อเผชิญหน้ากับประชาชนของตนเอง เพื่อสนองความเพ้อฝันของประธานาธิบเผด็จการคนหนึ่ง เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่อเมริกาพึงกระทำ
การประท้วงเริ่มขึ้นในย่านดาวน์ทาวน์ลอสแอนเจลิสตั้งอต่เมื่อวันที่ 6 เม.ย. หลังมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐฯ (ICE) ได้ปฏิบัติการบุกตรวจค้นทั่วเมือง
ขณะที่คำสั่งระดมกำลังนาวิกโยธินมีขึ้นหลังผู้ประท้วงออกมาบนท้องถนนในย่านดาวน์ทาวน์ลอสแอนเจลิสเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. จุดไฟเผารถยนต์และปล้นร้านค้า จนตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางตอบโต้สถานการณ์วุ่นวาย
ลอเรน โทมาซี นักข่าวจากสถานีโทรทัศน์ 9News ของออสเตรเลียถูกยิงที่ขาด้วยกระสุนยาง ขณะรายงานสดจากที่เกิดเหตุเมื่อวันอาทิตย์ โดยเธอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและจับที่ขา ก่อนที่เธอและช่างกล้องจะรีบออกห่างจากแนวตำรวจ
สถานีโทรทัศน์ 9News ยืนยันว่า ลอเรนและช่างภาพของเธอปลอดภัย และจะยังคงทำหน้าที่สำคัญในการรายงานข่าวต่อไป พร้อมกับระบุว่า เหตุการณ์นี้ตอกย้ำถึงอันตรายที่นักข่าวอาจเผชิญในแนวหน้า และย้ำถึงความสำคัญของบทบาทพวกเขาในการให้ข้อมูลที่จำเป็นต่อสาธารณะ
การประท้วงในลอสแอนเจลิสเข้าสู่วันที่ 4 ฝูงชนจำนวนมากหลั่งไหลเข้าสู่ใจกลางเมือง ขณะที่ตำรวจลอสแอนเจลิสเริ่มตั้งแนวสกัดแยกผู้ประท้วงออกจากเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลาง
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้ส่งกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ 2,000 นาย ไปยังนครลอสแอนเจลิส และทำให้เกิดความขัดแย้งกับผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียและนายกเทศมนตรีนครลอสแอนเจลิส ซึ่งต่างเชื่อว่าตำรวจท้องถิ่นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
ปกติแล้ว ทหารสหรัฐฯ ไม่ได้ถูกใช้ในหน้าที่เกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายภายในประเทศ กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิมักถูกใช้ในสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือเหตุการณ์ไม่สงบ แต่แทบทุกครั้งจะต้องได้รับความยินยอมจากทางการท้องถิ่น
รัฐแคลิฟอร์เนียได้ยื่นฟ้องรัฐบาลทรัมป์ โดยขอให้ศาลตัดสินว่าการเรียกระดมกองกำลังพิทักษ์แห่งชาติเพื่อรับมือการประท้วงในลอสแอนเจลิสขัดต่อรัฐธรรมนูญ และขอให้ศาลสั่งระงับการระดมกำลังในอนาคตทั้งหมด
ล่าสุด นายเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เปิดเผยว่า เขาได้รับข้อมูลว่าทรัมป์เตรียมส่งกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิอีก 2,000 นายมายังลอสแอนเจลิส
ด้านประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ว่า จะส่งกองกำลังพิทักษ์แห่งชาติเพิ่มเติมไปยังรัฐแคลิฟอร์เนียหากจำเป็น รวมถึงแสดงการสนับสนุน ทอม โฮแมน ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ ที่ขู่ว่าจะจับกุมนายนิวซัม และนายกเทศมนตรีลอสแอนเจลิส คาเรน แบส หากทั้งสองเข้าไปแทรกแซงการบังคับใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมืองของรัฐบาลกลาง