พบแล้ว “น้องเทียน” เด็ก 14 หายที่ญี่ปุ่น เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ!!
1. ผู้ร่วมเดินทางไปด้วยควรตรวจสอบทรัพย์สิน ของมีค่า สิ่งของจำเป็น เช่น เงิน หนังสือเดินทาง โทรศัพท์ อุปกรณ์ถ่ายภาพ ยาประจำตัว "หากสิ่งของจำเป็นเหล่านี้หายไปด้วย อาจเป็นไปได้ว่า คนหายออกจากที่พักด้วยความตั้งใจ" แต่หากสิ่งของจำเป็นไม่ได้ถูกนำไปด้วยเลยประเมินเบื้องต้นว่า คนหายอาจไม่ได้ตั้งใจออกไปจากที่พัก เพราะไม่มีการเตรียมตัว
2."ประเมินพฤติกรรม อายุ และความสามารถในการเอาตัวรอดของคนหาย" เช่น คนหายยังเป็นเด็กเล็ก หรือผู้สูงอายุที่มีอาการหลงลืม หรือมีอาการป่วยหรือไม่ ซึ่งมีความเสี่ยงในการพลัดหลงหรือเกิดอุบัติเหตุ
3. "ประเมินเหตุจูงใจของคนหายในการหายไป" เช่น ทะเลาะกับคนในครอบครัว ทะเลาะกับเพื่อนร่วมกรุ๊ปทัวร์ มีภาวะป่วยทางสุขภาพจิต มีความสนใจเป็นพิเศษต่อเรื่องใดในประเทศนั้นๆ หรือมีเหตุอื่นที่อาจทำให้คนหาย หายตัวไป
4. "ตรวจสอบบริเวณที่พักหรือบริเวณที่หายไป" ดูจุดที่อาจเกิดอุบัติเหตุ แหล่งน้ำ ตลอดจนจุดที่มีกล้องวงจรปิด
5.หากยังค้นหาไม่พบ "ควรไปแจ้งความที่สถานีตำรวจในพื้นที่" โดยอาจขอคำแนะนำและการอำนวยความสะดวกจากโรงแรมที่พัก ทั้งนี้ กฏหมายและระเบียบในการแจ้งความคนหายของแต่ละประเทศอาจมีความแตกต่างกันเรื่องเงื่อนไขเวลาในการรับแจ้งเหตุ
6. "ประสานสถานทูต" ในประเทศนั้นๆ ข้อมูลการติดต่อสถานทูตไทยในต่างประเทศ
7.กรณีญาติคนหายที่อยู่ในประเทศไทย สามารถขอความช่วยเหลือได้ที่ "กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ โทร 0-2575-1047 ถึง 51"
8.ควรมีผู้ประสานงานหลัก ในประเทศที่คนหาย หายตัวไป อาจเป็นญาติ เพื่อน หัวหน้ากรุ๊ปทัวร์ (แล้วแต่กรณี) โดยควรมี "หมายเลขโทรศัพท์และอีเมล์เพื่อประสานงาน"
9.การทำการประกาศคนหาย ไม่ว่าช่องทางใด "ควรหารือกับตำรวจท้องที่นั้นและได้รับความยินยอมจากญาติของคนหาย"
10.หากญาติหรือผู้ประสานงานกรณีคนหาย ต้องเดินทางกลับประเทศไทยตามกำหนดการก่อนพบตัวคนหาย จะต้อง "ทราบชื่อและช่องทางการติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบคดี" และกลับมาติดตามเรื่องผ่านสถานทูตและกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ
ที่มา : ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา