31 ต.ค. 68 เวลา 16.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นเมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังการหารือทวิภาคีกับ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ
โอกาสนี้ ประธานาธิบดีจีน กล่าวถวายความอาลัยการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อีกครั้ง นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณและซาบซึ้งประธานาธิบดีสีจิ้น ผิง ที่ได้มีสารถวายความอาลัย และยังได้กล่าวด้วยถ้อยคำในครั้งนี้ ซึ่งมีความหมายต่อคนไทย ทั้งนี้ จะได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลทรงทราบด้วย
นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีกับความสำเร็จของการประชุม Fourth Plenum ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ชุดที่ 20 ครั้งที่ 4 ซึ่งได้วางแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจจีนในระยะ 5 ปีข้างหน้า พร้อมย้ำว่าปี 2568 ถือเป็นวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน ซึ่งเป็นจังหวะสำคัญในการร่วมกำหนดวิสัยทัศน์ใหม่เพื่ออนาคตที่ปลอดภัยและรุ่งเรืองร่วมกัน
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยืนยัน และพร้อมผลักดันความร่วมมือกับไทยในทุกมิติ ทั้งการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการเชื่อมโยงระดับประชาชน ขณะที่ นายกรัฐมนตรีเห็นถึงศักยภาพในการขยายความร่วมมือด้านนวัตกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงเศรษฐกิจดิจิทัล พลังงานสะอาด และเกษตรเพื่ออนาคต
นายกรัฐมนตรีชื่นชมความจริงจังของประธานาธิบดีสี ที่ให้คำมั่นกับไทยในการร่วมกันปราบปรามภัยไซเบอร์ ซึ่งถือว่าเป็นอาชญากรรมทั้งทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจ ซึ่งไทยถือเป็นวาระแห่งชาติและจะระดมความร่วมมือจากภูมิภาคเพื่อที่ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีนี้ด้วย
นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีสี ยังหารือถึงความร่วมมือด้านการเชื่อมโยง ซึ่งไทยกล่าวถึงความคืบหน้าการบริหารจัดการดำเนินการก่อสร้างรถไฟไทย-จีน รวมถึงโครงการสะพานมิตรภาพไทย–ลาวแห่งที่ 2 (หนองคาย–เวียงจันทน์) ซึ่งเป็นสะพานทางราง เพื่อเชื่อมต่อรถไฟไทย-ลาว-จีน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมโยงระบบรางกับจีน ทำให้สินค้าสามารถเดินทางไปและกลับตั้งแต่จีนตอนล่างไปจนถึงแหลมมาลายู
ในการหารือ นายกรัฐมนตรียังยืนยันกับท่านประธานาธิบดีสี ถึงรัฐบาลที่ไม่มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการใช้กาสิโนมาเป็นเครื่องยนต์กระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเชื่อมั่นว่า ด้วยความสามารถของคนไทย ผลิตภัณฑ์ไทย สินค้าไทย รวมทั้งเทคโนโลยีที่ไทยมีอยู่ ไทยมีทางเลือกอื่นในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยให้ดีขึ้น จึงได้หยุดการนำเสนอกฎหมายการพนันทุกชนิดและขอเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวชาวจีนกลับมาเที่ยวอีกครั้ง
โดยรัฐบาลจะดูแลความปลอดภัยอย่างดี ซึ่งประธานาธิบดีกล่าวชื่นชมนโยบายไทยและย้ำว่า ไม่คิดแทรกแซงการดำเนินนโยบายภายในของประเทศใด ๆ แต่จะใช้มาตรการภายในของตน ในการหยุดยั้งไม่ให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเพื่อท่องเที่ยวกาสิโน เท่านั้น
เพราะจีนเห็นว่า ธุรกิจการพนันมีผลเสียต่ออย่างมากต่อวิถีชีวิตของคน ซึ่งนายกรัฐมนตรี ย้ำถึงนโยบายรัฐบาลชุดนี้และความรู้สึกของคนไทยส่วนใหญ่ ที่ไม่ต้องการมีการพนันที่ถูกกฎหมายเช่นกัน
นายกรัฐมนตรี ยังถือโอกาสนี้ ติดตามการเจรจาการซื้อข้าวไทยจำนวน 500,000 ตันซึ่งคณะเจรจาได้ทำงานมาระดับหนึ่ง ขณะที่จีนบริโภคบริโภคทั้งประเทศเกือบ 150 ล้านตัน ชื่อว่ามีแนวโน้มในทางที่ดี
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เชิญนายกรัฐมนตรีจีน มาการประชุมแม่โขง- ล้านช้าง ที่ประเทศไทยในช่วงปลายปีนี้ด้วย
“ภาพรวม การหารือกับประธานาธิบดีจีนสังเกตได้ถึงบรรยากาศฉันมิตร ปฏิกิริยากลับมาของจีนซึ่งถือเป็นประเทศมหาอำนาจและและมีความสำคัญ เปลี่ยนแปลงทิศทางที่ดีขึ้น และคณะผู้บริหารที่ร่วมหารือก็มีความพึงพอใจ ความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ที่หยุดชะงักไป ได้รื้อฟื้นกลับมาอีกครั้ง เนื่องจากความสัมพันธ์ที่ดีต้องมาจากพื้นฐานความสัมพันธ์ที่ดี ความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้าย